KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิสวรรค์ของมหายาน(สุขาวดี)ไปแล้ว ไม่กลับลงมาในภูมิต่ำ(อบาย)/ลงมาในสังสารวัฏฏ์อีก
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สวรรค์ของมหายาน(สุขาวดี)ไปแล้ว ไม่กลับลงมาในภูมิต่ำ(อบาย)/ลงมาในสังสารวัฏฏ์อีก  (อ่าน 12074 ครั้ง)
phonsak
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2010, 03:44:42 PM »

สวรรค์ของมหายาน(สุขาวดี)ไปแล้ว ไม่กลับลงมาในภูมิต่ำ(อบายภูมิ) หรือลงมาในสังสารวัฏฏ์อีกเลย



จากกระทู้  นายแคล้ว ธนิกุล อมสมเด็จไว้ในปาก ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ขึ้นสวรรค์นานhttp://www.kammatan.com/board/index.php?topic=919.msg3736#new

คุณjo345 แย้งผมที่บอกว่า:

จิตก่อนตาย เป็นกุศล ก็จะขึ้นสวรรค์ก่อน  แต่อยู่ได้ไม่นาน เช่น 3 วัน 7 วัน เมื่อบุญหมดก็ต้องลงมาใช้ในนรก   แต่ในกรณีจิตสุดท้ายยึดเหนี่ยวพระพุทธเจ้าหรือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง  อยู่บนสวรรค์นานมากๆๆๆๆ  ยิ่งถ้าจิตสุดท้ายระลึกถึงพระอมิตาภพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง = หมดทางตกลงมาในภูมิต่ำอีกเลย อยู่ในแดนสุขาวดีตลอดไป  จนกว่าจะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์หรือพระโพธิสัตว์อรหันต์"


ระลึกถึงพระอมิตาภพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ไม่มีทางครับที่จะไม่ตกนรก แค่ระลึกไม่สามารถที่จะหลุดพ้นได้ อย่ามั่วครับ



ตอบ


1. ระลึกถึงพระอมิตาภพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ไม่มีทางครับที่จะไม่ตกนรก... อย่ามั่วครับ

คุณน่ะซิอย่าแย้งแบบโง่ๆ และอย่าแย้งแบบมั่วๆครับ  คุณไม่มีความรู้ทางพุทธศาสนาเอาเสียเลย  ลองไปศึกษาเรื่องพระอมิตาภพุทธเจ้า แดนสุขาวดี  และคำสอนของพระพุทธเจ้าของเรา ที่ตรัสถึงเรื่องพระอมิตาภพุทธเจ้า และแดนสุขาวดี ที่พ้นจากสังสารวัฏฏ์  เอาไว้ในพระสูตรมากมาย โดยเฉพาะในอมิตายุรยานสูตร ที่พระพุทธองค์ตรัสสอนมเหสีพระเจ้าพิมพิสาร

ศาสนาพุทธเถรวาทของเรา มีความเสี่ยงที่สุดที่คนจะตกไปสูอบายภูมิเมื่อตายไปแล้ว เนื่องจาก สมมุติสงฆ์ไทยไม่รู้และไม่สอนเรื่องการก้าวล่วงบาปกรรม หรือการสำนึกบาป ไม่สอนเรื่องการระลึกถึงพระพุทธเจ้า และพระรัตนตรัยก่อนตาย ฯลฯ เป็นทางรอดให้พ้นนรก

ชื่อสวรรค์ชั้นสุขาวดีของพระอมิตาภพุทธเจ้า อาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคยนักกับชาวพุทธเถรวาท แต่ชื่อนี้จะคุ้นเคยกันดีในหมู่ชาวพุทธมหายานทั่วโลก  สวรรค์ชั้นสุขาวดี ไม่ใช่สวรรค์ในกามภูมิในสังสารวัฏฏ์  ผู้ที่เข้าไปอยู่ในพุทธเกษตร(สวรรค์ชั้น)สุขาวดี จะไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์อีก  คนชั่วบาปหนาก็จะไปอยู่ในดอกบัวในสุขาวดี นานอาจจะเป็นกัป เพื่อล้างคราบความชั่วออก  พอล้างเสร็จก็จะมาปฏิบัติธรรม   จนบรรลุมรรคผลเป็นพระอรหันต์ เข้าสู่นิพพานในสุขาวดีเลย  ไม่มีโอกาส และไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก

ศาสนาพุทธมหายาน โดยเฉพาะนิกายสุขาวดี ไม่มีความเสี่ยงว่าจะต้องตกนรก  พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ผู้ที่จะเข้าไปในแดนสุขาวดีได้ เพียงแต่ท่องชื่อพระนามพของพระพุทธเจ้าที่ชื่อ อมิตา1-10 อย่างจริงใจและอย่างตั้งใจ แค่นั้นพระอมิตาพุทธก็จะส่งพระโพธิสัตว์มารับไปอยู่ ในแดนสุขาวดี หลุดออกจากสังสารวัฏฏ์ แล้วจะไปชดใช้กรรมได้อย่างไร

ในคัมภีร์มหายาน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระสูตรมากมายถึงแดนสุขาวดี และพระอมิตาภพุทธเจ้า เช่น   1. มหาสุขาวดีวยูหสูตร หรือ มหาอมิตายุสูตร 2. อมิตายุรธยานสูตร 3. จุลสุขาวดียุหสูตร


2. แค่ระลึกไม่สามารถที่จะหลุดพ้นได้ ... อย่ามั่วครับ

แล้วใครไปบอกล่ะครับว่า ระลึกแล้วสามารถหลุดพ้น ตีความแบบโง่และมั่วอย่างนี้ได้อย่างไร  ผมบอกว่าระลึกแล้วพ้นจากอบายภูมิ ไปอยู่ในสวรรค์  สวรรค์ ของมหายาน = พุทธเกษตร ผมอธิบายไปแล้ว  สวรรค์ของเถรวาท  พระพุทธเจ้าตรัสว่า:

   "ผู้ถือเอาพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยอุดมคุณอย่างนี้นั้น ชื่อว่าพ้นจากอบาย ทั้งยังจะได้เกิดในเทวโลก"

  "ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งได้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะแล้ว จักไม่เข้าสู่อบายภูมิ ครั้นละจากอัตภาพของมนุษย์แล้ว ย่อมยังกายของเทพให้บริบูรณ์"

  "ผู้ถึงพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยคุณอันอุดมอย่างนี้ ชื่อว่าจะเป็นผู้บังเกิดในนรกเป็นต้นย่อมไม่มี อนึ่งพ้นจากการบังเกิดในอบายแล้ว ยังจะเกิดขึ้นในเทวโลกได้เสวยมหาสมบัติ"


  “คนที่ไม่เคยใส่บาตร ไม่เคยฟังเทศน์ ไม่เคยยกมือไหว้ นึกถึงชื่อตถาคตอย่างเดียว ตายแล้วไปสวรรค์ไม่ใช่นับร้อย นับพัน นับเป็นโกฏิ”

สรุป

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดาของศาสนาพุทธทั้งมหายานและเถรวาท เป็นผู้ตรัสสอน = คุณ่jo345กำลังต่อว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า....อย่ามั่ว   ตกลงคุณ่jo345มีสัมมาทิฏฐิเหนือกว่าพระพุทธเจ้าหรือครับ???

...

อ้างอิง:

ในมหาสุขาวดีวยุหสูตร พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

.....หากสรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้ยินพระนามแห่งพระอมิตตาพุทธเจ้า และเกิดจิตศรัทธาอย่างแรงกล้า และมีใจที่อิ่มเอิบ ระลึกถึงพระนามของพระองค์ แม้หนึ่งครั้ง...ถึงสิบครั้ง...ถ้าบุคคลนั้นมีใจอยากไปอุบัติในสุขาวดีพุทธเกษตร เขาจักได้ไปอุบัติที่นั่นตามความประสงค์ และไม่ต้องกลับมาเกิดในภพภูมิที่ตกต่ำอีก

มหาสันนิบาตสูตร กล่าวไว้ว่า

....หากสาธุชน ชายหญิง ใด้ก็ดีได้นั่งสมาธิภาวนาระลึกถึงองค์พระอมิตาพุทธเจ้าจนจิตเกิดสมาธิต่อเนื่อง ไม่วุ่นวายหากนับได้คืนหนึ่งก็ดีจนถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนก็ดี บุคคลนันจักได้เห็นพระอมิตาพุทธเจ้าอย่างแน่นอน หากไม่ได้เห็นตอนกลางวัน ในเวลากลางคืนก็จะได้เห็นพระองค์อย่างแน่นอน (ในนิมิตขณะนั่งสมาธิ หรือในความฝัน)

ลองอ่านมหาปณิธาน 6 ข้อ จาก48 ข้อ ของ พระโพธิสัตต์ธรรมกร ก่อนที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอมิตตาภพุทธเจ้านะครับ  ท่านที่ได้ตั้งสัตย์ไว้มีดังนี้

จากมหาสุขาวดีวยูหสูตร มหาปณิธาน 48 ประการ แห่ง พระอมิตภะพุทธเจ้าhttp://www.buddha-dhamma.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=buddha-dhammacom&thispage=28&No=209494

1. หากในพุทธเกษตรของพระองค์ยังมี(ภาวะทุกข์ทรมาณของ) นรก เดรัจฉาน เปรต หรือ อสุรกาย จะไม่ขอตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า(หรือไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด อีกนัยหนึ่งคือ ไม่ขอ บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ทุกๆข้อในตอนท้ายให้หมายถึงพระธรรมกร)

2. หากในพุทธเกษตรของพระองค์ยังมีสัตว์ที่ต้องตายและตกสู่อบายภูมิ(ภูมิต่ำทั้งสี่ข้างต้น) จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด

18.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว มีสัตว์ในทิศทั้งสิบศรัทธาพระองค์ด้วยความคิดที่แน่วแน่ ปรารถนาจะไปเกิดพุทธเกษตรของพระองค์ ได้กล่าวความระลึกถึงหรือท่องชื่อพระองค์ 10 ครั้ง ถ้าพวกเขา ไม่ได้อุบัติในสุขาวดี จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสุงสุด ..ยกเว้นแต่ พวกที่ประกอบอนันตริยกรรม* และผู้จ้วงจาบทำลายพระธรรม

19. หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว มีสัตว์ที่มุ่งตรัสรู้ในโลกธาตุอื่น และเป็นผู้ที่ภายหลังได้ยินชื่อของพระองค์ ได้ทำสมาธิระลึกถึงพระองค์ด้วยความคิดที่แน่วแน่ ขณะที่พวกเขาสิ้นใจ ถ้าพระองค์ ไม่ได้ ไปปรากฎต่อหน้าพวกเขาพร้อมเหล่าภิกษุ เพื่อช่วยให้จิตของพวกเขาสิ้นสุดความหวาดหวั่นแล้วละก็ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด

20. หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว มีสัตว์พุทธเกษตรน้อยใหญ่ได้ยินชื่อของพระองค์ ได้กำหนดจิตขออุบัติในพุทธเกษตรของพระองค์(คือสุขาวดี) ได้สั่งสมคุณธรรมความดีไว้มาก แม้แต่พวกท่องชื่อระลึกถึงแดนสุขาวดีเพียง 10 ครั้ง ถ้าพวกเขาเหล่านั้น ไม่ได้อุบัติในแดนสุขวดี(ตามที่ตั้งจิตปราถรถนา) แล้วละก็ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด ยกเว้น พวกประกรอบอนันตริยกรรม และ ผู้ที่ขัดขวางบิดเบือนพระธรรม

21. หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว เทวดาหรือมนุษย์ในสุขาวดี ไม่มี ลักษณะมหาบุรุษ(มหาปุริสลักษณะ) 32 ประการ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด
บันทึกการเข้า
phonsak
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2010, 06:02:58 PM »

อ้างจาก: armageddon


ใครไม่มีปัญญา ก็ไปสุขาวดี

แต่พระนางเขมาพระมเหสีพระเจ้าพิมพิศาล  ฟังเรื่องสุขาวดีแล้ว ไม่ไปสุขาวดี
พระนางเขมา พระมเหสีพระเจ้าพิมพิสารได้เสด็จไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ายังวัดเวฬุวัน
พระผู้มีพระภาคได้ทรงโปรดพระนางเขมาให้เข้าถึงสรณะ(พระรัตนตรัย)
พระนางทูลลาพระสวามีออกบวช บวชเป็นภิกษุณีเพียง ๗ เดือน นางสำเร็จอรหัตผล

และก็กล่าวภาษิตนี้

"มารผู้มีบาป เธอจงรู้ไว้เถิดว่า ถึงเธอเราก็ขจัดได้แล้ว คนโง่ทั้งหลายผู้ไม่รู้ความจริง จึงนมัสการดวงดาว บำเรอไฟในป่า แล้วเข้าใจว่า เป็นความบริสุทธิ์...





คุณ armageddon ครับ



คุณก็มั่วอีกคนหนึ่งแล้ว  เช็คข้อมูลให้ดีซิครับ

พระอัครมเหสีของพระเจ้าพิมพิสาร มีพระนามว่า โกศลเทวี หรือ เวเทหิ  พระนางเวเทหิ เป็นพระธิดาพระเจ้ามหาโกศล เมืองสาวัตถี เป้นแม่ของพระเจ้าอชาติศตรู ผู้ฆ่าพ่อตัวเอง

พระนางเขมา เป็นพระธิดาเจ้าครองนครสาคล แห่งมัทรัฐ มีสิริโฉมงดงามยิ่ง พระนางเขมาเป็นพระมเหสีของพระเจ้าพิมพิสารอีกองคห์หนึ่งครับ  เป็นคนละคนกับพระนางเวเทหิ ผู้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าพิมพิสาร

พระนางเวเทหิ เป็นผู้เลือกอยากจะไปเกิด ณ แดนสุขาวดีพุทธเกษตร  ส่วนพระนางเขมา ได้บรรลุอรหัตผล พระเจ้าพิมพิสารมีพระบรมราชานุญาตให้พระนางเขมาออกบวชได้  

พระนางเขมาทรงมีปัญญาอันยิ่ง พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่าพระเขมาเถรีเป็นเอตทัคคะคือมีความเป็นเลิศในทางปัญญา และทรงแต่งตั้งให้พระนางเป็นอัครสาวิกาเบื้องขวา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 22, 2010, 11:55:43 AM โดย phonsak » บันทึกการเข้า
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2010, 07:52:14 PM »



คุณลุง phonsak ครับ

ไปตัดเอากระทู้ที่อื่นมา แล้วมาลงแบบนี้ คุณ armageddon ถ้าท่านไม่ได้ตามมาอ่าน ท่านก็โดนคุณลุงโพสต์แก้อยู่ฝ่ายเดียว

ขออนุญาตคุณ armageddon หรือยังครับที่เอากระทู้ท่านมาลงที่อื่นอีก...ถึงจะอยู่ในโลกไซเบอร์เราต้องเคารพกัน ให้เกียรติกัน นะครับ

การกระทำแบบนี้ผมเห็นไม่สมควรครับคุณลุง...

 
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
phonsak
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2010, 03:19:06 PM »

ผมเอาลิ้งกระทู้ มาให้คร๊าบบ  ยังมีที่ผมกับคุณarmageddon ถกกันอีกเยอะ
   http://www.sookjai.com/index.php?topic=12672.msg27892#new
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: