KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิคำว่ารู้ช่วยขยายความนิดหนึ่งครับ
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: คำว่ารู้ช่วยขยายความนิดหนึ่งครับ  (อ่าน 11466 ครั้ง)
DOUNGCHAN
สมาชิกใหม่
*

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 0
กระทู้: 8


ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: มกราคม 11, 2011, 08:23:26 PM »

......รู้ในความหมายของผม.....
1.สงสัยก็รู้ว่าสงสัย...งงก็รู้ว่างง...คิดก็รูว่าคิด...ฟุ้งซ่านก็รู้ว่าฟู้งซ่าน...แค่นี้หรือเปล่าครับเพราะคำว่า...ศีล...สมาธิ..ผมพอเข้าใจครับ..
             แต่คำ...ปัญญา..ในภาษาธรรมผมยังไม่เข้าใจ...เข้าใจ.ปัญญา.ในภาษาทางโลก..เท่านั้น..ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 12, 2011, 09:16:58 AM »

......รู้ในความหมายของผม.....
1.สงสัยก็รู้ว่าสงสัย...งงก็รู้ว่างง...คิดก็รูว่าคิด...ฟุ้งซ่านก็รู้ว่าฟู้งซ่าน...แค่นี้หรือเปล่าครับเพราะคำว่า...ศีล...สมาธิ..ผมพอเข้าใจครับ..
             แต่คำ...ปัญญา..ในภาษาธรรมผมยังไม่เข้าใจ...เข้าใจ.ปัญญา.ในภาษาทางโลก..เท่านั้น..ขอบคุณครับ

ปัญญาในทางธรรม คือ รู้เห็น สภาวะที่เกิดขึ้นกับจิตใจของเราตามความเป็นจริง จนเราไม่ได้เข้าไปปรุงแต่ง คอยดูจนสภาวะดับไป ถ้าไม่ได้เข้าไปปรุงต่อ ก็ไม่ได้สร้าง ภพ ไม่ได้สร้างชาติ ก็ไม่เกิดเป็นความทุกข์ขึ้นมาครับผม ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ คล้ายกับการ หยดน้ำลงแก้ว หยดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำเต็มแก้ว ก็จะมีปัญญาเต็มตามลำดับขั้น ต่อไปครับ

สำหรับปัญญา ขั้นแรก จะละ 3 สังโยชน์คือ

1.มีปัญญาละ  สักกายทิฏฐิ คือ ละความยึดถือว่ากายใจ เป็นของเรา

2.มีปัญญาละ  วิจิกิจฉา คือ ละความลังเล สงสัยในธรรม

3.มีปัญญาละ  สีลัพพตปรามาส คือ ไม่ถือศีลบำเพ็ญพรต แบบงมงาย

ลองหาอ่านเรื่อง ปฏิจสมุทปบาท ด้วยก็ได้ครับจะได้เข้าใจ การก่อตัวของ กิเลส ตัณหา จนทำให้เกิดทุกข์ที่ใจ เราขึ้น ถ้าท่านเห็น หรือ รู้ทันก็เป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ครับผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 12, 2011, 09:38:06 AM โดย golfreeze » บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
the suffering
Global Moderator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 9
กระทู้: 859


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 03:17:44 PM »

ปัญญาทางธรรม

คือการมีสติรู้ว่า เรื่อง 4 เรื่อง คือ
1.กาย(ร่างกายของเรา) 
2.เวทนา(ความสุข ทุกข์ เฉย)
3.จิต(ที่รวมกับเจตสิก ที่สำคัญคือความคิด)
4.และ อารมณ์ (พอใจ ไม่พอใจ เบือหน่าย ฟุ้งซ่าน และสงสัย)


ท้ง 4 ล้วน เข้ากฏของพระไตรลักษณ์  อย่างแน่นอน คือ เป็นทุกข์ทนอยู่ในสภาพเดิม ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแปลงเสมอ และ เราไม่สามารถบังคับได้เลย(โดยสิ้นเชิง เพราะมันเป็นธรรมชาติ)

ท่าน มีสติรู้ไหมละว่า

1.ร่างกายแม้นั่งนิ่งๆ ไม่หายใจเพราะดิ่งลึกในฌาน ทั้งร่างยังต้องเดินทางไปในมิติของเวลา(มิติที่4 เมื่อ ร่างกายมี 3มิติ คือ กว้าง ยาว หนา)
2.เวทนา ความสุข ทุกข์  เฉย มันผ่านเข้ามา อาจอยู่ด้วย แป๊บ นึง หรือ ยาวนาน เดี๋ยว มันก็ ผ่านไป อีกแล้ว (จบไปอีกเวทนานึง)

เรื่องจิต และอารมณ์  ก็เป็นไปในทำนอง นี้ นี้ นี้ นี้

มีอะไรให้เรายึดว่าเป็นเรา  ทั้งร่างกาย  และใจนี้ 

เมื่อรู้แล้วด้วย ญาน (จิต ไม่ใช่สัญญาหรือ ความจำ หรือ ความคิดแล้ว)   จะเกิด อาการเบือหน่าย  คลายกำหนัด ความรักใคร่

ในกาย และใจ(กองขันธ์ ทั้ง 5 นี้ ที่มาประกอบกัน ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ)

ของเรา ไม่ใช่ไปเบื่อหน่าย ของคนอื่น เค้า  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 12:25:44 AM »

ศีล สมาธิ ปัญญา

ปัญญา ในการหลุดพ้นออกจากสังสารวัฏ
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
the suffering
Global Moderator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 9
กระทู้: 859


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 19, 2011, 09:04:29 AM »

รู้ มี 2 รู้

1.รู้ จาก สัญญา คิด หรือ สมอง เป็นสติ เบื้องต้น(อย่างที่เขียนๆ ฟัง อ่าน  บอกกันมา) เพื่อเดินทางต่อมาที่
2.รู้  จากจิต เป้นสัมมาสติ (เมื่อกำลังของศีล สมาธิ ปัญญา เต็มที่)

รู้หรือมีปัญญา(ด้วยญาน หรือจิต)  ในไตรลักษณ์ เป็นทางเดินเริ่มต้น ของพระอริยะ ระดับแรก ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: