KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับธรรมมะกับมนุษย์ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน ธรรมมะจากพระสงฆ์ สุปฏิปันโน เป็นข้อคิด และแนวทาง เพื่อเป็นแรงใจในการปฏิบัติภาวนาธรรมะที่ถ่ายทอด โดย พระอาจารย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
หน้า: [1] 2 3 ... 5
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดย พระอาจารย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน  (อ่าน 100690 ครั้ง)
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: กันยายน 08, 2012, 10:20:10 AM »



วัตถุสิ่งของเงินทอง ใครก็ทราบว่าอาศัยชั่วกาลชั่วเวลา
แต่กิเลสมันไม่ได้บอกว่าอาศัยชั่วกาลชั่วเวลา มันไม่พอใจ
สิ่งที่ให้พอใจก็คือให้ได้เต็มใจ เต็มใจเท่าไรมันก็ไม่เต็มอีกแหละ
เพราะกิเลสไม่เคยมีความอิ่มพอมีแต่ความหิวโหยตลอดไป

นี่ละเราประมวลออกมาแล้วว่าวัตถุภายนอกนี้เราอาศัยในชีวิตของเราที่เป็นอยู่นี้เท่านั้น
หมดนี้แล้วก็หมด สิ่งของเงินทองอะไรจะไปสวรรค์นิพพาน ตกนรกก็ไม่ไป
เราเองต่างหากผู้โง่เขลาและผู้ฉลาดที่จะไปตกนรกได้ และไปสวรรค์นิพพานได้
หาบบาปหาบกรรมก็คือตัวเราเอง บุญกุศลเทิดทูลจะไปสวรรค์ นิพพานก็คือตัวเราเอง


คุณงามความดีทำแล้วอบอุ่น
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
๑๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๕(เช้า)




ขอบพระคุณข้อมูลจาก : กลุ่มพุทธธรรมกรรมฐาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 09, 2012, 02:50:39 PM โดย golfreeze » บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2012, 02:28:52 PM »




“อันธพาลมันอยู่ในจิต แต่มันไปวาดภาพว่า คนนั้นเป็นอันธพาลต่อเรา
คนนี้เป็นอันธพาลต่อเรา ตัวเราเป็นอันธพาลใหญ่ไม่ดูตัวเอง
พอย้อนจิตเข้ามาดูนี้แล้ว อันธพาลนี้ดับปุ๊บ นอกนั้นไม่มี คือใจนี้เองเป็นตัวอันธพาล
ให้พากันจำเอา ดูตั้งแต่ภายนอกไม่ดูตัวเอง ไม่เกิดประโยชน์อะไร ให้ดูตัวเอง"

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2012, 02:50:14 PM »



การฝึกหัด "ภาวนา" เบื้องต้นโดยมากก้มักถูกกรรมฐาน "บทอานาปานัสสติ" คือกำหนดลมหายใจเข้าออก
โดยมีสติกำกับรักษา อย่าให้เผลอในขณะที่ทำ ทำใจให้รู้อยู่กับลมเข้าลมออก เท่านั้น ไม่คาดหมายผล
ที่จะพึงได้รับ มี่ความสงบ เป็นต้น ทำความรู้สึกอยู่กับลมเข้า ลมออก ธรรมดา อย่าเกร็งตัว เกร็งใจ จนเกินไป
จะเป็นการกระเทือนสุขภาพ ทางกายให้รู้สึกเจ็บนั้น ปวดนี้ โดยหาสาเหตุไม่เจอ

ซึ่งความจริงสาเหตุ ก็คือ การเกร็งตัวเกร็งใจ จนเกินไปนั่นเอง ควรมีสติรับรู้อยู่ธรรมดา ใจเมื่อได้รับการรักษาด้วยสติ
 จะค่อยๆสงบลง ลมก็ค่อยละเอียดไปตามใจที่สงบตัวลง ยิ่งกว่านั้น ใจก็สงบจริงๆ ลมหายใจขณะที่จิตละเอียดอ่อนที่สุด
จนบางครั้งปรากฎว่าลมหายไป คือ ลมไม่มีในความรู้สึกเลย ตอนนี้จะทำให้นักภาวนาตกใจกลัวจะตาย เพราะลมหายใจไม่มี

เพื่อแก้ความกลัวนั้น ควรทำความรู้สึกว่า แม้ลมจะหายไปก็ตาม เมื่อจิต คือ ผู้รู้ยังครองร่างอยู่ ถึงอย่างไร
จะไม่ตายแน่นอน ไม่ต้องกลัว อันเป็นการเขย่าใจตัวเองให้ถอนขึ้นจากความละเอียดมาเป็นจิตธรรมดา
ลมหายใจธรรมดา ซึ่งทำให้เกิดความเสียใจในภายหลัง

ถ้ากำหนดเฉพาะลมหายใจเป็นอารมณ์อย่างเดียว ไม่สนิทใจ จะตามด้วยการบริกรรม "พุทโธ" ก็ได้ ไม่ผิด
ผู้ชอบบริกรมเฉพาะธรรมบทใดบทหนึ่ง เช่น "พุทโธ" ก็ได้ ตามอัธยาศัยชอบ ไม่ขัดแย้งกัน สำคุัญที่ให้เหมาะกับจริต
และขณะภาวนา ขอให้มี "สติ" รักษา อย่าปล่อยให้ใจส่งไปตามอารมณ์ต่างๆ ก็เป็นอันถูกต้องในขณะการภาวนา
คำว่า "จิตใจ" "มโน" หรือ "ผู้รู้" เป็นอันเดียวกัน คือ เป็นไวพจน์ของกันและกัน ใช้แทนกันได้ เช่น กิน รัปประทาน
เป็นต้น มีความหมายอันเดียวกัน ใช้แทนกันได้

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
กัณฑ์เทศน์ วิธีพิสูจน์จิต และพระพุทธศาสนา
เทศน์อบรมนวกภิกขุ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ
เมื่อ ๒๐ ก.ค. ๒๕๑๔



ขอบพระคุณข้อมูลจาก : facebook
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2012, 06:45:27 PM »



"อยู่ที่ไหนสงบเย็นๆ อดบ้างอิ่มบ้างเพราะเราเกิดอยู่ในโลก อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา
ย่อมเจอด้วยกัน แต่จิตใจกับธรรมไม่พรากจากกัน ใจมีความสงบร่มเย็นมีคุณค่าตลอดเวลา
นี่คือคุณค่าของการภาวนา อยากให้ท่านชาวพุทธทั้งหลายได้อบรม

เฉพาะอย่างยิ่งเวลาจะหลับจะนอนควรจะได้กราบไหว้ย่อๆ
ฝืนเอาฝืนความขี้เกียจขี้คร้าน เพราะเราวิ่งตามมันมานานแสนนานไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไร
วันนี้เราจะฝืนกิเลสเข้าสู่ธรรม ด้วยการกราบไหว้พระสวดมนต์ย่อๆ
ตามกำลังของเราแล้วหันหน้าเข้ามาดูจิตใจ ซึ่งมีแต่กองฟืนกองไฟเผาไหม้อยู่ตลอดเวลา"

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
the suffering
Global Moderator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 9
กระทู้: 859


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2012, 07:22:54 PM »

สาธุ สาธุ

รักหลวงตา มาก ก ก

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2012, 07:26:27 PM »

อ่านแล้วอบอุ่นตามที่หลวงตาท่านกล่าวจริงๆ ครับผม

อบอุ่นในธรรม แม้ท่ามกลางลมหนาว ก็ยังอุ่น อุ่นไปถึงจิตถึงใจ จริงๆ

สาธุ ครับผม
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
the suffering
Global Moderator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 9
กระทู้: 859


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2012, 07:38:10 PM »

ทำไม การภาวนา

จึงเหนือบุญ 

ได้หนอ

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2012, 10:21:59 PM »

" การทำสมาธิ สมาธิจะเกิดขึ้นได้ด้วยการภาวนา โดยการบังคับจิตใจให้เข้าสู่จุดเดียวในคำบริกรรม
เช่น อานาปานสติ กำหนดลมหายใจเข้าออก การกำหนดลมหายใจเข้าออก
เราไม่ต้องไปคิดว่า “ลมสั้น หรือ ยาว” หายใจเข้า หายใจออก ไปถึงไหนบ้าง
ไม่ต้องไปตามลมเข้าและลมออก ขอให้รู้อยู่กับความสัมผัสของลม
ที่ไหนลมสัมผัสมากเวลาผ่านเข้าออก
ส่วนมากก็เป็น “ดั้งจมูก” จงกำหนดไว้ที่ตรงนั้น ให้ “รู้” อยู่ตรงนั้น
อะไรจะเป็นอย่างไรก็ให้รู้เฉพาะลมที่เข้าออกนี้เท่านั้น ไม่ต้องส่งไปทางไหน
ไม่ต้องไปปรุงไปแต่งเรื่องมรรค เรื่องผล"

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน"
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2012, 11:59:58 AM »



"จำไว้นะ ใครจะพูดอะไรก็ช่างเขา
กรรมมันอยู่ที่ผู้พูด ไม่ใช่อยู่ที่เรา
ไม่ต้องไปรับมาใส่ใจ"

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 14, 2012, 10:06:36 AM »



"เราก็พอใจเราที่ได้ช่วยโลกตามกำลังนะ คือการปฏิบัติของเราทั้งหมดนี้ให้ออกนอกหมดเลย
ออกเป็นประโยชน์โลก เราไม่สั่งสมไม่เก็บอะไรทั้งนั้น ออกๆ เลย ออกหมดเลย แล้วอันนั้น
(ตึกสงฆ์อาพาธ ๑๐ ชั้นที่หลวงตาเมตตา) นี่ก็ใช่แล้ว ตึก 10 ชั้น ตั้ง 10 ชั้นนะ ตึก 10 ชั้น
อันนั้นก็อยู่ด้วยกันจะเป็นอยู่ในบริเวณเดียวสร้างด้วยกันนะ ให้มันพอ เอาให้พอเสียทุกอย่าง
เวลาพอจริง ๆ มาพอที่นี่นะ สร้างที่ไหน ๆ ก็กวาดต้อนเข้ามาๆ เวลาเข้ามาแล้วมาอยู่ที่ดวงใจ
ใจกับธรรมเป็นอันเดียวกันเรียกว่าธรรมธาตุ นั่นละสุดยอด สร้างความดีงามทั้งหมดมา
มาลงในธรรมธาตุ ให้พรนะ หมดธุระแล้วให้พร"


หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เทศน์อบรมฆราวาสครั้งสุดท้าย
ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: ตุลาคม 14, 2012, 10:10:11 AM »



นี่ล่ะการฝึกฝนอบรมจิตใจเป็นอย่่างนั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะการฝึกใจเลวที่สุดก็ไม่มีอะไรเกินใจ
 เลิศที่สุดก็ไม่มีอะไรเกินใจ เกี่ยวกับการบำรุงรักษาหรือทำลายตัวเอง ใครทำลายตัวเองอยู่ในตัวก็เลวลงๆ
ใครมีการบำรุงรักษาจิตใจให้ดี ก็เรียกว่าเสริมจิตใจให้ดีขึ้นๆ
จนก้าวเข้าถึงธรรมธาตุ พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ท่านเป็นธรรมธาตุเหมือนกันหมด

ธรรมเหล่านี้ไม่ใช่สุดวิสัยของมนุษย์เรา ที่จะปฎิบัติให้รู้ตามเห็นตามจนถึงธ
รรมชาตินี้ อยู่ในวิสัยของผู้บำเพ็ญได้มากน้อย แล้วธรรมนี้จะเข้าเกี่ยวข้องไปเรื่อยๆ
เมื่อบำรุงรักษาให้เต็มที่แล้ว จิตนี้ก็เลยกลายเป็นธรรมธาตุอยู่ในท่ามกลางแห่งธาตุขันธ์
 ธาตุขันธ์เป็นธาตุขันธ์ จิตที่บริสุทธิ์แล้วรับผิดชอบเป็นเรื่องธาตุเรื่องขันธ์เพียงเท่านั้น
 พอธาตุขันธ์หมดสภาพพังลง อันนี้ก็ดีดผึงออกเป็นธรรมธาตุไปเลย นั่นล่ะธรรมพระพุทธเจ้าสอนจิตให้เลิศเลอขนาดนั้น
ลงจิตถึงขั้นธรรมธาตุแล้วหมดปัญหาโดยประการทั้งปวง ในโลกธาตุที่เป็นแดนสมมุตินี้ไม่มีสมมุติใดเข้าไปเกี่ยวข้องได้เลย
นั่นท่านเรียกว่า วิมุตติ จิตของท่านผู้สิ้นสุดจากเรื่องเหล่านี้แล้วก็เป็นจิตวิมุตติ บริสุทธิ์เต็มสัดเต็มส่วน นิพพานเที่ยงก็คือจิตดวงนั้น

ถ้าไม่ฝึกมันก็ไม่ได้เรื่องได้ราว ต้องฝึก ทุกอย่างต้องฝึก ตั้งแต่ล้มลุกคลุกคลานไป
นานต่อนานก็ค่อยดีขึ้นๆ ก็กลายเป็นจิตที่บริสุทธิ์ได้ เมื่อจิตบริสุทธิ์หมดสิ่งก่อกวนทั้งหลายแล้ว
นิพพานัง ปรนัง สุขัง ก็อยู่ในนั้น นิพพานเป็นสุขอย่่างยิ่ง เป็นสุขเหนือสมุมติทั้งปวง
ก็คือ จิตที่ฝึกฝนอบรมจนถึงขั้นบริสุทธิ์เต็มตัวแล้ว ก็เป็นนิพพานเที่ยงขึ้นมาที่ใจ
ใจนั้นล่ะคือนิพพาน นิพพานทั้งเป็น คือท่านผู้บริสุทธิ์ พากันปฎิบัติเอาบ้างซิ
ไม่ปฎิบัติมันไม่เห็นนะ สิ่งเหล่านี้ไม่เหนือวิสัยของมนุษย์ไปได้
อยู่ในวิสัยของผู้รักใคร่ใกล้ชิดกับธรรมจะได้นำมาเป็นขวัญตาขวัญใจอยู่เป็นสุข

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน



ขอบพระคุณข้อมูลจาก : Facebook หอพระพุทธธรรมทิฐิศาสดา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ เว็บ http://www.kammatan.com
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2012, 05:37:41 PM »



ถ้าจิตมีสติปัญญารอบตัวอยู่แล้ว จะพิจารณารู้แจ้งเห็นจริงในความจริงทั้งหลาย
ทั้งส่วนกาย ทั้งส่วนเวทนาทั้งสาม แยกตัวออกโดยลำดับ ๆ ส่วนสัญญา
สังขารไม่ต้องพูด มันเป็นอาการเหมือนกันนั่นแล เกิดขึ้นแล้วดับไป
มันเป็นกองไตรลักษณ์ทั้งหมด คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และเบิกออก ๆ
จิตถอยตัวเข้ามา การพิจารณาก็แคบเข้าไป ๆ เพราะสิ่งไรที่พิจารณารู้แจ้งเห็นจริงแล้วมันปล่อยเอง
จะพิจารณาเพื่ออะไรอีก ก็รู้แล้วเห็นแล้วนี่ มันต้องชัดอย่างนั้น จึงชื่อว่าผู้ปฎิบัติเพื่อรู้จริงเห็นจริง
ต้องรู้ภายในตัวเองจริง ๆ ไม่อย่างนั้นไม่เรียกว่า สันทิฎฐิโก เห็นเอง เมื่อได้คุ้ยเขี่ยขุดค้นเต็มสติปัญญา
ผลจะปรากฎขึ้นมาอย่างเต็มภูมิ เต็มภูมิของสติปัญญา หนีไม่พ้น นี่แหละการพิสูจน์เรื่องการเกิดการตายของจิต

จิตเป็นสิ่งลึกลับมากเพราะกิเลสพาให้ลึกลับ กิเลสมันเอาจิตเข้าไปหมกไปซ่อนไว้ในสถานที่ที่
เราไม่อาจเอื้อมรู้ได้เห็นได้ ถูกกิเลสตัวจอมปลอมปิดบังไว้หมด ตัว มันออกหน้าออกตา
หลอกไว้ตลอดเวลาจึงไม่เห็นโทษของตน ไม่เห็นโทษของกิเลสที่พาให้เกิดให้ตาย

เมื่อใช้สติปัญญาพิจารณาลงไปดังที่กล่าวมาแล้วนี้ กิเลสประเภทต่าง ๆ ที่เคยห่อหุ้มจิตใจ
หลอกลวงจิตใจ ปิดปังจิตใจนั้นจะขยายตัวออกไป เปิดตัวออกไป ๆ จนกระทั่งไม่มีเหลือ
เมื่อกิเลสหมดสิ้นไปจากใจไม่มีเหลือเพราะสติปัญญารู้เท่าทัน
 และตัดขาดกระเด็นออกจากความสืบต่อกันระหว่างขันธ์กับจิต รูป เสียง กลิ่น รส ทั้งหลายไม่ต้องพูด
เพราะมันห่างไกลมากไป เอาในระหว่างขันธ์กับจิต รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์
วิญญาณขันธ์ ทราบตามอาการของมันซึ่งเป็นความจริงแต่ละอย่าง ๆ และทราบภายในจิตคือตัวอวิชชา
ตัดสะพานทางเดินของมันหมด

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2012, 01:10:17 PM »



"การที่เราเห็นเขาแสดงความรื่นเริงออกมาในท่าต่างๆ และ สถานที่ต่างๆ
เช่นในหน้าหนังสือพิมพ์เป็นต้น นั่นเป็นเพียงเครื่องหลอกกันเล่นไปอย่างนั้นเอง
ความจริงต่างอมความทุกข์ไว้ภายในใจแทบระเบิด โดยไม่เลือกชาติชั้นวรรณะใดๆ เลย

ทั้งนี้เพราะสิ่งที่ทำให้ซ่อนความจริงไว้นั้น ได้แก่ความอาย กลัวเสียเกียรติ
และเป็นคนใหญ่คนโตที่โลกนิยม นี่ จึงนำออกให้โลกและสังคมเห็นแต่อาการที่เห็นว่าเป็นความสุขรื่นเริงเท่านั้น

ตัวผลิตทุกข์แก่มวลสัตว์มันผลิตอยู่ภายในใครไม่อาจรู้เห็นได้
นอกจากปราชญ์ที่เรียนรู้และปล่อยวางมัน และกลมารยาของมันแล้วเท่านั้น
จึงทราบได้อย่างชัดเจนว่าภายในหัวใจของสัตว์โลกคุกรุ่นอยู่ด้วยไฟราคะตัณหา
 ไฟความโลภ หาความอิ่มเพียงพอไม่เจอ

แม้จะแสดงออกในท่าร่าเริง ท่าฉลาดแหลมคม ท่าผู้ดีมีความสุขฐานะดีเพียงไร
 ก็ไม่สามารถปิดความจริงที่มีอยู่ในหัวใจให้มิดได้เลย ปราชญ์ทั้งหลายรู้เห็นจับได้
เพราะกลมายาของกิเลสกับธรรมละเอียดต่างกันอยู่มาก
ท่านผู้เป็นปราชญ์โดยธรรม จึงทราบได้ไม่ยากเย็นอะไรเลย"

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์โปรดคุณเพาพงา วรรธนะกุล ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๘



ขอบพระคุณข้อมูลจาก : มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เพจ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2012, 06:08:05 PM »




หนักก็หนัก เบาก็ยอมรับ ทุกข์ขนาดไหนก็สู้กัน ขึ้นชื่อว่านักรบแล้วไม่มีถอยหลัง
เพราะพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาของเราไม่ได้พาให้ถอยหลัง สาวกทั้งหลายไม่ใช่ผู้ถอยหลัง
ผู้ก้าวหน้าเดินเพื่อความหลุดพ้นจากทุกข์ จนหลุดพ้นไปโดยถ่ายเดียว
จึงได้ปล่อยวางความพากเพียรในแนวรบ แล้วเสวยวิมุตติสุขภายในใจทั้งที่ขันธ์ยังครองตัวอยู่
และเสวยวิมุตติสุขในพระนิพพาน เพราะความทุกข์เพียงเล็กน้อยทางความเพียรในอัตภาพเดียวหรือเพียงช่วง
เวลาไม่กี่เดือนกี่ปี การประกอบความเพียรตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นจนได้ตรัสรู้หรือบรรลุธรรม
บางองค์ก็นานเป็นปี บางองค์ก็รวดเร็ว บางองค์เพียงครู่เดียวก็มี
ตามอำนาจวาสนาบารมีที่สร้างมามากน้อยต่างกัน นักปฏิบัติเพื่อความรู้แจ้งแทงตลอดในธรรมทั้งหลาย
 จึงไม่ควรนำความช้าความเร็วของท่านที่ปฏิบัติและบรรลุธรรมไปแล้ว
มาเป็นอารมณ์ฝ่ายกีดขวางตัวเอง จะทำให้เสียกำลังใจและก้าวไม่ออก

พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2012, 10:36:54 AM »



อย่างท่านสอนให้ไปเยี่ยมไปดูป่าช้า คนตายเป็นยังไง แต่ก่อนเขาก็เป็นคนเป็นอยู่นี้
สมบัติเงินทองข้าวของยศถาบรรดาศักดิ์เต็มอยู่กับพวกนี้ เวลาตายแล้วมีอะไรเห็นไหม
 มีแต่กองกระดูก แมลงวันตอมหึ่ง ๆ อยู่นั้นเป็นยังไง เอามาเทียบกับเราซิ
เวลาเราตายแล้วเป็นยังไง มันก็เป็นอย่างนี้แหละ แล้วเราจะดิ้นจะดีดไปอะไรนักหนาจนถึงกับไม่มีป่าช้า
เขาตายต่อหน้านี่เห็นไหม นั่นไปเยี่ยมป่าช้าท่านสอนอย่างนั้นนะ
เขาตายอยู่ต่อหน้าต่อตาเราจะไม่ตายเหรอ เราเพลินอะไรจนเกินเนื้อเกินตัวจนถึงขนาดจะไม่มีป่าช้า
ดูนั่นซิ นี่มันจะไปตายแบบนั้นนะ มันก็รู้ตัวคนเรา เมื่อรู้ตัวมันก็หาที่ยึดที่เกาะเมื่อจะจม
ถ้าไม่หาที่ยึดที่เกาะจมแน่ ๆ หาที่ยึดที่เกาะคือความดี ได้ความดีแล้วก็ดีดผึง ๆ
ให้พากันเข้าใจนะ ท่านสอนให้ไปเยี่ยมป่าช้า เป็นเครื่องสอนตน

ความตายมีอยู่กับตัวแต่มันมองไม่เห็น ต้องไปมองข้างนอกเสียก่อน
มองข้างนอกแล้วย้อนเข้ามาเทียบข้างใน พอได้สัดได้ส่วนแล้วทีนี้ก็ป่าช้าภายใน
พิจารณากันตลอด อริยสัจอยู่ที่นี่ มันก็รู้กันที่นี่

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
"พระอรหันต์กับปุถุชน"
๓๑ กรกฏาคม ๒๕๔๓


บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
หน้า: [1] 2 3 ... 5
พิมพ์
กระโดดไป: