KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับกระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 เมื่อ: มีนาคม 07, 2024, 05:51:03 AM 
เริ่มโดย DekwatInter - กระทู้ล่าสุด โดย DekwatInter
Casual dating at its finest – join the leading platform for relaxed and fun encounters!
Legitimate Girls  Superlative Сasual Dating
Prime Сasual Dating

 2 
 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2024, 12:23:59 AM 
เริ่มโดย DekwatInter - กระทู้ล่าสุด โดย DekwatInter
Unlock a world of casual fun and excitement with the premier dating site.
Living Women
Supreme Сasual Dating

 3 
 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2024, 12:31:16 AM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR
COVID เปลี่ยนโลก
แต่ธรรมยังคงเสมอเหมือน
เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

 4 
 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2023, 10:14:18 PM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
การแสวงหาสิ่งภายนอก เปรียบเสมือนตุ่มน้ำที่รั่ว เติมเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่มีความเต็ม หรือพอดี

ครั้นเมื่อ "ละ" หรือ "วาง" มันกลับกลายเป็นว่า มีความเริ่มอิ่ม และพอดี ยิ่งขึ้น

การละวางในที่นี้คือ ละวางมิจฉาทิฏฐิ และมาเจริญสัมมาทิฏฐิ : )

ธรรมะบุญรักษา G[at]PKL
8 กค 2566

 5 
 เมื่อ: มีนาคม 27, 2022, 11:45:29 AM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR
ตั้งแต่มีโรคระบาด COVID-19 ก็เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างหนักและมากมาย
Covid เปลี่ยนโลก...ใช่แล้ว
ถ้าเรามอง ทุกอย่างเปลี่ยนไป
โลกใช้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปเทคโนโลยีเปลี่ยนไป
วิถีแห่งการดำรงชีพเปลี่ยนไป ฯลฯ
เราเองควรจะต้องปรับเปลี่ยนเพื่ออยู่กับโลกให้ได้ตามการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไป
แต่สิ่งที่ยังคงอยู่ก็คือโลกธรรม 8 เหมือนเดิม
สุขทุกข์
สรรเสริญนินทา
มีลาภเสื่อมลาภ
มียศเสื่อมยศ
8 อย่างนี้ไม่เคยเปลี่ยน
ยังอยู่คู่โลกเสมอ
เราผู้มีปัญญา ต้องเข้าใจและควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับโลกให้ได้ และอยู่อย่างให้มีความสุขตามความเป็นจริง...
ไม่วิ่งตามโลกมากนัก
แต่ก็ต้องรู้เท่าทันโลกและการเปลี่ยนแปลงของโลกด้วย...
การไม่ทะยานอยากมากนัก การอยู่แบบพอเพียง พอมีพอกินหรือทางสายกลาง
จึงอาจเป็นคำตอบ เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อยู่สุขสงบที่สุด....

BACK TO BASIC
BACK TO NATURAL

 6 
 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2021, 01:17:26 PM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
ตถาคต พระนามอย่างหนึ่งของพระพุทธเจ้า เป็นคำที่พระพุทธเจ้าทรงเรียกหรือตรัสถึงพระองค์เอง แปลได้ความหมาย ๘ อย่าง คือ
       ๑. พระผู้เสด็จมาแล้วอย่างนั้น คือ เสด็จมาทรงบำเพ็ญพุทธจริยา เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เป็นต้น เหมือนอย่างพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ อย่างไรก็อย่างนั้น
       ๒. พระผู้เสด็จไปแล้วอย่างนั้น คือทรงทำลายอวิชชา สละปวงกิเลส เสด็จไป เหมือนอย่างพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ อย่างไรก็อย่างนั้น
       ๓. พระผู้เสด็จมาถึงตถลักษณะ คือ ทรงมีพระญาณหยั่งรู้เข้าถึงลักษณะที่แท้จริงของสิ่งทั้งหลายหรือของธรรมทุกอย่าง
       ๔. พระผู้ตรัสรู้ตถธรรมตามที่มันเป็น คือ ตรัสรู้อริยสัจ ๔ หรือปฏิจจสมุปบาทอันเป็นธรรมที่จริงแท้แน่นอน
       ๕. พระผู้ทรงเห็นอย่างนั้น คือ ทรงรู้เท่าทันสรรพอารมณ์ที่ปรากฏแก่หมู่สัตว์ทั้งเทพและมนุษย์ ซึ่งสัตวโลกตลอดถึงเทพถึงพรหมได้ประสบและพากันแสวงหา ทรงเข้าใจสภาพที่แท้จริง
       ๖. พระผู้ตรัสอย่างนั้น (หรือมีพระวาจาที่แท้จริง) คือ พระดำรัสทั้งปวงนับแต่ตรัสรู้จนเสด็จดับขันธปรินิพพาน ล้วนเป็นสิ่งแท้จริงถูกต้อง ไม่เป็นอย่างอื่น
       ๗. พระผู้ทำอย่างนั้น คือ ตรัสอย่างใดทำอย่างนั้น ทำอย่างใด ตรัสอย่างนั้น
       ๘. พระผู้เป็นเจ้า (อภิภู) คือ ทรงเป็นผู้ใหญ่ยิ่งเหนือกว่าสรรพสัตว์ตลอดถึงพระพรหมที่สูงสุด เป็นผู้เห็นถ่องแท้ ทรงอำนาจ เป็นราชาที่พระราชาทรงบูชา เป็นเทพแห่งเทพ เป็นอินทร์เหนือพระอินทร์ เป็นพรหมเหนือประดาพรหม ไม่มีใครจะอาจวัดหรือจะทัดเทียมพระองค์ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และวิมุตติญาณทัสสนะ

 7 
 เมื่อ: มีนาคม 02, 2021, 12:16:27 PM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR
วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ทำบุญวันมาฆบูชา วัดทองสัมฤทธิ์
ข้าพเจ้าขอน้อมนำคำสอนพระศาสดา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
***การไม่ทำบาปทั้งปวง
***การทำบุญกุศลให้ถึงพร้อม
***การทำจิตใจให้บริสุทธิ์
ขอให้บุญกุศลทั้งปวงที่สำเร็จประโยชน์แล้วนี้ ให้พวกเรามีความสุขกายสุขใจ มีความเจริญรุ่งเรือง มีโชคลาภ
มีอายุยืนนาน ปราศจากโรคร้ายและอันตรายทั้งปวงด้วยเทอญ  สาธุ

 8 
 เมื่อ: มกราคม 05, 2021, 10:46:18 AM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR
สมเด็จพระสังฆราช ประทานพรปีใหม่ 2564 ‘ความพร้อมเพรียงหมู่ชน ยังความเจริญให้สำเร็จ’

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดประทานพระรูป พร้อมลายพระหัตถ์เชิญธรรมภาษิต เป็นพระคติธรรม ประทานพรสำหรับความสุขปีใหม่ พุทธศักราช 2564 ว่า


“สพฺเพสํ สงฺฆภูตานํ สามคฺคี วุฑฺฒิสาธิกา
ความพร้อมเพรียงของหมู่ชน ยังความเจริญให้สำเร็จ”

 9 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2020, 09:48:29 AM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR
มหาเถรสมาคมมีมติห้ามพระ-เณรยุ่งเกี่ยวกิจกรรมทางการเมือง

ฝ่าฝืนให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการตามกฎมหาเถรสมาคม

1 พฤศจิกายน) ณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติเร่งด่วนให้ทำหนังสือแจ้งไปยังวัดทั่วประเทศ ห้ามพระภิกษุและสามเณรยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมือง หากฝ่าฝืนคำสั่งหรือมติให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการทันทีตามกฎมหาเถรสมาคม

 

สืบเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีพระภิกษุสงฆ์และสามเณรเข้าไปร่วมชุมนุม ทั้งนี้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาว รวมถึงป้องกันพระปลอมที่เข้าร่วมชุมนุมจนอาจทำให้ศาสนาเกิดความเสียหาย

 

ณรงค์กล่าวว่า ตั้งแต่มีภาพพระภิกษุและสามเณรเข้าร่วมการชุมนุม ได้ส่งหนังสือไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองแล้ว 2-3 ครั้งไม่ให้พระภิกษุสามเณรเข้าร่วมชุมนุม แต่ยังมีพระภิกษุและสามเณรเข้าร่วมการชุมนุมอยู่ จึงต้องออกเป็นมติมหาเถรสมาคมที่ชัดเจน 4 ข้อ

 

1. ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งเจ้าคณะผู้ปกครองดำเนินการกับพระภิกษุและสามเณรที่เข้าข่ายฝ่าฝืนคำสั่ง เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. 2538

 

2. มีมติมอบถวายสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ซึ่งเป็นประธานกรรมการฝ่ายการปกครองสงฆ์ ให้วางแนวทางการป้องกันการชุมนุมของพระภิกษุและสามเณร เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาว

 

3. มีมติให้นำรายชื่อผู้ฝ่าฝืนของพระภิกษุและสามเณรส่งให้เจ้าคณะผู้ปกครองเพื่อพิจารณาทางพระธรรมวินัยต่อไป

 

4. ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งประสานหน่วยงานที่มีหน้าที่ทางกฎหมายตรวจสอบสถานะพระที่เข้าร่วมชุมนุมทุกรูป เพื่อป้องกันพระปลอมเข้าร่วมชุมนุม เพราะจะทำให้ศาสนาเกิดความเสียหาย

 10 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2020, 09:41:12 AM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR
“ ประชาธิปไตยไม่ยากถ้าอยากได้ ”
“สิทธิ” ต้องมากับ “หน้าที่” ฉันใด
“เสรีภาพ” ต้องมากับ “ความรับผิดชอบ” ฉันนั้น
.
“…. บางทีเราก็มัววุ่นวายกับเรื่อง “สิทธิ” และการที่จะมี “เสรีภาพ” กันมากมาย จนชักจะหลงเพลิดเพลินและลืมไปว่า นอกจากเราจะต้องได้ ต้องมี สิทธิ และ เสรีภาพ อย่างนั้น อย่างนี้ รัฐจะต้องรับประกันให้เราได้ เรามี อย่างนั้น อย่างนี้แล้ว ตัวเราเองจะต้องทําอะไร เราจะต้องให้อะไรแก่รัฐ แก่ส่วนรวม แก่สังคม หรือแก่ประเทศชาติบ้าง และนี่ก็คือ เรื่องของ “หน้าที่”
.
…. “ สิทธิ ” นั้นคู่กันกับ “หน้าที่พลเมืองของประเทศ”
….  “ประชาธิปไตย” นั้น เมื่อมี สิทธิ ก็มี หน้าที่ ด้วย เมื่อได้ สิทธิ ก็ต้อง ทําหน้าที่ ด้วย
…. สิทธิ เป็นเรื่องของการที่จะได้ ที่จะเอา
…. ส่วน หน้าที่ เป็นเรื่องของการที่จะให้ ที่จะสละออกไป
…. พลเมืองทุกคนมีหน้าที่ที่จะทําการงาน ศึกษาเล่าเรียน หรือ ประกอบสัมมาชีพของตนๆ มีหน้าที่ที่จะต้องทําต่อครอบครัว ต่อ ชุมชน ต่อสังคม ต่อประเทศชาติของตน มีหน้าที่ที่จะต้องไปร่วมประชุมพิจารณาดําเนินกิจการของส่วนรวม ต้องบํารุงรักษาสิ่ง สาธารณูปโภคและสาธารณสมบัติ ต้องบํารุงรักษาธรรมชาติแวดล้อม ต้องรักษาระเบียบวินัย ต้องเคารพกฎหมายและกฎเกณฑ์ กติกาของสังคม ต้องเสียภาษีอากร เป็นต้น
.
…. เมื่อประชาชนพลเมืองทําหน้าที่ให้แก่สังคมหรือรัฐ ตามสถานะของตนๆ สังคมหรือรัฐประชาธิปไตยที่ดี ก็มีสิ่งที่จะนํามา สนองแก่สิทธิของประชาชนพลเมือง
…. ถ้าประชาชนพลเมืองไม่ช่วยกันทําเหตุ แล้วสังคมหรือรัฐจะเอาผลอะไรมาสนองความต้องการของประชาชนพลเมืองได้ ดังนั้น...
…. ถ้าจะ..“เรียกร้อง” หรือ “อ้าง” สิทธิ
…. ก็อย่าลืม..ถามหรือสํารวจตัวเองว่า..ได้ทําหน้าที่ของตนอยู่ด้วยดีหรือไม่? คือ ถ้าจะเรียกร้องสิทธิ ก็จะต้องทําหน้าที่ของตนให้ดีด้วย
…. มองในทางย้อนกลับ
…. ผู้ที่ทําหน้าที่ของตนถูกต้องเป็นอย่างดีนั้นแหละ จึงเป็นผู้ที่สมควรจะเรียกร้องหรืออ้างสิทธิ
…. และ สิทธิ ที่อ้าง หรือ เรียกร้อง นั้น จะต้องนําไปใช้อย่างถูกต้องด้วย
…. ผู้ที่รู้จักหน้าที่ พร้อมทั้งทําหน้าที่ของตนอยู่อย่างถูกต้อง นั่นแหละ คือผู้ที่จะนําสิทธิไปใช้อย่างถูกต้อง เพราะฉะนั้น สิทธิจะต้องมากับหน้าที่ และสิทธิเป็นสมบัติมีค่าอันน่าภูมิใจสําหรับผู้ที่ทําหน้าที่
.
…. พลเมืองในสังคมประชาธิปไตยควรสร้างจิตสํานึกในหน้าที่ ถึงขั้นที่ยึดถือว่า สิทธิที่จะได้ทุกอย่าง มีมาพร้อมกับหน้าที่ที่จะต้องทํา ถามตนเองว่าการที่เราจะได้จะมีสิทธินี้นั้น เราจะต้องทําอะไร หรือนึกถึงสิ่งที่ตนจะต้องทําต้องให้มากกว่านึกถึงสิ่งที่ตนจะได้จะเอา…
.
…. อนึ่ง คําว่า “หน้าที่” นั้น มักจะพ่วงมาหรือมาด้วยกันกับคําว่า “ความรับผิดชอบ”
…. จนบางทีเราพูดควบไปด้วยกันว่า หน้าที่และ ความรับผิดชอบ หรือ หน้าที่รับผิดชอบ คือนอกจากทําหน้าที่แล้ว ก็จะต้องมีความรับผิดชอบด้วย
.
…. คําว่าสิทธิมาด้วยกันกับเสรีภาพ คําว่าหน้าที่มาด้วยกันกับความรับผิดชอบ สิทธิคู่กับหน้าที่ ฉันใด เสรีภาพก็คู่กับความรับผิด ชอบ ฉันนั้น และเมื่อเราพูดสองคําแรกควบกันว่า สิทธิเสรีภาพ เราก็พูดสองคําหลังควบกันว่า หน้าที่รับผิดชอบ
…. เพราะฉะนั้น
…. สิทธิ ต้องมากับ หน้าที่ ฉันใด
…. เสรีภาพ ก็ต้องมากับ ความรับผิดชอบ ฉันนั้น เมื่อเสรีภาพมาคู่กับความรับผิดชอบ ก็หมายความว่า เราจะต้องใช้เสรีภาพอย่างมีความรับผิดชอบ และต้องรับผิดชอบต่อการใช้เสรีภาพนั้นด้วย”
.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( ป. อ. ปยุตฺโต )
ที่มา : ธรรมกถาแสดงที่ วัดวชิรธรรมปทีป นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๓๕ ภายหลังพิมพ์เป็นหนังสือชื่อ “ประชาธิปไตยไม่ยากถ้าอยากได้”
.
หนังสือ "ประชาธิปไตยไม่ยาก ถ้าอยากได้" โหลดที่นี่ PDF http://book.watnyanaves.net/pdf/viewer.php...

หน้า: [1] 2 3 ... 10