KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4กำลังใจ จากครูบา อาจารย์ ในการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4ทำกรรมฐานควบคู่กับวิปัสสนาก็ได้นะครับ
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำกรรมฐานควบคู่กับวิปัสสนาก็ได้นะครับ  (อ่าน 13462 ครั้ง)
phonsakw
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 1
**

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 2
กระทู้: 94


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: มีนาคม 20, 2012, 01:29:50 AM »

1.ท่านใช้วิธีใดตรวจสอบว่าพระพุทธเจ้าที่ท่านเห็นนั้นจริง หรือมารปลอมตัวมา
   
2.ท่านฝึกสมาธิโดยใช้กรรมฐานกองใด


ตอบ

เมื่อจิตสงบมีสติอยู่ในฌาน   แม้เจ้าแม่กวนอิม  อวตารเป็นมนุษย์มาทดสอบผม  หรือลูกสาวพญามารมาทดสอบผมในจิต ในความฝัน  ผมก็รู้ว่า  เป็นเจ้าแม่กวนอิม และเป็นลูกสาวพญามาร

อย่างเมื่อคืน  ผมทำกรรมฐาน  แผ่เมตตาอุทิศกุศลให้สรรพวิญญาณ ทั้งสัมภเวสี เปรต และทุกจิตในอบายภูมิ  แม้แต่ในนรกอเวจี หรือนรกโลกันต์  ถ้าพลังจิตผมมีพลังส่งไปถึงที่นั้น  ก็ขอใ้ห้ทุกวิญญาณได้รับผลบุญที่ผมแผ่เมตตาอุทิศให้ด้วย   แล้วผมก็ห้าม....ไม่ให้ดวงวิญญาณใดๆ มาหาเพื่อขอบคุณผม หรือมาหา  ไม่ว่าด้วยกรณีใดๆ   เพราะผมต้องการนอนหลับให้สบาย

แต่ปรากฏว่า....มีวิญญาณตำรวจตชด.คนหนึ่งมาหาผม  แล้วเข้ามาสิงในร่างกายเนื้อของผมเฉยเลย  เขาเข้ามาทางศรีษะผม  จมลึกลงมาถึงหน้าอกผมแบบไม่มีการยำเกรงอะไรทั้งนั้น  ผมจึงถอดจิตของผมออกมา  แล้วดึงผมและตัวของเขา  เพื่่อให้วิญญาณของเขาออกมาทางศรีษะของผม "เข้ามาทางไหน ก็ออกทางนั้น"   พอเขาออกไปแล้ว  ผมก็ไม่ทำอะไรเขาทั้งนั้น  ไม่กลัว ไม่โกรธ และไม่ใช้วิชาของผม  ทำไฟเผาเขาด้วย  ผมเพียงแต่กลับเข้าร่างผม 

แต่วิญญาณตชด.ดวงนี้  ดันพยายามเข้ามาในร่างกายเนื้อผมอีกทางเอว   ผมก็ไม่ว่าอะไร  อยากจะอยู่ในร่างเดียวกับผม...ก็อยู่เลย   เพียงแต่รู้สึกแปลกๆว่า  ทำไมมีวิญญาณหน้าด้านอย่างนี้ด้วย  ก่อนผมนอนก็แผ่เมตตาใ้ห้ทุกอบายภูมิแล้ว  ห้ามแล้วว่าไม่ต้องมา  วิญญาณดวงนี้ก็ยังมาอีก  ตอนหลังเมื่อวิญญาณของเขาเบียดเข้ามา  ผมเลยต้องยอมออกจากโลกแห่ง ความฝัน 

เสร็จแล้วลุกขึ้นนั่ง  แผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญทั้งหมดของผมที่มีอยู่  ให้ดวงวิญญาณดวงนี้ไป .... รู้สึกว่าเขาดีใจอย่างมากๆๆๆเลย   และก็จากไป 

ตอนก่อนเที่ยง   ผมก็ทำกรรมฐาน   ถามเจ้าแม่กวนอิมตรงๆเลยว่า  เจ้าแม่ส่งวิญญาณดวงนี้มาทดสอบจิตผมใช่ไหม?  ผมรู้เองในจิต  ท่านก็ยอมรับว่า "ใช่."

ผมก็เลยถือโอกาสถามพระมหาโพธิสัตว์กวนอิมต่อเลยว่า   

1.  พระพุทธเจ้าตรัสว่า บุญอุทิศให้ได้ไม่มีวันหมด  ยิ่งให้ยิ่งได้ผลบุญมากขึ้น  หมายความว่าอย่างไร?

2.  ท่านเคยแปลงร่างเป็นเปรตไปหาพระอานนท์ใช่หรือเปล่า  เพราะพระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า  เปรตตนนี้เป็นอวโลกิเตศวรแปลงมา

3.  อวโลกิเตศวรเป็นพระเจ้า หรือฌานิโพธิสัตว์  แล้วกวนอิมที่ท่านเคยบอกว่า  มีกวนอิมมนุษย์ 2 องด้วยค์  นอกนั้นเป็นศิษย์หรืออวตารของกวนอิมทั้ง 2 คือ กวนอิมพันมือ และกวนอิมประทานพร  ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่  ผมไม่ค่อยเข้าใจ

ผมว่าฟังที่ผมคุยกับพระมหาโพธิสัตว์กวนอิมเอาเอง ตั้งแต่ต้นจนจบกดีกว่า

 เจ้าแม่กวนอิม  "เธอเดาถูกแล้ว  เราเป็นคนส่งวิญญาณดวงนี้ไปทดสอบจิตเธอเอง  เราจะดูว่าจิตเธอมีความหวั่นไหว  หรือมีความรู้สึกอย่างไร  แล้วผลบุญเก่าที่เธอให้เขาไป  จริงๆมันหมด    แต่จะเกิดผลบุญใหม่ที่ดึงผลบุญเก่าทั้งหมดกลับมา  ตามด้วยผลบุญใหม่ที่เธอเสียสละบุญของเธอให้เขา"

  พลศักดิ์    ในพระสูตรหนึ่งบอกว่า  พระอวโลกิเตศวรเคยแปลงตัวเป็นเปรตไปขอส่วนบุญจากพระอานนท์  ท่านรู้เรื่องนี้หรือเปล่า

   เจ้าแม่กวนอิม  เราต้องรู้ซิ  เพราะเป็นเราเองที่แปลงตัวไป 

  พลศักดิ์    อย่างนั้นผมก็เดาถูกต้องซิว่า จะพระอวโลกิเตศวรที่เป็นสัมโภคกาย  หรือกวนอิมพันมือ หรือกวนอิมประทานพร  ก็คือท่านทั้งนั้น

   เจ้าแม่กวนอิม  ช่าย... เราจะเป็นกวนอิมพันมือ ที่มีท่าทีขึงขังน่าเกรงขามเมื่อเจอกับสิ่งที่ดุร้าย  เราจะเป็นกวนอิมประทานพร  ที่มีท่าทีสงบยิ้มแย้มแจ่มใสเมื่อเจอกับเทพหรือคนดีๆ   เราจะเป็นพระอวโลกิเตศวรที่มีหน้าตาสดสวยบริสุทธิ์ที่สุดในจักรวาล  เมื่อต้องอยู่ต่อหน้ามหาเทพต่างๆ
     
เธอเข้าใจไหมว่า  ใครดุ  ใครดี เราต้องร้ายตอบ  ดีตอบ ใครบริสุทธิ์  เราต้องแสดงความบริสุทธิ์ของเราให้ประจักษ์กับเขา


ผมไม่ได้ฝึกกรรมฐานอะไรกองไหนหรอกครับ  เราจะบริกรรมอะไรก็ได้  ให้จิตมันนิ่ง  แล้วพอจิตมันส่าย  เราก็ใช้สิ่งที่ทำให้เราวอกแวก  พิจารณาไปเลยว่า  ทำไมสิงนั้นทำให้เราวอกแวก  ทุกครั้งก็พบความจริงว่า  เราเอาจิตของเราไปคิดปรุงแต่งกับเรื่องภายนอกที่เข้ามากระทบเอง  เมื่อรู้อย่างนี้  ใจเราก็สงบเป็นสมาธิ  นี่เป็นการทำกรรมฐานควบคู่กับวิปัสสนา
บันทึกการเข้า
phraedhammajak
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 2
***

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 16
กระทู้: 109


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 20, 2012, 06:21:49 PM »

1.พุทธะ  คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน  
ผู้ใดเห็นทุกข์(สภาวะที่ทนได้อยาก มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา) ผู้นั้นเห็นธรรม
ผู้ใดธรรม   ผู้นั้นเห็นเรา  (ตถาคต)

อ้างถึง
1.ท่านใช้วิธีใดตรวจสอบว่าพระพุทธเจ้าที่ท่านเห็นนั้นจริง หรือมารปลอมตัวมา
  ก่อนอื่นเราต้องรู้จักพระพุทธเจ้าที่แท้จริงก่อน

มีคำถามว่า  พระพุทธเจ้าประสูตร เจ้าชายสิทธัตถะอายุได้เท่าไร?
บางคนอาจจะงง ว่าเป็นคนๆเดียวกันนี้น่า  ตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติใหม่ๆเรายังไม่เรียกพระองค์ว่าพระพุทธเจ้า ตอนนั้นพระองค์ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่  จนกระทั้งพระองค์ทรงตรัสรู้ ในธรรมอริยสัจจ์ ๔   ตอนพระชนมายุ ๓๕ เราจึงได้เรียกพระองค์ว่าพระพุทธเจ้า   เพราะฉนั้น  รูปร่างหน้าตาของพระพุทธเจ้า จริงๆ ก็คือ ธรรม อริยสัจจ์ ๔  นั้นเอง

พระพุทธเจ้าทรงตรัสกับพระวักลิที่หลงไหลในรูปเนื้อของพระองค์ว่าพระวักกลิติดตามดูพระศาสดาตลอดเวลา เว้นเวลาฉันอาหารเท่านั้น พระศาสดาทรงรอคอยความแก่กล้าแห่งญาณของเธอ จึงไม่ตรัสอะไร ครั้นทราบว่าญาณของเธอแก่กล้าแล้ว จึงได้ตรัสแก่เธอว่า วักกลิ จะมีประโยชน์อะไรกับการดูร่างกายที่เปื่อยเน่า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นย่อมเห็นเรา ผู้ใดเห็นเราผู้นั้นย่อมเห็นธรรม ดูก่อนวักกลิ บุคคลผู้เห็นธรรมชื่อว่าเห็นเรา บุคคลผู้เห็นเราชื่อว่า ย่อมเห็นธรรม
  

เพราะฉนั้น ผู้ใดก็ตามหากปฏิบัติธรรม เห็นอริยสัจจ์ ๔  รู้ทุกข์ รู้เหตุแห่งทุกข์ สามารถดับทุกข์ได้ รู้วิธีที่ทำให้ทุกข์ดับ(วิธีทำให้มรรคเกิด) อย่างแจ่มแจ้งแล้วผูนั้นชื่อว่าอยู่ใกล้พระองค์ ได้เห็นพระองค์    

ไม่ได้หมายความว่าเห็นรูปร่างหน้าตาของพระองค์ว่าหน้าตาอย่างนี้ จมูกแบบนี้ คิ้ว คาง แบบนี้ คือพระพุทธเจ้า  ถ้าหากถือเอารูปร่างหน้าตา
อาจมีการปลอมกันได้ เหมือนพระเครื่องที่ขายกันตามตลาด

2.2.ท่านฝึกสมาธิโดยใช้กรรมฐานกองใด

   สะติ เตสัง นิวาระนัง   สติเป็นเครื่องกั้นกระแส (ความชั่วทั้งหลาย)

สติปัฏฐาน 4 เป็นหลักธรรมที่อยู่ในมหาสติปัฏฐานสูตร
 เป็นข้อปฏิบัติเพื่อรู้แจ้ง คือเข้าใจตามเป็นจริงของสิ่งทั้งปวงโดยไม่ถูกกิเลสครอบงำ
สติปัฏฐานมี 4  คือ มีสติรู้เท่าทันตามความเป็นจริงทางกาย   ทางเวทนา  ทางจิต และ ทางธรรม
บันทึกการเข้า
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 20, 2012, 10:47:00 PM »

ขอบพระคุณครับท่าน phraedhammajak 
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
magicmo
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 2
***

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 1
กระทู้: 124


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 22, 2012, 06:47:04 PM »

 ยิงฟันยิ้ม  ขอบคุณมากๆนะครับ
บันทึกการเข้า

เครื่องกรองน้ำชั้นเยี่ยม crane สะอาด ปลอดภัย เหล็กปลอกราคาถูกลวดผูกเหล็ก คุณภาพดี cctv
phraedhammajak
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 2
***

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 16
กระทู้: 109


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 23, 2012, 12:09:23 AM »

.......จิตเป็นอะไรที่มหัศจรรย์ที่สุดแล้ว....แต่จิตชอบหลอกจิตอยู่ร่ำไป หากขาดตัวสติ...อุปทานเอาไปกินหมด...

     ..... หลวงตาแก่

(อ่านแล้ว  อุณภูมิในร่างกายขึ้นสูงกว่าปกติ  พึงมีสติรู้....เรายังละอ่อนอยู่)

จิตที่ส่งออกนอก                 เป็น  สมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตส่งออกนอก   เป็น  ทุกข์
จิตเห็นจิต                        เป็น  มรรค
ผลอันเกิดจากการเห็นจิต       เป็น  นิโรธ
 หลวงปู่ฝากไว้ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
บันทึกการเข้า
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 23, 2012, 12:07:50 PM »

"หลวงปู่ฝากไว้" เป็นหนังสือที่ควรมีไว้อ่าน เวลาหมกหมุ่น ในการปฏิบัติมากเกินไปครับ

ช่วยได้เยอะเหมือนกันครับผม
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: