KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆตามประสาชาวกรรมฐานคุยกันสบายๆ ตามประสาชาวกรรมฐาน.คอมคุยกันสบาย...สบายครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 30
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกันสบาย...สบายครับ  (อ่าน 550609 ครั้ง)
the suffering
Global Moderator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 9
กระทู้: 859


ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 08:48:52 PM »

แล้วนี่
คุยกันแค่ 2 ท่านเท่านั้นหรือ

ไม่เร้าใจเลยไม่มีใครมาร่วมวง

เอาเป็นว่าโลกของกิเลสนี้ ต้อง ถูกต่อต้านชัดเจนถึงจะมีกำลังแรงขึ้นเนอะ

เรื่องสบาย ๆ มันเกรงใจ 5 5  5 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 11:31:25 PM »

บางครั้งการคุยกันกับใครก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเร้าใจเสมอไปนักหรอกนะครับผมว่า...

แล้วเรื่องที่เร้าใจส่วนใหญ่นั้นก็มักจะเป็นข้อถกเถียงและข้อขัดแย้งซะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ไม่ยกเว้นแม้เรื่องเกี่ยวกับศาสนา

ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะนำมาถกและวิเคราะห์กันเอาตามความเข้าใจของแต่ละคน ถึงแม้จะอ่านเอาจากหนังสือ คัมภีร์ พระไตรปิฎกเล่มเดียวกัน

ก็อาจจะตีความไม่เหมือนกัน เมื่อตีความไม่เหมือนกัน จึงต้องมาถกกันคุยกัน ถ้านำเสนอในเหตุผล แล้วน่าจะเห็นถูกต้องตรงกันก็จบ แต่ถ้าเห็นไม่ตรงกันก็ขัดกัน...แล้วเมื่อไม่มีผู้อยู่ให้ตัดสินแล้วว่าใครถูก ใครผิด หรือถูกทั้งหมด หรือ ผิดทั้งหมด เมื่อไม่มีผู้มาให้ความกระจ่างและตัดสินแล้ว...เรื่องไม่มีทางจบหรอกครับ...ผมคิดว่างั้นนะ

เพราะฉะนั้นแล้วผมจะเคารพและให้เกียรติกับทุกความคิด แม้จะเห็นไม่ตรงกันหรือมีมุมมองไม่เหมือนกันก็ตาม

นับประสาอะไร บางทีเราก็ไม่ใส่ใจกับความคิดเหล่านั้น และก็ไม่แปลกแต่อย่างใดที่คนอื่นก็อาจไม่ใส่ใจกับความคิดเห็นของเราเช่นกัน

เมื่อเห็นเป็นอย่างนี้ก็แล้วแต่ทางใคร...แต่อย่าลืมแก่นมันแล้วกัน...นอกนั้นตามสบายอย่าไปซีเรียสกับรายละเอียดมากนักจนขยับตัว ขยับคิดไปไหนไม่ได้เลย...เพราะกลัวผิด

ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

เกิดมาในแผ่นดิน ถ้าไม่แทนคุณ ๓ สิ่งนี้ ผมบอกได้เลยว่าเสียชาติเกิด

แล้วถ้าใครคิดทำลาย...ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  ผู้นั้นก็มีอเวจีมหานรกเป็นที่ไปอยู่แล้ว


ตามนิสัยคนไทย ไม่ชอบวิจารณ์ แต่ชอบพูดถึงเรื่องคนอื่น รักความสบาย แต่ไม่มีระเบียบวินัย ขี้เกรงใจ แต่ไม่ชอบให้ใครได้ดีกว่าตนเอง โดยเฉพาะการหลงไหลไปกับอำนาจและความมักใหญ่ไฝ่สูงเกินตัว
เอ...ผมพูดตรงเกินไปหรือเปล่านี่

ประสบการณ์ในทางธรรมหรือเอาแก่นจริงๆของพุทธศาสนานั้น น้อยคนที่จะเข้าได้ถึงแก่นจริงๆ อย่างเก่งก็ทำๆตามกันมาเช่น เข้าวัดทำบุญ ตักบาตร ทำสังฆทาน เอาเงินหยอดตู้ ใส่ซอง กฐิน ผ้าป่า ไปตามจังหวะและโอกาสจะอำนวย

และเมื่อมีน้อย...คงไม่ค่อยจะมีใครลงมาพูดคุยในเรื่องลึกซึ้งในทางธรรมเท่าไหร่...อีกอย่างคนไทยกลัวหน้าแตก เสียฟอร์ม กลัวว่าตนเองไม่รู้หรือไม่เข้าใจ กลัวใครเขาจะหาว่าโง่...คนส่วนใหญ่จึง...นิ่งไว้

แต่สำหรับผมก็พยายามจะเป็นกลางๆคุยๆไป เอาแบบไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป จริงบ้าง ฝันๆไปบ้าง เอาพอมีเรื่องคุย แต่อาจจะมีสาระบ้าง สำหรับใครบางคนแค่นั้นก็พอแล้วครับ แล้วผมก็ไม่ได้ลึกซึ้งหรือเข้าถึงแก่นนักหรอกครับ เรื่องผิดศีลนี่ก็ยังคงมีอยู่บ้าง...ผมถึงบอกไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนผมหรอกครับ...เพราะผมก็เป็นแค่คนธรรมด๊า...ธรรมดา คนนึงเท่านั้นเองครับ

 ยิ้ม  ยิ้มเท่ห์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2011, 01:04:19 AM โดย AVATAR » บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
the suffering
Global Moderator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 9
กระทู้: 859


ดูรายละเอียด
« ตอบ #32 เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 11:47:43 PM »

เคยมีประสบการณ์ ผีอำ บ้างหรือเปล่า

มันไม่ค่อยเข้าท่าเลย นะ

โดนครั้งแรก ไม่รู้เรื่องดิ้นตูมตาม(ผีไทย)..มันหลายปีมาแล้ว

   พอรู้ประสาขึ้นมาหน่อย แต่ยังขี้เกีจจ แผ่เมตตาแค่บทย่อ จึงยังโดนอีกเป็นครั้งที่ 2 (ผีประเทศจีน)

ทีนี้ก็เลยขยันแผ่เมตตตา ด้วยบทเต็ม(บาลี)...ง่ะ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 12:14:18 AM »

เคยครับ ตอนเป็นเด็ก แค่จะลุกแต่ ลุกไม่ขึ้นครับ พยายามจะลุก แต่เหมือนโดนอะไรมากดไว้ทำให้ลุกไม่ขึ้น  สักครู่ก็...ตื่นครับ ก็เลยงงๆว่า เมื่อกี้มันทำไมลุกไม่ขึ้นฟะ ไม่ทราบว่าเรียกผีอำหรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 12:16:45 AM »

เมื่อกี้ ช่องไทยทีวี รายการ พื้นที่ชีวิต ได้ไปสัมภาษณ์ ท่านอาจารย์ เฉลิมชัย  โฆษิตพิพัฒน์

ท่านเปิดตัวด้วยคำพูดว่า " ผมเป็นคนมีธรรม ที่ผมเป็นคนมีธรรมนี้ ผมสั่งสมมาแต่อดีต...อดีตชาติ ไม่ใช่มาปุบปับ มีมาได้เลย มันต้องสั่งสมมา"

แล้วท่านก็ว่าเรื่องธรรมให้ฟัง ว่าท่านเกี่ยวเนื่องกับธรรมและศาสนาอย่างไร จนมาเป็นท่านได้ถึงทุกวันนี้

แล้วก็เหน็บๆพวกๆที่ยังหลงไปกับกิเลส ชื่อเสียง เงิน ทอง และ หลงเมามัวอยู่กับวัตถุอยู่ตามสไตล์ท่าน

สุดท้ายแล้วท่านทิ้งท้ายไว้คือ ให้ใช้สติในการแก้ไขปัญหาทุกชนิด เพราะเมื่อมีสติแล้วก็จะมีปัญญา แต่อย่ามาบอกว่าคุณมีสติแล้ว

ของอย่างนี้ไม่ได้มีได้มาง่ายๆต้องฝึก ต้องมีสมาธิ ตั้งสั่งสมมา....หลายชาติ

แล้วท่านก็ปรารถนาจะไปอยู่ที่เป็นนิรันดร์ ตามญาติพี่น้องของท่านที่ไปก่อนแล้ว............
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 12:19:15 AM »

อย่างนี้แหละครับ คนมีบุญมากใครๆก็มาขอ มันได้บุญมากและเค้ารับได้มั้งครับ.... ยิ้มเท่ห์
 
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
the suffering
Global Moderator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 9
กระทู้: 859


ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 02:11:58 PM »

ก็ ..คงพอจะมี,,ละมั้ง

เพราะเหมือนเรามีตังค์ เขาจะขอดีๆ เราไม่ให้หรือให้นัอย..ก็โดนขอแรงหน่อย ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 02:50:39 PM »

มีแน่นอนครับ...แต่จะเท่าไหร่นั้นมิอาจทราบได้  ยิ้ม

เรื่องของการบริจาคโลหิตนี้พักหลังนี้ก็พยายามจะบริจาคทุก ๔ เดือนครับ ซึ่งก็แล้วแต่เราสะดวกบางทีพวกเค้ามารับบริจาควันนี้ แต่บังเอิญเรามีธุระที่อื่นหรือไม่ได้ไปทำงาน ก็ไม่ได้ไปบริจาค

ผมบริจาคตั้งแต่ครั้งเป็นทหารแล้ว และก็บริจาคมาเรื่อยๆตามโอกาส...ไม่เคยเก็บบัตรครั้งแรกซักที ไปเห็นเค้าบริจาคก็บริจาคเลยตามจังหวะนั้น พยาบาลถามก็บอกว่าบริจาคหลายครั้งแล้วไม่มีปัญหาหรอกครับ เธอก็บอกออกบัตรให้ใหม่เก็บไว้ไปรวมกับอันเก่าได้ค่ะ ผมก็เก็บๆไปไม่เคยเอามารวมกันซักที หายมั่งอะไรมั่ง...เป็นสิบๆครั้งแล้วมั้งผมก็จำไม่ได้ เพิ่งมีพักหลังนี้เป็นกิจจะลักษณะหน่อย รวมแล้วได้ ๔ ครั้ง ครั้งหลังสุดนี่ก็ ๒ ก.ค. ๒๕๕๓ นี่แหละครับ

ถึงจะเริ่มนับใหม่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายนัก  แค่ว่ามีบัตรมันไม่ต้องมานั่งสอบประวัติ กรอกประวัติใหม่อีกให้มันเสียเวลา มีบัตรมันก็เร็วดีครับ
บริจาคก็ไม่ได้จะหวังทำลายสถิติ หรือ จ้องจะรับเหรียญรับเข็มอะไร (แต่สำหรับผมถ้าได้ก็คงไม่ไปรับอยู่ดี...ไม่ใช่ไม่ให้เกียรติอะไร แต่ผมว่ามันไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับผม) เพราะจุดประสงค์ในการบริจาคโลหิต ก็เพื่อต่อชีวิตของเพื่อนมนุษย์ใครก็ได้ ไม่จำกัดว่าคนไหน ชาติไหน ศาสนาอะไร แค่นี้เท่านั้นแหละครับแล้วผมก็ไม่ได้หวังอะไรหรือให้ใครต้องมาตอบแทน...เลือดนี้สำคัญนักในยามวิกฤติ ชี้เป็นชี้ตายคนได้ทันทีในยามนั้น...ผมเคยเป็นทหารมาก่อนผมเข้าใจดีมันมีคุณค่ามาก...

แต่ครั้งที่จำได้แม่นเลย ตอนไปบริจาคโลหิต ระหว่างที่บวชอยู่.
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 03:33:02 PM »

เราจะอยู่ตรงกลางผ่อนแบบสบายนั้น เราต้องรู้จัก"หนักที่สุดและเบาที่สุด"ก่อนนะครับ
เราถึงจะรู้จักตรงกลาง ไม่งั้นเราเจอแต่บทโหดอย่างเดียว มันก็ตึงไป จนธาตุแตกดับได้
หรือเราเอาแต่รักสบายอย่างเดียว มันก็หาสาระแก่นสารอันมีคุณค่าไม่ได้

ดังนั้นแล้วผมคิดว่าเราจะต้องเจอและผ่านทั้งสองรูปแบบมาก่อน เราจึงจะรู้ว่าอันไหนตึงไป หย่อนไป
และกลางๆนั้น(สายกลาง)จริงๆแล้วสำหรับเรามันอยู่ตรงไหน...?

ตอนผมบวชลองอดอาหาร ๗ วัน ฉันท์แต่น้ำอย่างเดียว.....มันโคตรเลยครับ...

"อดอาหารเอาเจ็ดวัน"ทราบดีว่าไม่ใช่ทางดำเนินที่ถูกต้องอยู่แล้ว แต่ก็อยากจะลองดูแค่ว่าตนเองมีความเพียรพยายาม มานะ และถือสัจจะได้หรือไม่...

ความจริงแล้วไม่มีประโยชน์ในเรื่องมรรคผลนั้นก็ใช่อยู่ แต่ผลที่ทำนั้น(อดอาหาร)ก็ไม่ได้เสียเปล่าไปเสียทีเดียวแต่ประการใด

ยังทำให้เราเกิดปัญญาอีกอันมากมาย ในการฟาดฟันกับกิเลสที่ถาโถมรุกกระหน่ำเราอย่างไม่ลดละได้เป็นอย่างดี ถ้าเราใช้ปัญญาและตั้งมั่นอย่างสูง

เมื่ออยู่คนเดียวเจ็ดวัน ร่างกายลำบากท่าน"คิด"ถึงสิ่งใดบ้าง ท่าน"อยาก"จะทำอะไรบ้าง กิเลสตัวไหนเด็กๆ(ไม่ละเอียด)เล่นท่านไม่ได้แน่
แล้วท่านก็จะรู้จักกิเลสตัวเป้งๆ(ละเอียด)มีอุบายในการยั่วยุท่านอย่างไร

๗ วัน ๗ คืน พิจารณาร่างกายไป,กิเลสไป..วนไปวนมาซ้ำไปซ้ำมา ก็พอจะได้ปัญญาฟาดฟันกันได้บ้าง ก็คงแค่นั้นที่ผมต้องการ...

...แสบกว่านั้นอีกนิดครับ ผมไปบริจาคโลหิต ในวันที่ ๒ ที่อดอาหาร...และเมื่อผมกลับมาที่โบสถ์ผมก็ได้รู้จักกับการ"เป็นลม" เป็นครั้งแรกในชีวิต...

แต่ก่อนผมก็ว่าคนที่ เป็นลมนี่สำออย...อยู่ๆก็ทิ้งตัวลงนอน เพราะคิดว่าตัวเองร่างกายแข็งแรงเป็นทั้งนักกีฬาที่เก่งกาจ เป็นทหารก็โดนทรมาน โหดๆต่างๆนานา ไม่เห็นมันจะเป็นลมหรือเครื่องน็อกกลางครัน พอตัวเองเป็นบ้างจึงเข้าใจ ว่าเออโลกมันหมุนเราตัวเรานี้เคว้งคว้างหาหัวหาเท้าไม่ได้ ไม่รู้ลอยอยู่ทิศไหน หน้ามืดชั่วขณะ  อุ อิ แต่ตอนนั้นผมไม่ล้มหรอกครับ สติผมครั้งสุดท้าย มือซ้ายผมไปเกาะขอบหน้าต่างโบสถ์ไว้ เลยไม่ร่วง ไม่งั้นคงล้มตึงไปเหมือนกัน...

เรื่องมันจึงเกี่ยวกับการ บริจาคโลหิต ด้วยประการฉะนี้เองครับ
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #39 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 03:59:43 PM »

ผมว่า ว่างๆ เราจัดทริปไป ทำบุญร่วมกันดีป่ะครับ ฮ่าๆๆ

ตอนแรกๆ ที่ทำเว็บผมก็คุยอยู่คนเดียว ฮ่าๆๆ

ช่วงหลังๆ มีท่าน AVATAR กับ ผู้เล็งเห็นทุกข์ เข้ามาเติมสีสันเพิ่มขึ้น แล้วก็ท่าน pornsak ด้วย อิอิ

ยังไงช่วยเกื้อกูล ซึ่งกันและกัน เน๊อะครับ

จะได้เดินทางในเส้นทางธรรมไปด้วยกันตลอด จนกว่าจะเข้าสู่เส้นทางแห่งสันติสุขชั่วนิรันดร์ สาธุ ครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #40 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 04:12:19 PM »

ของผมตอนนี้คงยากหน่อยครับ ทั้งวิบาก(งาน)และ ห่วง(ลูก,ภรรยา)

จะหาโอกาสเหมาะๆไปกราบหลวงปู่วัดที่ผมบวช ปีนี้ยังไม่ได้ไปซักหนเลยครับ

ชีวิตคนก็วุ่นวายและเป็นทุกข์อย่างนี้แหละครับ... ยิ้ม
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 04:37:29 PM »

อ้อ...อีกอย่าง ช่วงนี้ฤดูกาลแข่งบอลภายในสนามบิน คงจบเกือบปีใหม่พอดี

ผมต้องนำทัพน้องๆเข้าแข่งอีกตามเคย...ก็เหนื่อยครับเป็นทั้งผู้เล่น ทั้งโค้ช ผู้จัดการทีม แถมต้องหาสปอนเซอร์ให้อีก

ก็ทำๆไป พยายามจะสอดแทรกทั้งเรื่องกีฬา และเรื่องธรรมเล็กๆน้อยเอาไว้ใช้ในเกมส์กีฬาและเกมส์ชีวิต

กำลังหาตัวแทนอยู่...กำลังจะขึ้น เมื่อเห็นว่าอยู่ได้ดีกันแล้ว...ผมคงวางมือ...เพราะผมทำทีมจากที่แตกออกไป และบางคนมีทิฏฐิไม่มาเล่นด้วย
ผมต้องจับมารวมกันใหม่ ทำจนพวกเค้าได้แชมป์ไปแล้ว(ถ้วยพระราชทานด้วยนะครับนั่น)...ความสามัคคีนี้ก็สำคัญมาก ถึงจะเก่งแต่ไม่สามัคคีกันก็พังครับ ไปไม่ถึงไหนหรอก

และนักกีฬาก็ไม่ใช่จะคิดว่าตัวเองเก่งอย่างเดียวไม่ฟังใคร ไม่ฟังโค้ช...ต้องขยันและมีระเบียบวินัย มีความเคารพซึ่งกันและกันด้วย

คล้ายๆกับการปฏิบัติธรรมนั่นแหละครับ
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #42 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 07:28:37 PM »

อย่างนี้ ต้องจัดมาเจอกันสัก match บ้างนะครับพี่ AVATAR อิอิ

บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 12:10:13 AM »

ก็ไม่เลวเหมือนกันนะครับ...ฟุตซอลก็ดีครับคนน้อย แต่ต้องไปเช่าสนามเค้าอีกเปลืองเงินอีก  ยิ้ม   ยิ้มเท่ห์ 

เมื่อก่อนก็ใช้แมทช์การกุศลแบบนี้แหละครับเอาพวกเราที่พอเตะได้แข่งเตะบอลกับอาจารย์นักเรียน
แล้วก็บริจาคสิ่งของให้โรงเรียน ก็ยังมีทำอยู่ครับ แต่ผมย้ายมาอีกหน่วยเลยไม่ค่อยมีเวลาไปร่วมลุยด้วยแล้วครับ...



 
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
the suffering
Global Moderator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 9
กระทู้: 859


ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 02:55:21 AM »

ดึกแล้ว แต่ไฉน เน็ทจึงอืดเหลือเกิน

รู้ว่า...มีปฏิคะซะแล้ว


เรียนท่าน อวตาร กะ กอลฟรีซ ว่า ไม่มีอะไรที่เป็นการออกกำลังกายดีกว่าการเดินนจงกรม การเล่นกีฬา ทำให้เหนื่อย เพลียและต้องพักด้วยการนอนชดเชย แบบขาดสติยาวนานกว่าปกติ

โมทนาบุญ ด้วย

ในชีวิตนี้ไม่เคยบริจาคเลือด เคยแต่เสียเลือดแลกชีวิตคน...

และ ตอนนี้ ขบวนการ ป่วน โลก ยังไม่หยุด ขอให้ช่วยกันปฏิบัติธรรมมากๆ ค้ำจุนโลก ให้มีสภาวะราบเรียบสักหน่อยก้ยังดี

**เห็นหน้าในหลวงแล้ว ไม่อยากพูดเลยว่า  ...

เหมือนตอนที่พ่อ(ทหารที่รบมาหลายสนาม เกาหลี เวียตนาม ลาว..)ใกล้ละสังขาร

และสถานการณ์บ้านเมืองก็หมิ่นเหม่ เหลือเกิน

เชื้อชั่ว ไม่เคยตาย และมันเป็นสมบัติของโลก ไม่เว้นที่แม้แต่ในเรา **เวลาเหลือน้อยแล้ว ประมาณ 2 ปี ..ยังร่าเริงอยู่ เพราะเข้าใจ ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 30
พิมพ์
กระโดดไป: