KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4กำลังใจ จากครูบา อาจารย์ ในการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4ทำงานด้วย ค้นหาใจที่เย็นด้วย จากพี่ตุลย์​ ดังตฤณ
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำงานด้วย ค้นหาใจที่เย็นด้วย จากพี่ตุลย์​ ดังตฤณ  (อ่าน 8225 ครั้ง)
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: มีนาคม 03, 2013, 09:52:26 AM »

ทำงานด้วย ค้นหาใจที่เย็นด้วย

สมดุลแห่งเซน คือระหว่างแห่งพลังที่ไม่เย็นชืด และพลังที่ไม่ร้อนรน จึงก้าวข้ามทั้งความเกียจคร้านและความกระสับกระส่าย เข้าถึงพลังความเคลื่อนไหวอันปราศจากทุกข์ ดุจการร่ายรำอันเป็นสุข ทั้งปราดเปรียว ทั้งอ่อนโยน บนเวทีราบนิ่ง มั่นคง และกว้างใหญ่

การเผลอทอดหุ่ยมือตกเท้าตก เป็นต้นตอของส่วนขาด

การเผลอเคลื่อนไหวอย่างเร่งรีบ เป็นต้นตอของส่วนเกิน

หลังจากเอาชนะตัวเอง กะเทาะเปลือกของความขี้เกียจออกได้ ก็เหมือนปลดปล่อยพลังความชุ่มชื่นแบบเซนให้พรั่งพรูไม่รู้จบรู้สิ้น บางครั้งขณะเคลื่อนคล่องด้วยใจเบา คุณอาจรู้สึกราวกลางใจผุดน้ำพุพวยพุ่ง ทรงชีวิตชีวาไม่ขาดสาย ขับดันให้ทำงานได้หลายชั่วโมงโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ระหว่างแห่งห้วงเวลาดื่มด่ำกับงานอันเป็นสุข ธรรมชาติดั้งเดิมของใจที่พร้อมกระสับกระส่าย หรือพร้อมจะร้อนรน อาจปรากฏในช่วงใดช่วงหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงที่เผลอลืมสังเกตสมดุลทางความเย็น

จุดสังเกตการเสียสมดุลทางความเย็น ก็คือความรู้สึกอันเป็นทุกข์กับอุปสรรคในปัจจุบัน หรือความรีบร้อนจะเอาอนาคตให้ได้ทันทีเดี๋ยวนั้น

ความทุกข์ ความกระวนกระวายของคุณ อาจรบกวนธรรมชาติมากกว่าที่คิด เมื่อธรรมชาติภายนอกและภายในถูกรบกวนมากเข้า ชีวิตจะปรากฏคล้ายคลื่นความสับสน ระส่ำระสาย ผู้คนรอบตัวใจเต้น ตัวคุณเองใจเต้น ไม่ว่าทำยอดสักแค่ไหน ได้รับเหรียญเชิดชูสักกี่งาน ไม่นานก็รู้สึกแน่นอก อัดอัดใจ อยากตะโกนโพล่งออกมาว่า ‘ไม่ไหวแล้ว!’

บนเส้นทางแห่งเซน เมื่อต้องหมกมุ่นกับงานภายนอก ต้องไม่ลืมสำรวจจิตภายใน แล้วสุดท้าย คุณจะพบว่าตัวเองทำงานไปด้วย มีสติค้นหาใจที่เย็นเข้ามาด้วย มีสติคัดแยกใจที่ร้อนออกไปด้วย

การเริ่มต้น ควรฝึกสังเกตธรรมชาติความเป็นไปเอง เช่น หลังจากแก้ปัญหาหรือครุ่นคิดเกี่ยวกับงานนานๆ จะเกิดความเครียดทางกายและทางใจขึ้นมาเป็นธรรมดา ไม่อาจป้องกัน กับทั้งไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะในที่สุดความอ่อนล้าจะเตือนให้คุณพักงานไปเอง

แต่หากพบปัญหาแล้วเครียดทันที ทั้งที่ยังไม่ทันไร ไม่ทันได้คิดแก้ปัญหาแม้แต่นิดเดียว อันนั้นคือส่วนเกิน คุณกำลังเครียดทั้งที่ไม่จำเป็นต้องเครียด นั่นแหละ การออกนอกวิถีทางของธรรมชาติ และนั่นแหละ การเบี่ยงเบนออกจากวิถีแห่งเซน

นิสัย ‘เครียดก่อนคิด’ จะเป็นปัญหาของจิตในการทำงานระยะยาว นิสัยนี้เป็นบ่อเกิดของการคิดมาก คิดหนึ่ง แต่เครียดเก้า กังวลยาว แต่คิดหาทางออกจริงๆเพียงสั้น ยังไม่ทันออกเท้าก้าวที่สอง ก็อยากลองวกกลับมาหาก้าวที่หนึ่งใหม่

สิ่งใดเป็นส่วนเกิน สิ่งนั้นไม่จำเป็นต้องรักษาไว้

ยิ่งถ้าส่วนเกินนั้นเป็นโทษ ก็ยิ่งจำเป็นต้องหาทางกำจัด

หากหาไม่เจอว่าส่วนเกินอยู่ตรงไหน ให้สืบหาจากกายก่อน

ถามตัวเองว่าฝ่าเท้ากำลังเกร็งหรือคลายออก

ถามตัวเองว่าฝ่ามือกำลังกำหรือคลายออก

ถามตัวเองว่าหัวคิ้วกำลังขมวดหรือคลายออก

ความกำเกร็งหรือขมวดรัด ไม่เคยช่วยให้คุณแก้ปัญหาได้ดีขึ้น ตรงข้าม อาการเหล่านั้นจะกดดันให้คุณรู้สึกว่าตัวปัญหามีน้ำหนักมากเกินจริง

ส่วนความคลายออก แม้อาจไม่ช่วยให้คุณแก้ปัญหาได้ทันที แต่ก็จะผ่อนหนักให้เป็นเบา หรืออย่างน้อยตัวปัญหาก็มีน้ำหนักเท่าที่มันเป็น ไม่เกินไปกว่านั้น

การฝึกอย่างเรียบง่ายแต่ได้ผล อาจเป็นเพียงการเฝ้าสังเกตอยู่ทั้งวัน ด้วยความตั้งใจว่า หัวคิ้วขมวดเมื่อใด เราจะรู้สึกตัวและคลายมันออกทันที

ความเคยชินที่เกิดขึ้น จะนำคุณไปสู่การค้นพบความจริง คือ การขมวดคิ้วมักเป็นเพียงส่วนเกินทางความคิดที่ไร้สติ ไร้ความเย็น การขมวดคิ้วเป็นการเพิ่มความเครียดทึบทางกาย และจะส่งผลไปถึงทางความคิด ประดุจกำแพงที่ยกขึ้นขวางทางออก หรืออย่างน้อยก็เป็นม่านหมอกบดบังทัศนวิสัยเบื้องหน้า

ครั้งหน้า เมื่อเจอปัญหานิดเดียว แต่คุณกลับขมวดคิ้วมาก ลองคลายออก แล้วสังเกตว่าเหมือนลดกำแพงหนาทึบลงหรือไม่

หากใช่ คุณรู้สึกเหมือนเห็นทางข้างหน้าโปร่งโล่งขึ้น ก็สังเกตต่อไปว่า ใจคุณโปร่งโล่งเพราะปล่อยปละดูดาย หรือพร้อมจะแล่นไปจัดการแก้ปัญหา

เมื่อรู้จักเผชิญหน้าปัญหาด้วยความเยือกเย็น ไม่ปล่อยปละละเลย แนวโน้มคือคุณจะเห็นตัวเองโกรธน้อยลงเมื่อถูกกระทบกระทั่งหรือถูกขัดขวาง กับทั้งจะพบความจริงอันน่ายินดี คือ เมื่อเจอเรื่องร้อน จิตจะยังคงเย็นอยู่ได้ เมื่ออยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย ใจจะยังคงสงบกับตัวเองตามลำพัง เมื่อเกิดความขัดแย้งที่ภายนอก ภายในยังคงรักษาความราบรื่นกลมกลืนไว้

ห้วงเวลาแห่งความสงบในท่ามกลางความวุ่นวาย คุณจะรู้สึกเหมือนค้นพบโดยไม่ต้องแสวงหา เพราะความสงบที่แท้จริงดำรงอยู่แล้ว มีความเป็นไปเองอยู่แล้ว ณ จุดเริ่มต้นในตัวคุณ แต่ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวอันผิดพลาดคลาดเคลื่อน เลื่อนคุณห่างจากใจกลางความสงบ กระทั่งความเย็นกลายเป็นสิ่งไม่คุ้นหน้ามาเสียนาน


ขอบพระคุณข้อคิดดีๆ จากพี่ตุลย์​ ดังตฤณ นะครับผม
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 24, 2013, 09:13:53 AM »

• บุญแท้ ไม่ใช่การไปใส่บาตรที่วัดแล้วพอ
ไม่ใช่คิดสร้างพระไตรปิฎกแล้วปลอดภัย

บุญใกล้ตัว
ที่พอจะทำให้ปลอดภัยจริง
คือบุญอันเกิดจากการทำตัว "ให้ร้ายน้อยลง"
และประพฤติตนให้ดี หนีความชั่วทุกวัน

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• บุญทำให้เป็นสุข
เพราะปรุงแต่งให้ใจสว่างแช่มชื่นด้วยเจตนาอนุเคราะห์
และปรุงแต่งให้อุ่นใจกับหลักประกันว่า
ได้เตรียมเสบียงไว้ในการเดินทางข้างหน้า

• ความตั้งใจ
ที่จะทำบุญทำกุศลสม่ำเสมอไม่ขาดนั้น
ก็จะส่งผลดีอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

• กรรมขาวสร้างจิตขาว
กรรมดำสร้างจิตดำ
จิตแบบใดตั้งมั่นในขณะมีชีวิต
หลังตายย่อมมีชีวิตใหม่สอดคล้องกัน
ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ และชะตาดีร้าย

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• สวรรค์และนรก
คือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นระหว่างมีชีวิต
และไปพบผลงานของตัวเอง
หลังจากสิ้นชีวิตลง

ดั ง ต ฤ ณ
http://www.facebook.com/dungtrin
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: