KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับธรรมมะกับมนุษย์ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน ธรรมมะจากพระสงฆ์ สุปฏิปันโน เป็นข้อคิด และแนวทาง เพื่อเป็นแรงใจในการปฏิบัติภาวนาธรรมะที่ถ่ายทอดโดยหลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย
หน้า: 1 [2]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะที่ถ่ายทอดโดยหลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย  (อ่าน 48848 ครั้ง)
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #15 เมื่อ: มกราคม 17, 2015, 10:46:25 AM »

เหล็ก โลหะ เมื่อทิ้งเอาไว้ หรือนำเอาไปฝังดินเป็นเวลานาน ๆ
เมื่อขุดดู เหล็กนั้นมันก็ไม่เหลือ เพราะสนิมมันกินจนหมดไม่มีเหลือ
ใจมนุษย์ของเราก็เหมือนกัน หากทิ้งเปล่าไว้ ไม่ดูแลรักษา คบกับกิเลส
โลภ โกรธ หลง ราคะ โทสะ โมหะ รัก ชัง หัวเราะ ร้องไห้ เหล่านี้
ใจมนุษย์ของเรามันก็ไม่เหลือ หมด ! กลายเป็นสัตว์เดรัจฉาน
เป็นมนุสสติรัจฉาโนไป ต้องระวังอย่าไปคบกิเลส
มันเป็นเพื่อนชั่ว เพื่อนช่างยุ
เราอย่าไปคบ อย่าไปเป็นทาสของมัน
สนิมกินเหล็ก กิเลสกินใจนะ ให้ระวังให้ดี !

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #16 เมื่อ: มกราคม 17, 2015, 10:49:33 AM »



มีสติแนบกับความรู้ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
พิจารณาลมหายใจเป็นไตรลักษณ์
หรือพิจารณากายคตาสติ
คือ พิจารณาร่างกายมองกระดูก
เอามันจุดเดียวก็ได้ ไม่ต้องนึกต้องคิด
มันจะแจ้งมันเอง
เห็นหมดในร่างกาย
แจ้งในความไม่มีอะไรเป็นเรา มีแต่ของสกปรก
เอาให้เห็นความโง่ บรมโง่ของเรา
ของมันเน่า มันเปื่อยมีแต่ของสกปรก
เราหลงรักหลงยึด จนจะตายกับของไม่เที่ยง
แถมไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
มีแต่ของโสโครก

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร


ขอบพระคุณข้อมูลจาก : FB K.Supani Sundarasardula
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #17 เมื่อ: มกราคม 18, 2015, 09:21:58 AM »

เรามาอาศัยกายนี้ทำคุณงามความดี
ร่างกายนี้ไม่ได้อยู่กับเรานานเท่าไรนะ
มันคร่ำคร่าชราภาพไปเรื่อย
มันเดินตามทางมันไปอยู่แล้ว ห้ามมันไม่อยู่
มันไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ใช่เรา
ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล
มันเป็นสภาพสูญห้ามไม่อยู่
ดังนั้นจงรีบทำความเพียรให้อาสวะกิเลสมันสิ้นไปโดยเร็ว

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #18 เมื่อ: มกราคม 18, 2015, 09:22:25 AM »

โลกใบนี้ ไม่เคยให้ความสมหวังกับใคร มีผู้หญิงคนไหนบ้าง ไม่ร้องไห้ ...
เผ็ดร้อน แสบสัน เจ็บปวด รวดร้าว แค่ไหนก็เจอมา ผ่านมาหมดแล้ว ...
อย่าไปเสียเวลาอีกเลย ... อุทิศตัวให้เป็นประโยชน์สูงสุด ของการเกิดดีกว่า

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #19 เมื่อ: มกราคม 18, 2015, 09:22:55 AM »

เป็นนักภาวนา ให้ภาวนาเอาให้รู้อย่างเดียว ใจเรามันชั่ว
ปัญญาตัวรู้นี่แหละทำให้เราฉลาด อย่าเอาหลายอย่าง
เอาตัวรู้อย่างเดียว จับปลาหลายมือ มันก็คว้าน้ำเหลว
จับรู้อย่างเดียว หายใจเข้าก็รู้ หายใจออกก็รู้

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #20 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2015, 01:17:04 PM »

การแผ่เมตตาต้องแผ่เป็นอัปปมัญญาถ้ามีว่าคนนี้รัก ให้มากๆ คนไม่ชอบใจ ไม่ให้แสดงถึงความมีอคติ ต้องให้เท่าเทียมไม่เจาะจง ให้หมด ใจจึงเป็นกลาง ให้หมดแหละ แผ่เมตตาให้เต็มดวง พ่อแม่จะได้บุญน้อยลงไปไหม ไม่หรอก เหมือนพระอาทิตย์ส่องโลก มันก็สว่างไปหมดทั่วทุกมุมโลกทุกคนก็เห็นความสว่างเท่ากันหมด

จากหนังสือ บันทึกธรรมจากหลวงปู่
พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (หลวงปู่ท่อน ญาณธโร)
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #21 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2015, 01:25:30 PM »

เวลาภาวนาต้องไม่มีตัวไม่มีตนไม่มีอะไรเป็นอาการว่างไปหมด
แต่ความรู้ไม่ว่างให้ย้อนเข้ามาพิจารณาธรรมะว่า
เราตกอยู่ในกองทุกขัง อนิจจัง อนัตตา เราเป็นผู้รู้ผู้เดียว
แม้ที่สุดก็ไม่มีเราในรู้นั้น ไม่ยึดมั่นยึดถืออะไรอีก วางหมด มันเบาไม่หนักแล้ว

จากหนังสือ บันทึกธรรมจากหลวงปู่
พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (หลวงปู่ท่อน ญาณธโร)
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #22 เมื่อ: เมษายน 10, 2018, 08:32:29 PM »



ปัจฉิมวาระของหลวงปู่ท่อน
.
จากบันทึกของพระธนู ฐานวฑฺฒโน คิลานุปฏฺฐาก และสทฺธิวิหาริกฺ รุ่นสุดท้าย
.
ต่อไปนี้ข้าพเจ้าขอบันทึกความทรงจำอันเกิดขึ้นมีขึ้น ในเหตุการณ์อันสูญเสียพ่อแม่ครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพแห่งวงการพระกรรมฐาน ดังนี้
เช้าวันเสาร์ที่ ๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ วันนั้นเป็นวันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา หลังจากข้าพเจ้าได้ฉันภัตตาหารเสร็จ ก็ได้เดินเข้าไปยังห้องที่หลวงปู่พักรักษาอาการอาพาธ ในโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ซึ่งเป็นกิจวัตรยามเช้าปกติธรรมดาเหมือนเช่นทุกวัน
พอถึงเวลา ๙ นาฬิกา หมอได้มาอาราธนานิมนต์หลวงปู่ เพื่อไปทำการเอ็กซเรย์สมอง เสร็จแล้วก็ได้นำท่านกลับขึ้นมาพักยังห้องพักดังเดิม ตามด้วยบรรดาพยาบาลได้ขอตรวจคลื่นสมองท่านภายในห้องด้วยเครื่องมือทางการเเพทย์ ในเวลานั้น สังเกตดูสีหน้าของท่านดูซีดเผือดกว่าปกติ ไม่มีน้ำมีนวลให้ปรากฏเห็นเช่นเคย คาดว่าท่านคงเหนื่อยล้า หลังจากที่คณะพยาบาลได้ตรวจคลื่นสมองเสร็จแล้ว ได้แจ้งว่า ขั้นตอนต่อไป จะได้อาราธนาท่านไปทำการฟอกไต และฟอกเลือด โดยอาราธนาท่านลงไปชั่งน้ำหนักที่ ชั้น ๘ เพราะว่าตาชั่งจะมีมาตรฐานกว่าเครื่องที่เคยนำมาชั่งที่เตียง ทีเเรกข้าพเจ้าคิดว่าจะไม่ติดตามลงไป แต่ข้าพเจ้าก็เกิดสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก จึงต้องตามลงไปด้วย
ขณะที่นำท่านลงไปชั่งน้ำหนักที่ชั้น ๘ นั้น ข้าพเจ้าสังเกตเห็นอาการของท่านดูไม่ค่อยดีนักเพราะ ท่านจะนิ่งสงบ จนเป็นที่ผิดสังเกต เมื่อชั่งน้ำหนักเสร็จ ผลน้ำหนักท่านชั่งได้ ๖๒ กิโลกรัม ซึ่งแตกต่างจากวันที่ทางพยาบาลมาดำเนินการชั่งให้ที่เตียงห้องท่านพักซึ่งมีน้ำหนักเพียง ๕๘ กิโลกรัม อย่างไรก็ดี มันคงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะน้ำหนักอาจจะไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยของเครื่องชั่งแต่ละเครื่อง
เมื่อท่านชั่งน้ำหนักที่ชั้น ๘ เสร็จแล้ว ก็ได้นำท่านกลับมายังห้องโดยขึ้นทางลิฟ ข้าพเจ้าสังเกตเห็นว่า ทำไมวันนี้หลวงปู่ถึงได้ซีดและใบหน้าก็นิ่งเฉย ไม่มีการขยับเหมือนดังวันก่อนมา สีสันวรรณะก็เหลืองกว่าทุกวัน ข้าพเจ้ายังได้พูดคุยกับผู้ช่วยพยาบาลถึงข้อสังเกตนั้น เมื่อนำองค์ท่านขึ้นกลับมายังห้องพักที่ชั้น ๑๓ แล้ว คณะพยาบาลกำลังดำเนินการจัดเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อทำการฟอกเลือดและไตของหลวงปู่ในเวลาอันใกล้
ข้าพเจ้าเกิดความกังวลอยู่ จึงได้เดินไปเดินมาระหว่างที่นั่งกับเตียงของหลวงปู่ ในขณะที่ข้าพเจ้าเดินไป โดยปกติแล้วข้าพเจ้าจะเอามือของข้าพเจ้าไปจับไปคลำ บริเวณมือและเท้าของท่านเสมอ แต่การจับท่านครั้งนี้มันช่างแตกต่าจากแต่ก่อนเก่ามากเหลือเกิน เพราะบริเวณมือขององค์ท่าน มีสีเหลืองซีด และเริ่มเขียวคล้ำตามเล็บมือขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าเกิดความตกใจ จึงได้เอามือไปจับหาจุดชีพจรของหลวงปู่ ปรากฎว่าคลำหาอย่างไรก็ไม่พบการเต้นของชีพจรเลย ข้าพเจ้าจึงได้ให้ผู้ช่วยพยาบาล ได้ทำการใช้เครื่องมือวัดชีพจรและความดัน ผลปรากฎว่า ชีพจรและความดันของท่านไม่มีเลย เขาจึงต้องรีบเรียกระดมแพทย์และพยาบาลมาช่วยกันปั้มหัวใจของหลวงปู่เป็นการด่วน ซึ่งเวลาในตอนนั้นก็เป็นเวลาประมาณ ๑๐ โมงเช้า จะค่อนๆ ไป ๑๑ โมงเช้า การช่วยเหลือของคณะแพทย์พยาบาลได้พยายามยึ้อชีพจรและความดันของหลวงปู่กลับมาทำงานเป็นผลสำเร็จ
(ข้าพเจ้าจะขอเล่าบรรยายถึงเหตุการณ์ในขณะที่คณะแพทย์และพยาบาลได้ทำการ CPR ต่อหลวงปู่ ข้าพเจ้าได้เห็นการทำงานของคณะแพทย์พยาบาล ทำให้ข้าพเจ้าตั้งอกตั้งใจ มองอย่างไม่จืด ไม่จางเลย ไม่ว่าจะเป็นหมอเล็กหมอใหญ่ต่างก็มีความร่วมมือสามัคคีช่วยกันอย่างคล่องแคล่ว ยิ่งดูยิ่งเกิดความปีติขึ้นมาในใจ คือดูแล้ว การทำงานในตอนนั้นไม่มีใครจะมาถือตัวถือตนว่าเป็นหมอระดับครูหรือหมอระดับเชี่ยวชาญ ต่างคนต่างก็ให้โอกาสกันได้แสดงความสามมารถอย่างเต็มที่ จนสามารถฟื้นชีพจรของหลวงปู่กลับมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมงเลยทีเดียว)
จะขอเล่าต่อไปในขณะที่ชีพจรองค์หลวงปู่กลับมาทำงานอีกครั้ง ทางแพทย์ได้นำท่านย้ายลงมาพักอยู่ที่ห้อง ๗๑๐ ภายในห้อง ICU แพทย์ก็ได้ทำการถวายยาเพื่อช่วยกระตุ้นความดัน และกระตุ้นระบบต่างๆ ให้สามารถทำงานได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อสรรพสิ่งตั้งอยู่บนกองของอนิจจัง กองทุกขัง และกองอนัตตา เมื่อมีเกิด ก็มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดาของคู่กัน สมดังพุทธพจน์ของสมเด็จพระบรมศาสดา เป็นเช่นนี้มา แม้แต่ตัวของข้าพเจ้าเองก็ไม่สามารถคาดคะเนเดาได้
ท่านทั้งหลายขอจงรู้ไว้ว่า เมื่อถึงเวลา ธาตุขันธ์ก็จะแตกสลาย ถึงจะเอาของดีของวิเศษที่ไหนเพื่อมารักษา ก็ไม่สามารถจะเก่งก้าวข้ามกฏของไตรลักษณ์นั้นไปได้ อาการของหลวงปู่ก็เช่นกัน ท่านได้อ่อนลงไปตามลำดับ อุปมาเปรียบเหมือนกับไฟตะเกียงที่มีน้ำมันเลี้ยงไส้เพื่อให้ไฟลุกเกิดแสงสว่าง ในเมื่อน้ำมันที่เลี้ยงไส้ตะเกียงได้ค่อยๆ หมดลงย่อมทำให้แสงของตะเกียงดับลงไปในที่สุด
ในขณะนั้นเป็นเวลา ๑๖ นาฬิกา ๔๕ นาที เส้นกราฟที่วัดชีพจรความดันและหัวใจ ได้ค่อยๆ ลดลงมาถึงที่ ๐ เป็นอันว่าหลวงปู่พระราชญาณวิสุทธิโสภณ หรือหลวงปู่ท่อน ญาณธโร ได้ละสังขารลงแล้วอย่างสงบและงดงาม ยังความโศกเศร้าอาลัยแก่พระเณรอุปัฏฐาก ที่ดูแลท่าน และบรรดาเหล่าลูกศิษย์ที่มาเฝ้ารออยู่ที่หน้าห้อง ICU บรรยากาศในวันนั้นช่างมีบรรยากาศมืดครึ้ม และอากาศก็หนาวเย็นลงมาอย่างเห็นได้ชัด แตกต่างจากวันก่อนๆ ที่ผ่านมา เปรียบเป็นสัญาณแจ้งไว้ว่าจะมีการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่มายังบรรดาเหล่าชาวพุทธที่เคารพเเละศรัทธาในองค์ท่าน
.
***หากเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้าได้บันทึกความทรงจำที่ได้บรรยายไปแล้วนี้ ขาดตกบกพร่องไปประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าก็ขออภัยกับท่านทั้งหลายไว้ด้วย ที่ข้าพเจ้าได้เขียนบรรยายมานี้ก็ไม่ได้มีเจตนาว่าจะอวดตนอวดกิเลสของข้าพเจ้าแต่ประการใดดอก แต่ข้าพเจ้ามีความทรงจำซึ่งอยู่ภายใต้กฎของกองอนิจจัง ข้าพเจ้าจึงนำมาบันทึกไว้ บางทีท่านทั้งหลายที่มีความสนใจอยากจะทราบถึงเหตุการณ์ในวันที่สูญเสีย หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ก็จะได้ศึกษาเพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจ ได้ดังตามที่ข้าพเจ้าจะพอจดจำได้นี้

ฐานวฑฺฒโนภิกฺขุ

ภาพหลวงปู่อร่าม ชินวังโส ดูองค์หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
ขอบพระคุณภาพจาก คุณพัชรินทร์ จั่นทอง
เพจ:ต้นโพธิ์
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
หน้า: 1 [2]
พิมพ์
กระโดดไป: