KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4กำลังใจ จากครูบา อาจารย์ ในการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4บันทึกกรรม ทุกอย่างคือเรื่องจริง ( ไม่มีการปรุงแต่งใด ๆ)
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: บันทึกกรรม ทุกอย่างคือเรื่องจริง ( ไม่มีการปรุงแต่งใด ๆ)  (อ่าน 27986 ครั้ง)
Jena
สมาชิกใหม่
*

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 1
กระทู้: 1


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2010, 08:40:53 PM »


   ข้าพเจ้าจะบันทึกเล่มนี้เพื่อเตือนสติท่านทั้งหลาย ว่าบาปกรรมแต่ละภพชาติ มันส่งผลมายังตัวข้าพเจ้าอย่างไร หลายท่านอาจสงสัยว่าข้าพเจ้ารู้ได้อย่างไร  ก็จาก การปฏิบัติตัวของข้าพเจ้า เป็นคนดีคนหนึ่ง ของพ่อแม่ ของเพื่อนฝูง ของพี่น้อง และ ของสังคม แต่ปัจจุบัน ปัญหาต่างๆรุมเร้าข้าพเจ้าจนท้อ แท้ เหนื่อยหน่าย ไม่รู้ว่าที่ข้าพเจ้าอุทิศให้เค้าจะได้หรือไม่ แล้วทำไมชีวิตข้าพเจ้าถึงเลวลงๆ เรื่อยๆ ขนาดข้าพเจ้าอยากฆ่าตัวตาย ให้มันพ้นๆ โชคดีที่ข้าพเจ้าได้เจอ พระใจดีรูปหนี่งชี้ทางชีวิต และ คอยแนะนำให้ ทำให้ข้าพเจ้าเย็นลง แต่ก็แค่บางครั้งเท่านั้น 
                  ขอเริ่มเล่าชีวิตของข้าพเจ้าให้แก่ท่านทั้งหลายเป็นวิทยาทาน เพื่อไปสร้างบุญกุศลกันเถิด เพราะบาปกรรมแต่ปางก่อนแน่ๆ ส่งผลให้ชีวิตข้าพเจ้าตกต่ำถึงขีดสุด ตอนนี้
   ข้าพเจ้าเกิดในครอบครัวระดับปานกลาง ตอนเด็กๆ ก็เป็นชาวชนบท พ่อแม่เป็นข้าราชการ ทำให้ชีวิตตอนเด็กของข้าพเจ้าไม่เคยลำบาก และในชนบทการเป็นลูกข้าราชการ ก็เป็นที่นับหน้า และ เกรงของเพื่อนๆวัยเดียวกันอยู่แล้ว ข้าพเจ้าไม่เคยรู้สึกขาดอะไรไปเลยนับแต่วัยเด็ก  จนถึงเข้ามัธยมปลาย ข้าพเจ้าย้ายไปเรียนในตัวเมือง ก็ยังไม่มีอะไร มีบ้างที่เพื่อนๆแซวเพราะมาจากบ้านนอก แต่ข้าพเจ้าคิดว่าต่อให้จากบ้านนอกแต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้จนนี่ พ่อแม่ข้าพเจ้ายังดีกว่าคนที่ดูถูกข้าพเจ้าเสียอีก แต่ก็แค่คิดในใจ เพราะ ข้าพเจ้าไปชอบข่มคนอื่น แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นชอบรังแก แกล้งข้าพเจ้า แต่ก็แค่ช่วงแรกๆ  ข้าพเจ้าก็เรียนจบเข้ามหาลัยเอกชน ก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม แต่ดีขึ้นกว่าเดิมเพราะ พ่อแม่ข้าพเจ้าเริ่มทำธุรกิจ ข้าพเจ้าก็มีเงินใช้จ่ายไม่ขัดสน จนกระทั้งจบมหาลัย ตามกำหนด ที่ตั้งไว้  ตลอด 21 ปี ชีวิตข้าพเจ้า นับครั้งได้ ถ้าร้องไห้ เสียใจ แต่ก็ไม่ได้สาระสำคัญอะไร ครอบครัวเราดี  ไม่เคยคิดเลย ว่าจุดเปลี่ยนมาถึงข้าพเจ้าจนได้
 พ่อข้าพเจ้า ซึ่งเป็นพ่อที่ดีมาก คงหาได้ยาก สำหรับสังคมปัจจุบัน ไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และ ติดผู้หญิง พ่อทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกๆได้ดี เพราะพ่อข้าพเจ้าเคยลำบากมากมาก่อน และ ก็เป็นลูกกำพร้า ทำให้พ่ออยากให้เราเรียนสูงๆ มีหน้ามีตาในสังคม ซึ่งข้าพเจ้าก็ทำตามเชื่อฟัง ถึงจะเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่ไม่เคยติดF หรือเรียนซ้ำเลย 
แม่ของข้าพเจ้าก็เป็นแม่ศรีเรือน ทั้งงานนอกบ้านและงานนอกบ้านแม่ทำเองหมด ไม่ได้จ้างแม่บ้าน  กับข้าวจะมีบนโต๊ะทุกวัน ไม่ว่าจะมีใครกินกี่คน แม่บอกไว้เสมอ เป็นผู้หญิงอย่าทิ้งงานบ้านงานเรือน (แต่ข้าพเจ้าก็ทิ้ง  ซื้อเค้าก็ได้) นี่คือข้อเสียแรกของข้าพเจ้าคือ ชอบเถียงพ่อแม่ แต่ก็เรื่องเล็กๆนอ้ยๆ  คงไม่บาปมากใช่ไหม
       ข้าพเจ้าขอเล่าจุดเปลี่ยนดีกว่า หลังจากข้าพเจ้าเรียนจบ ฐานะทางบ้านตอนนั้นดีมาก
มีรายได้เยอะ ธุรกิจไปได้ดี ฟาร์มเลี้ยงกุ้ง พ่อข้าพเจ้าก็ซื้อรถหลายคัน และ ที่ดิน อีกหลายแห่ง แต่อย่างเดียวที่พวกเราไม่ได้ทำ คือ ทำบุญ
   เมื่อสูงสุดแล้วก็ต่ำสุด พ่อข้าพเจ้าที่มีฐานะการงานดี กำลังเตรียมสอบ ผอ.อยู่ ณ ตอนนั้น  และ เป็นหัวหน้างานหลายแห่ง ต้องชะงัก เมื่อพ่อข้าพเจ้าเป็นเส้นเลือดในสมองกแตก พ่อข้าพเจ้าเข้ารพ.และพักอยู่ห้อง ICU  6 วัน ตอนที่พ่อเข้ารพ.พ่อยังรู้สึกตัวและก็ค่อยๆสลบไป ตามอาการของโรคนี้  บอกตามตรง นี่คือการสูญเสียครั้งแรกในชีวิตที่ เลวร้ายมาก แล้วก็เมื่อหมอบอกว่าพ่อเดินไม่ได้ ทุกคนช๊อค ใครจะคิดว่าเรื่องร้ายจะเกิดกับพ่อ ลูกพ่อเรียนจบปริญญาแล้ว เหลือแค่น้องคนเดียวก็สบาย เงินเหลือเยอะแยะ
แต่เราก็ไม่เคยไปวัดทำบุญ  หลังจากพักรพ.เอกชน หมดเงินไปหลายแสนบาท ก็ไม่เป็นไร มีอีก และธุรกิจก็ยังไม่มีปัญหาอะไร  แต่การดูแลคนป่วย มันหนักมาก ลองคิดดูการเดินไม่ได้ พูดก็ไม่ค่อยรุ้เรื่องแต่สติเต็มร้อย แต่เวลาพูดมันไม่ได้อย่างต้องการ   คนป่วยก็อยากตาย คนเฝ้าก็เครียด ก็แสดงอารมณ์รุนแรงกับผู้ให้บังเกิดเกล้า ....เพราะไม่รู้ว่าบาปกรรมมันหนักขนาดไหน แต่ข้าพเจ้าก็ดูแลพ่ออย่างดี คอยป้อนข้าว น้ำ อาบน้ำ เช็ดอึ ฉี่ ให้ หลังจากนั้น 5 เดือน พ่อข้าพเจ้าก็ลุกนั่งได้บ้าง แต่ เริ่มนั่งได้ในกระโถนได้ ( อุ้มให้นั่ง จับตัวไว้ เพราะ ข้างขวาพ่อไม่มีแรง และ ไม่สามารถขยับได้ ขยับได้คือ ซีกซ้ายทั้งหมด )  แม่กับพี่ชายก็คอยช่วยอยู่ด้วย  เราไม่ทอดทิ้งพ่อ เพราะพ่อไม่ทอดทิ้งปู่ นี่คงเป็นผลบุญอย่างแรกที่ข้าพเจ้านึกได้ ทำทุกอย่าง หมอไหนดี ทั้งไสยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ แต่สิ่งที่เราไม่ไปทำคือทำบุญ  เงินอีกเป็นแสนก็ละลายไปเรือยๆ หมอนั่นสองหมื่น หมอนี่ สี่พัน ยาอะไรก็ซื้อกิน กายภาพบำบัดทุกอย่างทำหมด แล้วก็ให้ความหวังพ่อว่า เดินได้แน่ รอสองสามปี พอสมองซ่อมแซมได้พ่อก็จะเดินได้ ซึ่งไม่มีทาง หมอก็บอก โอกาสน้อยมากก แต่เราก็หวังลมๆแล้งๆน่ะ
หลังจากพ่อป่วยทุกอย่างเลวร้ายลง ปีที่ 2 – พ่ออาการอยู่ตัว ข้าพเจ้าก็ไปหางานทำ ยอมรับว่าไฟแรง เรียนจบอยากทำงาน อยากเลี้ยงตัวเองได้ ก็ทำงาน ได้ประมาณ 7 เดือน ข้าพเจ้าเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่รุนแรง แม่ข้าพเจ้าให้ข้าพเจ้ากลับมาดูแลพ่อ เพราะทำงานก็เงินไม่เหลือ ข้าพเจ้าเห็นด้วย ก็เลยกลับมา  แบบไม่คิดอะไร  หลังจากนั้น ก็เฝ้าพ่อข้าพเจ้า อีก 8 เดือน ข้าพเจ้าเสียดายความรู้ก็เลยไปสมัครงานอีก ทำแถวๆบ้าน ก็จะได้กลับบ้านทุกอาทิตย์  หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ทำงานที่ดีขั้น เงินเดือนมากขึ้น
ทุกครั้งได้ตังส์มา ก็เอาไปซื้อของกิน ใช้ส่วนตัว และก็ของกินกลับไปให้พ่อบ้าง แต่ก็น้อยครั้ง ก็ตังส์ข้าพเจ้า น้อยกว่าของพ่อ (นี่ก็ผิดอีก ที่จริงเรียนจบแล้วควรจะให้พ่อแม่สิ  ข้าพเจ้าให้แต่ไม่ทุกเดือน คือทำดีบางเดือนเท่านั้น เดือนไหนไม่พอก็ขอคืนอีก ชีวติของข้าพเจ้าจึงเดี๋ยวดี เดี๋ยวทรุด)
หลังจากนั้นแม่ข้าพเจ้าอยากให้มีครอบครัว ก็คบกันแบบแกนๆ ไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าถ้าไม่มีเงิน แล้วเป็นยังงัย ข้าพเจ้าไม่เคยเจอ  ผู้ชายเลวๆเป็นยังงัย ก็ไม่เคยเจอ พี่ชายข้าพเจ้าก็เป็นคนดีเหมือนกัน ก็ทำให้การตัดสินใจของข้าพเจ้าขาดการยั้งคิด คบกันสองปีก็แต่งงาน  จบลงได้ภายในสามเดือน ทุกอย่างมันตรงกันข้ามหมด สารพัดสิ่งชั่วร้ายมีในคนๆเดียว ทำไมข้าพเจ้าไม่รู้  เพราะเชื่อใจ ว่าสิ่งที่เค้าบอกข้าพเจ้าคือเรื่องจริง เหมือนพ่อข้าพเจ้าให้แม่  การพนัน  ยาเสพติด และ ผู้หญิง ครบ  ทั้งที่ข้าพเจ้าไม่เคยหลอกใครเลยซักครั้งเดียว  คงเป็นกรรมชาติที่แล้ว
ทุกอย่างในชีวิตพังทลาย งานที่ข้าพเจ้าทำ ด้วยความที่เค้าขี้หึง ทำให้ข้าพเจ้าไม่อยากทะเลาะและไม่มีกำลังใจในการทำงาน อีกทั้งการเงินก็ไม่ได้ลำบาก  เค้าก็มีงานที่คิดว่าเลี้ยงเราได้ ( คิดเอาเองทั้งนั้น)  แล้วก็จบอย่างเลวร้ายพอสมควร
กรรมอะไรไม่รู้ ช่วงนั้นข้าพเจ้าก็มาสูญเสียพ่ออีก แบบไม่มีวันกลับ เสียใจ แค้นใจ เจ็บใจ อยากแก้แค้นที่ทำให้ชีวิตข้าพเจ้าล้มเหลว แล้วก็สาปแช่งมันทุกวัน
เป็นตามนั้นเสียด้วย หลังจากนั้นชีวิตมันก็แย่ลงๆ  ดี สมน้ำหน้า
ข้าพเจ้าเริ่มต้นงานใหม่เป็นธุรกิจเล็กๆ ก็พอไปได้ แต่ก็เพราะความใจร้อนเอาแต่ใจ ทำอะไรไม่ยั้งคิด หลายครั้งที่ข้าพเจ้าจะเถียงแม่ และ ว่าแม่ ถึงทำให้ข้าพเจ้าต้องเป็นอย่างนี้  แม่ข้าพเจ้าก็เสียใจ ข้าพเจ้าก็เสียใจเหมือนกัน .... สาปแช่งเขาไว้ และกรรมก็มาถึงตัวข้าพเจ้าเหมือนกัน
   ไม่ใช่แค่นั้น เงินที่มีก็เริ่มหมดไปกับลูกชายคนสุดท้อง คือน้องข้าพเจ้า ซึ่งเกิดมาพร้อมความสบาย ได้ขับรถยนต์ตั้งแต่เรียนม.ปลาย และ ถลุงเงินหมดไปเรื่อยๆ แต่ก็พอที่จะหาใหม่ได้ ไม่ลำบาก 
   จนปีที่แล้ว ทุกอย่างเลวร้ายลง น้องข้าพเจ้าเล่นการพนัน ติดหนี้นับล้านบาท เงินเก็บ และ ทรัพย์สินบางส่วนก็ต้องขาย น้องชายข้าพเจ้าเรียนไม่จบ และยังคงสร้างหนี้ ณ ปัจจุบัน  ที่ดิน รถยนต์ และ อื่นๆ ก็สูญไปโดยเปล่าประโยชน์
   ข้าพเจ้าเริ่มเข้าวัด ณ ปีที่แล้ว 2551 แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก เริ่มเห็นสัจะธรรมในช่วงหลังวันเกิดของข้าพเจ้าเมื่อปี 2552 –ข้าพเจ้าก็เริ่มศึกษาธรรมมะ และ ก็ปล่อยวาง ไม่งั้น ได้ฆ่าตัวตาย หรือบ้าแน่ๆ  และฝันเป็นนิมิตหลายอย่าง ทั้งหวย และ วิญญาณ
รวมถึงเสียงเรียกบ้างบางครั้ง
   ข้าพเจ้าเข้าใจแล้วว่าทำไมวิบากกรรมที่ข้าพเจ้าเป็นอยู่ณ ขณะนี้เพราะอะไร
สิ่งที่ข้าพเจ้ารู้คือ กรรมใหม่ ชาติปัจจุบัน แต่กรรมเก่าข้าพเจ้าไม่รู้ได้ แต่ก็พยายามขอขมากรรม สวดมนต์ สมาธิ ถือศีล กินเจ
   แต่ก็ยังเลวร้ายอยู่ดี  ข้าพเจ้าเหนื่อยเหลือเกิน แต่ไม่ฆ่าตัวตายแล้ว เพราะข้าพเจ้าไม่อยากเกิดมาฆ่าตัวตายอีก 500 ชาติ 
ทุกสิ่งเป็นไปตามกรรม 
อยากเตือนทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้  ณปัจจุบันข้าพเจ้าก็ยังทำดีอยู่ แต่ก็ยังไม่หมดหนี้เวรกรรมเสียที  โปรดอย่าประมาทในกรรมที่อาจตามทันได้ทุกเวลา
ณ ตอนที่ข้าพเจ้ามีเงินใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่ไม่เคยคิดแบ่งไปทำบุญ
ครอบครัวของข้าพเจ้าก็ไม่ชอบทำบุญ นอกเหนือจากเทศกาลเหมือนกัน
ใจเราแคบทั้งครอบครัว ทางเดินเราจึงแคบลงๆ 
ตอนนี้หนักมาก ไม่มีทางไหนช่วยได้เลย นอกจากยอมรับกรรมที่ทำ ทั้งตั้งใจ และ ไม่ตั้งใจ ไม่ว่าภพใด ก็ส่งผลมาจนได้ และ อาจไม่มีโอกาสกลับตัวก็ได้
อย่ารอให้ถึงคำว่า ไม่มี ไม่พร้อม เลย ทำไปเรื่อยๆ อย่าทำตอนลำบากเหมือนข้าพเจ้า และ อย่าทำเมื่อไม่มีใครให้พึ่งพาอาศัยได้เถิด อย่างน้อย ข้าพเจ้าและครอบครัวคงเป็นแง่คิดได้บ้างในการลบหนี้กรรม ภพก่อนๆ   ถึงเราจะเป็นคนดีขนาดไหนในภพนี้ แต่ก็ต้องพบกับผลกรรมที่ทำไว้อยู่ดี   
ทำไมทำดี ถึงไม่ได้ดี ....นี่แหละ คือข้าพเจ้า เพราะ กรรมเก่าตามทัน เมื่อบุญที่มีหมด มันก็ทำเราแทบตาย 
ศีล ทาน สมาธิ ก็ยังทำอยู่ ก็หวังซักวันนึงกรรมก็คงน้อยลง เมื่อชีวิตดีขึ้นจะไม่ทำตัวไร้ประโยชน์อีกแล้ว  อยากขอกำลังใจจากทุกคนด้วย ไม่รู้จะสู้ต่อไปยังงัย
เหนื่อย ท้อแท้ สุดๆ เลย
                        อย่าเป็นเหมือนข้าพเจ้าเลย                 
บันทึกการเข้า
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 09:14:28 AM »

ดีมากๆแล้ว ที่ท่านคิดได้ ไม่ฆ่าตัวตาย หลังจากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ
เพราะเรายังมีร่างกายที่สามารถทำกรรมดี ได้ และขออนุโมทนาบุญด้วย  ที่ท่านสนใจเข้ามาปฏิบัติธรรม ทำทาน ถือศีล ภาวนา
เราคงหนีผลวิบากที่เคยทำไว้แล้วไม่ได้ แต่เราสามารถเจือจางวิบาก (ผลของการกรรม)ได้ จากการที่เราได้ทำกรรมใหม่ (กรรมดี) ที่ท่านทำไว้ ก็จะค่อยๆส่งผลไม่มากก็น้อย

"อย่างน้อย ณ ตอนนี้เราก็ได้ เริ่มหย่อนหินลงแม่น้ำแล้ว เมื่อเราหย่อนลงเรื่อยๆ ก็จะเริ่มมีทางเดินข้ามแม่น้ำเหล่านั้น ไปได้ โดยที่เราไม่จม"

อยากบอกท่านไว้ว่า ขอให้ลองปฏิบัติภาวนาบูชาถวายแก่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งตอนนี้ท่านก็ทำทาน ถือศีล นั่งสมาธิ อยู่แล้วลองเพิ่ม การเจริญสติภาวนาตามหลักของมหาสติปัฏฐาน 4 ดูด้วยน่ะครับเพราะถ้าปฏิบัติถูกหลัก จิตใจ ก็จะเริ่มมีความรู้ว่าขันธ์ 5 อันเกิดจาก รูป นาม นี้เป็นตัวทุกข์
แล้วก็จะเริ่มละวาง ขันธ์5 ได้มากขึ้น ตามลำดับ เมื่อละว่า ขันธ์ 5 เป็นของเราได้ แล้วใครละจะเป็นคนโกธร แล้วใครละจะเป็นคนเกลียด แล้วใครละจะอยากพ้นทุกข์ ทุกอย่างล้วนถูกปรุงแต่งขึ้นมา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วล้วนดับไป เป็นธรรมดา ขอฝากอีกนิดนะครับก็ดูแลคนที่มีพระคุณของเราให้ดีๆ ด้วยน่ะครับ เพราะเมื่อวันไหนที่ต้องจากกันจริงๆ จะได้ไม่นั่งเสียใจทีหลังนะครับผม

สุดท้ายนี้ ทางเว็บก็ขอเป็นกำลังใจให้ท่านอีกทางหนึ่งนะครับ ยินดีด้วยที่สนใจในการปฏิบัติธรรม ถือศีล นั่งสมาธิ อย่างไรก็ตามขอให้ท่านผ่านพ้นช่วงชีวิตที่เจออุปสรรคอย่างนี้ ไปได้ด้วยดีน่ะครับ บุญรักษาครับ สาธุ

 ยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 12, 2010, 01:52:06 PM โดย golfreeze » บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
the suffering
Global Moderator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 9
กระทู้: 859


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 08:17:31 PM »

เกิดมาเป้นทุกข์อย่างยิ่ง

ทุกข์ กาย และทุกข์ใจ

เวรย่อมไม่ละงับด้วยการจองเวร

แต่ที่เราเกิดมา เพราะต้องใช้หนี้ เจ้ากรรมนายเวรของเรา

ไม่ว่าความทุกข์จะเกิดเพราะ

1.กรรมเก่า ของเรา

หรือ 2.เป็นกรรมที่มีผู้กระทำต่อเรา

ก็ขอให้จบลงที่ เรา ให้อภ้ยทาน  ทั้งต่อตัวเรา และผู้ที่สร้างกรรมให้เรา


การแก้ไข ทุกข์ อย่างที่ท่านเลือก เป็นทางเดินที่ประเสริฐ  ที่สุดแล้ว


อย่าลืมอุทิศส่วนกุศล ให้สรรพสัตว์ ทั้งก่อนและหลัง ปฏิบัติธรรม


โชคดี ที่เราได้เกิดมาเป็น คน มีอาการครบ32  และยังได้อยู่  ในยุคที่พระธรรมของพระพุทธเจ้า ยังคงอยู่

ใช้การปฏิบัติธรรม  เพื่อบรรเทา กำลังของอกุศลกรรม  ให้ได้-- ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
beautifulchic13
สมาชิกใหม่
*

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 0
กระทู้: 9


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2013, 12:06:13 AM »

ขอบคุณที่มาถ่ายทอดเรื่องราว ประสบการณ์ชีวิต
ไว้เป็นอุทาหรณ์ของใครหลายๆคน
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: