KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับกระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: 1 ... 8 9 [10]
 91 
 เมื่อ: มกราคม 06, 2017, 08:41:26 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
ในโลกนี้บกพร่องอยู่ตลอดเวลา
ไม่เคยเต็ม ไม่เคยอิ่ม
"..พยายามเจริญสติให้มากๆ ไว้
อะไรเกิดขึ้นในชีวิตเราเมื่อไรเราไม่รู้หรอก
อย่างความตายจะมาถึงเมื่อไร เราไม่รู้นะ
เราไม่ตาย คนใกล้ตัวเราอาจจะตายก็ได้
เพราะฉะนั้น ชีวิตนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
เศรษฐกิจก็ไม่แน่นอนนะ
ทางด้านสังคมก็มีโรคระบาด มีอะไรอย่างนี้อีก
มันมีความไม่แน่นอน การเมืองก็กระเพื่อมไหว
ทุกอย่างมีแต่ความไม่แน่นอน
บนความไม่แน่นอนนี้
สิ่งที่จะช่วยเราได้คือ ธรรมะ
ธรรมะจะช่วยให้จิตใจของเรามั่นคง
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ใจเราก็ยังอยู่ของเราได้
ไม่กระเพื่อมขึ้นกระเพื่อมลง
คนซึ่งมีความทุกข์นี่เพราะว่าใจไม่มีปัญญา
ความทุกข์มันมาได้ เพราะใจเรายอมรับสภาวะ
ที่กำลังปรากฏต่อหน้าต่อตาไม่ได้ เช่น
เราจะต้องเจ็บป่วย เรายอมรับไม่ได้
ความทุกข์ทางใจมันก็เกิดขึ้น
เราจะต้องแก่ ยอมรับไม่ได้ว่าจะต้องแก่
ความทุกข์ทางจิตใจก็เกิดขึ้น จะต้องตาย
ยอมรับไม่ได้ก็ทุกข์อีก
จะต้องพลัดพรากจากคนที่รัก
จะต้องเจอสิ่งที่ไม่รัก อะไรอย่างนี้
จะต้องผิดหวังในชีวิตบ้าง
ถ้าเรายอมรับความจริงได้ว่า
ชีวิตมันเป็นอย่างนี้แหละ
ทุกอย่างผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ผ่านมาแล้วผ่านไปตลอดเวลา
ยอมรับความจริงตรงนี้ได้ ใจก็ไม่ทุกข์
ที่ใจมันทุกข์เพราะมันไม่ยอมรับความจริง
อยากฝืนความจริง เช่น
อยากมีความสุขถาวร อยากสงบถาวร
อยากดีถาวร อะไรดีๆ อยากจะให้ถาวร
อะไรไม่ดีก็อยากให้มันไม่มีถาวร
อยากถาวรเหมือนกัน แต่ถาวรในเชิงลบ
ไม่มี อยากไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย
ไม่พลัดพราก ไม่ทุกข์
เรามาหัดภาวนา
ไม่ใช่เพื่อว่าเราจะได้ไม่ต้องเจอ ความเจ็บ
ความแก่ ความตาย ความพลัดพราก ความไม่สมหวัง
แต่เราภาวนาเพื่อให้เห็นความจริง
ความจริงในโลกนี้มันบกพร่องอยู่ตลอดเวลา
มันไม่สมอยากหรอก
มีแต่ความไม่สมอยากเกิดขึ้นตลอดเวลา
อยากอย่างนี้มันไม่ได้ อยากอย่างนี้มันได้
ได้มาแป๊บเดียวก็หายไป อยากอย่างอื่นอีกแล้ว
ในโลกนี้บกพร่องอยู่ตลอดเวลา
ไม่เคยเต็ม ไม่เคยอิ่ม เรามาหัดภาวนา
มาดูของจริง ดูลงในกาย ดูลงในใจ
กายกับใจเป็นสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นตัวเรามากที่สุด
เรารักที่สุดคือกายกับใจนี้
มาภาวนาก็มาดูลงที่กายที่ใจแล้วจะเห็นเลย
ทุกอย่างที่ปรากฏขี้นที่กายที่ใจนี้
เป็นของชั่วคราวทั้งหมดเลย..."

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒
CD ศาลาลุงชิน ๓๑

 92 
 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 09:07:05 PM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
"ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ส่วนปัญหา แต่ใจไม่ทุกข์"
โลกเต็มไปด้วยปัญหา
คนเต็มไปด้วยความทุกข์
ถ้าคนไม่มีสติปัญญาก็จะแยกไม่ออกว่า
ปัญหากับความทุกข์เป็นคนละส่วนกัน
โลกมันไม่เที่ยง มันเคลื่อนไปเรื่อยๆ
ปัญหาก็เกิดขึ้นตลอดเวลา
เช่น สุขภาพ เรารักษาเอาไว้ดีแล้ว ไม่นานก็ป่วย
เพราะมันไม่เที่ยง
ในชีวิตเต็มไปด้วยของไม่เที่ยง
ถ้าใจยอมรับความจริงได้
ว่าทุกอย่างในโลกนี้ไม่เที่ยง
ใจก็จะไม่ทุกข์
"ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ส่วนปัญหา แต่ใจไม่ทุกข์"
ถ้ายอมรับความจริงไม่ได้ว่าโลกมันไม่เที่ยง
เกิดปัญหาขึ้นมา ใจจะทุกข์
มันอยู่ที่ว่าใจเรายอมรับได้หรือยอมรับไม่ได้
กราบหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ด้วยความเคารพอย่างสูง
_/|\_ _/|\_ _/|\_
Cr. อริยสัจเพื่อความพ้นทุกข์ หน้า ๓๐

 93 
 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 12:21:43 PM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR


...อนุโมทนาบุญด้วยครับน้องกอล์ฟ

 94 
 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 11:22:11 AM 
เริ่มโดย MoMo032 - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
ขอบคุณสำหรับข่าวประชาสัมพันธ์ งานปฏิบัติธรรมเพื่อมงคลแห่งชีวิตนะครับพี่ Momo032 : )

 95 
 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 10:34:41 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
ร่วมทำบุญบริจาคให้มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
เมื่อ 24 ธันวาคม 2559
http://www.prosthesesfoundation.or.th/th/assistance/donations.html

โอนเงินให้บุคคลอื่น - สถานะการทำรายการ

สถานะการทำรายการ    ธนาคารได้ทำรายการของท่านเรียบร้อยแล้ว
หมายเลขอ้างอิง    TRTR161224481498140

รายละเอียดการทำรายการ
จากบัญชี    784-2-xxxxxx-y Saving
เพื่อเข้าบัญชี    471-2-02394-0 มูลนิธิขาเทียมของสมเด็จย่า
ชื่อบัญชี    . มูลนิธิขาเทียม
จำนวนเงิน (บาท)    5,000.00
ค่าธรรมเนียม (บาท)    0.00
วันที่โอนเงิน    24/12/2016
บันทึกช่วยจำ    บริจาคทำขาเทียม 5000 บาท
แจ้งผู้รับโอน    ส่ง E-mail ไปยังที่อยู่ อีเมลล์แอดเดรส: [email protected]
ข้อความถึงผู้รับ : บริจาคทำขาเทียม 5000 บาท
จาก : วัฒนชัย

 96 
 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2016, 08:17:54 AM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR
ธรณินทร์  ล่วงลาพับ  ลับเหลี่ยมโลก       วิปโยค  โศกเศร้าเยือน  ทั่วถิ่นหล้า

ไทยทั้งผอง  ต่างกลืนกล้ำ  หลั่งน้ำตา        มหาราชา  ทรงสิ้นแล้ว  ธ แก้วใจ

 

สิ้นพ่อหลวง  ขาดดวงใจ  ไทยทั้งชาติ      ประชาราษฎร์  สิ้นเรี่ยวแรง  จะเคลื่อนไหว

พระภูมิพล  ส่องประทีป  จรดฟ้าไกล       ร่มโพธิ์ใหญ่  บารมี  โพธิสมภาร

 

ถวายส่ง   เสด็จสู่  สวรรคาลัย                   ร้อยดวงใจ  ร่วมตั้งจิต  อธิษฐาน


 
ภาวนา    เพื่อพระองค์ท่าน   สู่วิมาน        ทิพย์สถาน  ไอศวรรย์  นิรันด์เทอญ


 97 
 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2016, 11:07:24 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
"อย่าไปยินดี ยินร้าย ในการอยู่ การเป็น การตาย สังขารทั้งหลาย
ไม่ว่า เนื้อ เล็บ หนัง กระดูก ผม ขน เป็นสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นมาทั้งสิ้น
มันไม่ใช่ตัวตน ไม่เป็นสิ่งอมตะ รอถึงวันแค่นั้นแหละ จะวันไหนก็แค่นั้นเอง ละวางซะ"

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

 98 
 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2016, 11:05:25 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
"บารมีต้องสร้างเอา เหมือนอยากให้มะม่วงของตนมีผลดก ก็ต้องหมั่น บำรุงรักษาเอา
ไม่ใช่แห่ไปชื่นชมต้นมะม่วงของคนอื่น ต้องไปปลูก ไปบำรุงต้นมะม่วงของตนเอง
การสร้างบารมีก็เช่นกัน ต้องสร้างต้อง ทำเอาเอง"

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

 99 
 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2016, 11:05:02 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
ใกล้ตาย จึงนึกถึงพระ มีทุกข์มาถึง จึงนึกถึงพระศาสนา..."บรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้น เมื่อไม่มีทุกข์มาถึงตัว
มักไม่เห็นคุณพระศาสนา มัวเมาประมาท ปล่อยกายปล่อยใจ ให้ประพฤติทุจริตผิดศีลธรรมอยู่เป็นประจำนิสัย
เห็นผิดเป็นถูก เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ต่อเมื่อได้รับทุกข์เข้า ที่พึ่งอื่นไม่มีนั่นแหละ
จึงได้คิดถึงพระ คิดถึงศาสนา แต่ก็เป็นเวลาที่สายไปแล้ว"
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

 100 
 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2016, 08:53:02 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
ผู้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาเป็นผู้มีบุญอย่างยิ่ง
แต่ผู้ปฏิบัติพระพุทธศาสนา
คือปฏิบัติให้จริงตามที่สมเด็จพระบรมศาสดา
สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน เป็นผู้มีบุญสูงสุด
พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ประเสริฐสุด
ไม่มีที่เปรียบได้
เพราะพระพุทธศาสนาเท่านั้นที่จะพาไปให้รู้จักพลังพิเศษ
คือความคิดที่สามารถทำลายความทุกข์ได้
ตั้งแต่ทุกข์น้อยจนถึงทุกข์ทั้งปวง
จนถึงเป็นผู้ไกลทุกข์สิ้นเชิง
ไม่มีเวลากลับมาให้เป็นทุกข์อีกเลย ตลอดไป.
จะทุกข์หรือไม่ทุกข์อยู่ที่ความคิดของตนเอง
นี้เป็นสัจจะคือความจริงแท้
ไม่ว่าผู้ใดจะเชื่อหรือจะไม่เชื่อก็ตาม
ก็เป็นความจริง
ผู้ใดจะทุกข์หรือไม่ทุกข์ อยู่ที่ความคิดของผู้นั้น.
ไม่มีผู้ใดที่ไม่ปรารถนาความไม่มีทุกข์
ทุกคนล้วนปรารถนาความไม่มีทุกข์
แต่ไม่ทุกคนที่ยอมรับความจริง
ว่าการที่หนีความทุกข์ไม่พ้นนั้น
เป็นเพราะคิดไม่เป็น
ถ้าคิดให้เป็นจะไม่มีความทุกข์ใดกล้ำกลายได้เลย
เพราะความคิดนั่นแหละ คือกำลังสำคัญ
ที่สามารถทำให้ทุกข์ไม่เกิดได้.
แสงส่องใจ อันดับ ๑๒
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปรินายก พระชนมายุ ๑๐๐ พรรษา
๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖
_/|\_ _/|\_ _/|\_

หน้า: 1 ... 8 9 [10]