KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับธรรมมะกับมนุษย์ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน ธรรมมะจากพระสงฆ์ สุปฏิปันโน เป็นข้อคิด และแนวทาง เพื่อเป็นแรงใจในการปฏิบัติภาวนาธรรมะที่ถ่ายทอดโดย พระอาจารย์ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
หน้า: [1] 2 3 4
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะที่ถ่ายทอดโดย พระอาจารย์ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ  (อ่าน 63719 ครั้ง)
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: ตุลาคม 02, 2012, 02:45:05 PM »



ยาพิษ ไม่ได้เป็นโทษอยู่ที่ยา มันเป็นโทษที่ตัวเราเองหรือผู้ที่กินเข้าไป
เพราะ ความโง่ คืออวิชชาไม่รู้จักพิจารณาว่าสิ่งใดดีหรือชั่ว คือผู้ไม่รู้เท่าในอารมณ์ 5

ท่านพ่อลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 22, 2013, 10:00:04 PM โดย golfreeze » บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 09:12:31 PM »

"..เราบอกกับตัวเองว่า อยากได้ความสุข
แต่ เราก็โดดเข้าไปสู่กองไฟร้อน
เรารู้ว่าสิ่งนั้น ๆ เป็นยาพิษ แต่เราก็ดื่มมันเข้าไป
นี่แหละ เป็นการทรยศต่อตัวเอง.."

หลวงพ่อลี ธัมมธโร
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2013, 03:26:44 PM »

"ความสุขที่แท้จริงนั้น ย่อมเกิดจาก บุญกุศลคือความสงบที่เกิดขึ้นในจิตใจ
ใจที่พ้นจากทุกข์โทษความดิ้นรน ไม่มีกระสับกระส่ายเดือดร้อนกระวนกระวายถ้าใครมานั่งหลงโลกติดโลก
ว่ามันเป็นของดีวิเศษวิโสอยู่นั่นมิใช่นิสัยของบัณฑิต ผู้ใฝ่ใจในธรรมของพระพุทธเจ้า"

เพราะฉะนั้น เราจงพากันตั้งอกตั้งใจประกอบบุญกุศลเพื่อจะให้เป็นทางที่พ้นไปจากโลกนี้
นั่นแหละจะเป็นหนทางที่ถูกต้อง

...........ท่านพ่อลี ธมฺมธโร........
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 17, 2013, 08:41:02 PM »

สมาธิ คือจิตที่แน่นอยู่ในอารมณ์เดียวเรียกว่า “สมถะ” จิตที่ไม่ติดต่อกับสิ่งใด
มีความสะอาด ปราศจากอารมณ์ภายนอก มีสติสัมปชัญญะ รู้รอบคอบ
ปลดปล่อยอารมณ์เสียได้ เรียกว่า “วิปัสสนา” เมื่อสมาธิซึ่งประกอบด้วยวิปัสสนาเกิดขึ้น
ความเป็นใหญ่ เป็นอิสระในตัวทั้ง ๕ อย่างก็จะบังเกิดขึ้นพร้อมกันคือ

๑. ”สัททินทรีย์” ศรัทธาความเชื่อก็เข้มแข็งมั่นคง ใครจะมาพูดดีหรือไม่ดีอย่างไร ใจก็ไม่หวั่นไหว

๒. “วิริยินทรีย์” ความพากเพียรก็แก่กล้า ถึงใครจะมาสอนให้หรือไม่สอนให้ ก็ทำไปเรื่อย ไม่ท้อถอยหรือหยุดหย่อน

๓. “สตินทรีย์” สติก็เป็นใหญ่ เป็นมหาสติ ไม่ต้องไปข่มไปบังคับ มันก็แผ่จ้ากระจายไปทั่วตัวเหมือนต้นไม้ใหญ่
กิ่งก้านใบของมันย่อมจะแผ่สาขาลงมาคลุมลำต้นของมันไว้ และพัดกระพือขึ้นเองโดยไม่ต้องมีใครไปจับเขย่าหรือดึงยอดมันลงมา
ความรู้ของเราก็จะจ้าไปหมด ทั้งยืนเดิน นั่ง นอนทุกอิริยาบถ มันรู้ของมันได้เองโดยไม่ต้องไปนึก
ความรู้รอบอย่างนี้แหละเรียกว่า ”มหาสติปัฏฐาน”

๔. “สมาธินทรีย์” สมาธิของเราก็เป็นใหญ่ จะทำอะไร ๆ อยู่ก็ตาม จิตก็ไม่มีวอกแวก ถึงจะพูด
จะคุยกันให้ปากอ้าออกไปตั้งวา ใจก็คงที่เป็นปกติอยู่ กายมันจะอยากกิน อยากนอน อยากนั่ง
อยากยืน อยากเดิน อยากวิ่ง อยากนึก อยากคิด อยากพูด อยากทำก็ทำไป ช่างมัน หรือว่ากายมันจะเจ็บ
จะป่วย จะปวด จะเมื่อยที่ตรงไหนก็ให้มันเป็นไป จิตใจก็ตั้งเที่ยงอยู่ในอารมณ์เดียว ไม่วอกแวกไปทางอื่น

๕ “ปัญญินทริย์” ปัญญาความฉลาดรู้ก็เป็นให้เกิดขึ้นในตนเอง
อาจสามารถที่จะทำดวงจิตของตนให้บรรลุธรรมสำเร็จมรรคผลเป็นโสดา สกิทาคา อนาคาจนถึง อรหันต์ ก็ได้

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
วัดอโศการาม จ.สุมทรปราการ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 25, 2013, 12:51:10 PM »

วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ

บุคคลที่จะพ้นไปจากโลก บรรลุถึงพระนิพพาน ต้องอาศัยความเพียรเป็นรากเหง้า
ความเพียรจัดเป็นเครื่องดึงดูด ผลักดันบุคคลผู้นั้น ให้ก้าวไปสู่พระนิพพาน นี่พระองค์ได้ทรงพยากรณ์ไว้

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2013, 11:27:55 PM »

"พุทโธ ธมฺโม สงฺโฆ"นั้น
เป็นเพียงวัตถุหรือเครื่องหมายของพระ
ไม่ใช่องค์พระจริง ๆ ส่วนองค์พระจริง ๆ นั้นคือ "สติ"

โอวาทธรรมโดย
ท่านพ่อลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2013, 08:14:48 PM »

"รักษาศีล ๘ ก็กลัวจะหิวข้าวเย็น
กลัวจะไม่ได้ทาน้ำอบหอม
กลัวไม่ได้นอนเบาะฟูกสบาย
จะนั่งสมาธิ ก็กลัวเมื่อย เลยไม่กล้า ทำความดี
นี่แหละ เป็นการรักตัวเองไม่จริง
เป็นการเบียดเบียนตัวเอง โดยมองไม่เห็นแล"

โอวาทธรรม
ท่านพ่อลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2013, 10:22:05 PM »

"ผู้จะต้องถึง มรรค ผล นิพพาน ได้นั้น
จะต้อง "ทำทางใจ" ถ้าไม่ทำทางนี้แล้ว
จะทำ การกุศลสักเท่าไร
ก็ถึง มรรค ผล นิพพาน ไม่ได้

นิพพานนี้ จะต้องถึงด้วย
ข้อปฏิบัติทางใจ เท่านั้น
ที่เรียกว่า "ศีล สมาธิ ปัญญา"
ศีล เป็นเหตุ แห่งสมาธิ
สมาธิ เป็นเหตุ แห่งปัญญา
ปัญญา เป็นเหตุ แห่งวิมุตติ

"สมาธิ" เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นที่ตั้ง
แห่ง "ปัญญา-และ-ญาณ"
อันเป็นองค์สำคัญ ของมรรค
แต่จะขาดสมาธิไม่ได้ ถ้าขาดแล้ว
ก็ได้แต่ จะคิดๆ นึกๆ เอา ฟุ้งซ่านไปต่างๆ
ปราศจาก หลักฐานสำคัญ"

โอวาทธรรม
ท่านพ่อลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ

บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2013, 09:59:34 PM »

@..ลักษณะของ "อริยะบุคคลโสดาปัตติผล"..@

แม้ก่อนหน้าจะชั่วเลวมาขนาดไหน แต่ปัจจุบัน
ปฏิบัติธรรมจนถึงขั้น"โสดาบัน" ย่อมพ้นจากนรก
ไม่ลงนรก ไม่ต้องไปเกิดในภูมิที่ทรมาน
ปิดอบายภูมิทั้ง4คือ นรก เปรต อสุรกาย
สัตว์เดรัจฉาน

"โสดา" แปลว่า เป็นผู้เข้าถึงกระแสธรรม คือ
ปากช่องของพระนิพพานขั้นแรก
ถ้าจะย่นกล่าวก็คือ เป็นผู้ตัดสังโยชน์ 3 ที่หยาบๆ
ได้ขาดเป็น"สมุจเฉทประหาร"

-เป็นผู้มี "ศรัทธา ความเชื่อ เลื่อมใส" ในคุณ
"พระรัตนตรัย" อย่างมั่นคง-->นี้หนึ่ง

-เป็นผู้ที่มี "จาคะธรรม" ประจำใจ ไม่ประมาท
ไม่ลุแก่ความหลง-->นี้หนึ่ง

-เป็นผู้มี "ศีล" เป็นที่รักของตนยิ่งกว่าชีวิต
ตลอดทั้งชีวิตนี้รักษาศีล5ไม่ด่างพร้อย
เป็นอย่างน้อย "รักศีล"ยิ่งกว่าชีวิตตน
ยอมตายดีกว่าถ้าจะให้ผิดศีล-->นี้หนึ่ง

-เป็นผู้ไม่มีใจเจตนา ที่จะทำชั่วอันหยาบคาย อีกได้เลย
แต่ชั่วก็มีอยู่ คือ เป็นของเดิมที่ยังค้างอยู่
แต่ถึงอย่างนั้น ก็มิได้ให้อกุศลขึ้นหน้าได้อีก

-อธิบายสังโยชน์ 3 ที่"พระโสดาบัน"ละได้นั้น คือ-

1. "สักกายทิฏฐิ"
ถอนความคิดเห็นผิด อันเป็นเหตุให้เข้ายึดถือในรูป
คือ สกลกาย นั้น ว่า เป็น ตัวตน เสียได้

2. "วิจิกิจฉา"
ถอน"ความสงสัยลังเลใจ"ในนามรูป และ
สงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้แล้ว
ใครจะมาคัดค้านว่า "ความตรัสรู้ไม่มี ว่าการ
ปฏิบัติด้วย"ศีล สมาธิ ปัญญาไม่ได้ทำให้ถึง
มรรคผลนิพพานเลย" หากมีใครมากล่าวตู่เช่นนี้

แต่"ปัญญาของโสดาเห็นแน่แล้ว" ท่านมิได้
เชื่อคำเช่นนั้นเลยคือ เป็นผู้มีความเห็นเป็น
อกาลิโก มรรคผลไม่มีกาล ปัจจัตตัง
รู้เฉพาะตัวอย่างเดียว เชื่อแน่ไม่สงสัย
มีความรู้มั่นไม่เหลวไหล

3. "สีลัพพตปรามาส"
ถอนความเชื่อถืออันศักดิ์สิทธิ์แห่งนามรูป
ภายนอกและภายใน ไม่ลูบคลำศีลพรต
ของตนอีก (กิริยามารยาท) ทำอะไรย่อมรู้เหตุ
และผลเสมอ มิได้ทำด้วยความมืด เพราะเป็น
ผู้เชื่อกรรมการกระทำของตน เป็นใหญ่ด้วย

"กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม" ที่ตนทำนี้
"ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" เชื่อมั่นต่อคุณ
"พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์" ที่ปรากฏในตน
"ไม่ลูบคลำในศีล"ของตนอีกต่อไป เป็นผู้มีศีล
บริสุทธิ์มิได้เศร้าหมองเลย

ตัดสังโยชน์ 3 ด้วย"ศีล สมาธิ ปัญญา"
ที่"กาย วาจา ใจ" ดับลง..

_/|\____โอวาทธรรม ท่านพ่อลี ธมฺมธโร______/|\_
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2013, 11:19:23 AM »

พระพุทธศาสนา ไม่ใช่ เรื่องของการอ้อนวอน
ร้องขอ หรือ ให้กันได้ ทุกคน จะต้อง ทำ
ด้วยตน ของตนเอง จึงจะได้รับผล

นิพพานนี้ จะต้องถึงด้วย ข้อปฏิบัติ
ทางใจเท่านั้น ที่เรียกว่า "ศีล สมาธิ ปัญญา"

ท่านพ่อลี ธัมมธโร
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 11, 2014, 12:50:35 AM »

"เราบอกกับตัวเองว่า อยากได้ความสุข
แต่เราก็โดดเข้าไปสู่กองไฟร้อน
เรารู้ว่าสิ่งนั้นๆ เป็นยาพิษ แต่เราก็ดื่มมันเข้าไป
นี่แหละ เป็นการทรยศต่อตัวเอง"

ท่านพ่อลี ธัมมธโร
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 15, 2014, 04:05:17 PM »



" ถ้าใครไม่จริงกับพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาก็ไม่จริงกับผู้นั้น
และผู้นั้นก็รู้จักพระพุทธศาสนาที่แท้จริงไม่ได้
เหตุนั้น ท่านจึงสอนให้ทำสิ่งใดด้วยการทำจริง
ทานก็ทานให้จริง ศีลก็ศีลให้จริง
ภาวนาก็ภาวนาให้จริง อย่าทำเล่น ๆ
แล้วผลแห่งความจริงก็ย่อมจะเกิด
จากการกระทำเหล่านี้ ไม่ต้องสงสัย "


ท่านพ่อลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2014, 10:32:11 PM »

" ถ้าเราปรารถนาจะได้ความสุขอันเป็นยอดของมหาสมบัติทั้งปวง
ก็ต้องกระทำจิตให้ตั้งมั่นอยู่ในบุญกุศล คือ ทาน ศีล ภาวนา ให้พร้อมบริบูรณ์ "

ท่านพ่อลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: มีนาคม 10, 2014, 11:40:27 PM »

๔๘๗.) ชีวิตที่เกิดกษัตริย์เมืองลังกาวัฎฏคามิณี พ.ศ.๔๓๓ ปี ได้อุปถัมภ์ทำสังคายานาครั้งที่ ๕ ได้นิมนต์พระสงฆ์เถระทั้งสองฝ่าย ๖,๐๐๐ รูปมาร่วมกันชำระบันทึกพระไตรปิฎก แต่ก่อนนั้นมุขปาฐะท่องจำกันมา และในช่วงนั้นก็เกิดสงครามแย่งชิงราชบัลลังค์ บ้านเมืองวุ่นวาย ต้องหลบไปอยู่ภูเขาวัดของพระมหาเถระหมู่หนึ่ง
ในบริเวณวัดนั้นมีน้ำหนองใหญ่ เขากั้นเป็นชลประทานไว้ หมู่พระเณรก็ใช้น้ำหนองนั้นอาบใช้อยู่กิน แบ่งเขตของภิกษุณี นางสิกขามานาออกไป พวกนางสิกขามานาและคนข้าวัดก็ทำการเพาะปลูกเอาไว้กินกันเอง อยู่กับพระเณรในวัดนั้น จนบ้านเมืองสงบลงขาดผู้ครองเมืองจึงได้มาขอให้กลับไป ครองราชย์ก็จะเรื่องอะไร เครือญาติเชื้อพระวงศ์แก่งแย่งกัน เราก็ประกาศว่า ข้าฯไม่อยากได้ไม่ต้องการที่จะเป็นหรอกกษัตริย์ ใครอยากได้ก็จงเป็นเถิด ว่าแล้วได้ม้าขี่พร้อมมหาอำมาตย์คนหนึ่งก็หนีออกไปด้วยกัน ไปถึงวัดแล้วพระเณรท่านห้ามมิให้บวช ให้รออยู่ก่อน จนกว่าบ้านเมืองจะสงบ กลับออกไปครองบ้านเมือง บูรณะบ้านเมือง จัดการจนบ้านเมืองสงบปกติดีแล้วก็มา จัดการเรื่องศาสนาชำระพระไตรปิฎก จารึกบันทึกเอาไว้

จารึกพระพุทธพจน์ก่อน แล้วก็จารึกพระวินัย ใช้เวลาอยู่ ๑๑ เดือนจึงแล้วเสร็จบริบูรณ์ จากนั้นก็บูรณะปฏิสังขรณ์ สร้างวัดวาอาราม บรรจุพระไตรปิฎกเอาไว้หลายสิบแห่งรวมอยู่นั้นได้ ๑๗ ปีจึงหยุด พระเถระผู้เป็นหัวหน้าชื่อ พุทธรักขิตตเถระ เป็นคนสูงใหญ่ล่ำสัน ผิวดำแดง เป็นผู้แม่นยำมากในพระธรรม พระวินัย เป็นพระอรหันต์แบบปฏิสัมภิทัปปัตโต อีก ๒ องค์นั้น พระธรรมรักขิตตเถระองค์นี้เก่งพระสูตรพระพุทธพจน์อีกองค์หนึ่ง พระสังฆรักขิตตเถระ เก่งในพระวินัย พระเถระเจ้า ๓ องค์นี้เป็น ๓ พี่น้อง เป็นญาติทางแม่ของพระเจ้าแผ่นดินองค์นั้นละ พระเถระพากันไปนิพพาน เหลือแต่วัฎฏคามิณีและอำมาตย์และม้าตัวนั้น เวียนว่ายตายเกิด เร่ร่อนอยู่ในโลกทุกข์ หาทางออกจากทุกข์ต่อไป ”

๔๘๘.) “ สังคยานาครั้งที่ ๓ นั้นผู้ข้าฯ เกิดเป็นหลานของพระเจ้าอโศกมหาราชได้ช่วย เหลือในการงานต่าง ๆ ในครั้งนั้น ท่านอาจารย์ลี (ธมฺมธโร) วัดอโศการามเกิดเป็นพระเจ้าอโศกเมืองปาฎลีบุตร แคว้นมคธ ทำอยู่ ๙ เดือน แต่เดือน ๘ - ๙ - ๑๐ - ๑๑ - ๑๒ - ๑ - ๒ - ๓ - ๔ - ๕ ย่างเข้าเมษาหน้าร้อนจึงแล้วเสร็จจัดของถวายสงฆ์ ๖,๐๐๐ รูปทั้งภิกษุณีอีก หมู่พระเถระในที่ประชุมสังคยานาคัดเลือกเอา ๑,๐๐๐ รูปนอกนั้นอยู่รอบนอก สาเหตุมาจากสงครามมาหลายปี บ้านเมืองเดือดร้อน ผู้คนไม่อยากเป็นทหารก็เลยหนีเข้าบวช
ปลอมเป็นพระเป็นนักบวชในลัทธิต่าง ๆ บวชปลอมแล้วก็ตั้งอยู่กันเป็นหมู่เป็นก๊ก อิเหละเขละขละไปตามเรื่อง ชอบอย่างใดก็อยู่ไปกินไปอย่างนั้น จึงได้นิมนต์พระโมคคัลลีบุตรมาช่วย คัดเลือกพระจริงพระปลอม ให้พวกปลอมตัวสึกไป แต่ในครั้งนี้ได้ชำระพระวินัยก่อน แล้วชำระพระสูตร พระอภิธรรม ชำระไปได้เท่าใดแล้ว ก็ให้จัดสอนให้พระสงฆ์สามเณร ภิกษุณีสิกขามานา อุบาสกอุบาสิกา พากันท่องจำทรงไว้ พระวินัยใครพอใจก็ให้ท่องไว้ ให้มีลำดับอายุ ๓ ระดับ
อายุแก่
อายุปานกลาง
อายุยังน้อยยังหนุ่ม
ใครพอใจพระสูตรก็เป็นหมู่พระสูตร
ใครพอใจพระอภิธรรมก็เป็นหมู่พระอภิธรรม
๙ เดือนแล้วเสร็จ แล้วจากนั้นก็ส่งพระธรรมทูตไปในทิศต่าง ๆ ตำราเขากล่าวไว้ ๘ สาย แต่ที่จริงกระจายออกไปมากกว่านั้น ก่อสร้างวัดวาอารามนับได้ครบ ๘๔,๐๐๐ วัดแล้วก่อสร้างที่เก็บรักษาพระพุทธรูป พระสถูป พระเจดีย์ ให้กระจายไป แต่ละรายก็จัดให้ไปครบทั้ง ๓ หมู่

ท่านอาจารย์ลี พระเจ้าอโศกมหาราช ผู้เป็นลุงจ่ายเงินออกไปจนหมดคลังหลวงบำรุงพระพุทธศาสนา หมู่เศรษฐี คหบดี สละทรัพย์เข้าคลังคงที่มาอีก เริ่มตั้งแต่นับ พ.ศ มาเรื่อยมา มีพระเจ้าอโศกมหาราชองค์เดียวองค์นี้ล่ะที่ตั้งใจในพระศาสนา แต่ก่อนที่จะมาเป็นมหาราชธรรมได้ก็ใช้ดาบตัดคอคนจนนับมิได้ เกิดตายว่ายเวียนมาจนถึงท่านอาจารย์ลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม นั่นล่ะชีวิตของเพิ่นจึงได้เกี่ยวข้องกับพระธาตุของพุทธะ ของพระอรหันต์ บาปฆ่าคนเหล่านั้น มาชีวิตนี้อายุสั้น ๕๕ ปี เพราะอานิสงส์ทำสงครามของเพิ่น ”

***คัดจากธรรมประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ : วัยสุดท้ายบ่พ่ายแพ้แก่ตน
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: มีนาคม 13, 2014, 10:33:48 PM »

" อย่า หายใจเปล่า
ให้หายใจเอา "พุทโธ" เข้าออก
เหมือนน้ำไหลเข้าไปในร่างกาย
ใจของเรา ก็จะเย็นสบาย เป็นสุข "

ท่านพ่อลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
หน้า: [1] 2 3 4
พิมพ์
กระโดดไป: