หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน
วันรุ่งขึ้น จะมีการสังคายนาพระไตรปิฎกโดยพระอรหันต์
ซึ่งมีเพียงพระอานนท์ ที่ยังทรงเป็นพระโสดาบันเพียงรูปเดียว
คืนนั้น ท่านจึง เคร่งครัดกับตนเอง อย่างยิ่งยวด
ด้วยการ เดินจงกรม สลับ นั่งสมาธิ
จนใกล้แจ้ง เหนื่อยอ่อน กำลังล้า จึงคิดละ(ความอยากบรรลุพระอรหันต์)
ได้เดินมา เพื่อเอนกายลงนอน เพียงเท้าลอยจากพื้น ก็สำเร็จพระอรหันต์ ในท่าที่เรียกว่ากึ่งนั่งกึ่งนอน หรือท่าเอนกายได้ เล็กน้อย
...........
ถ้าเปรียบเทียบ ดูจะเห็นว่า ท่านถึงที่สุดแห่งทุกข์ เมื่อ ทำสมาธิจนเข้มข้นถึงที่สุด แล้ว ถอยจิต ลงมานิดนึง
จิตจึงแจ้ง(มีวิชชา)ได้อย่างแท้จริง หรือเป็นการวางทั้งกุศลและอกุศล
เนื่องจาก ความคร่ำเคร่งในการทำสมาธิ ยังจัดว่าเป็นกุศลอยู่/สลับกับกุศล ยังไม่เป็นกลางอย่างแท้จริง ตามหลักของทางสายกลาง
...หรือ ข้ามผ่าน สังขารขันธุ์ มาเป็น วิชชา (ตามวงจรของปฏิจจสมุปปบาท) ซึ่งหัวโจกของ วงจรคือ ความไม่รู้ (ในอริยสัจ 4)

สบายแล้วท่านอวตาร/ท่านกอล.. อดนอน สัก 1คืน ..ก็ ...จบ ..ได้
(ถ้ามี องค์ประกอบ 5 อย่างบริบูรณ์ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา ) 