KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิถ้าคุณเข้าใจเรื่องนี้ คุณก็เข้าใจเรื่องบุญบาปและศีล 5 อย่างกระจ่างแล้ว
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าคุณเข้าใจเรื่องนี้ คุณก็เข้าใจเรื่องบุญบาปและศีล 5 อย่างกระจ่างแล้ว  (อ่าน 11228 ครั้ง)
phonsakw
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 1
**

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 2
กระทู้: 94


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 11:45:45 AM »

จิตเป็นผู้กำหนดบาปบุญ  กายและวาจาไม่ได้กำหนดบาปบุญ

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว"

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่
มีใจเป็นประธาน ธรรมทั้งหลายสำเร็จได้ด้วยใจ"


ถ้ามีใจชั่วเสียแล้ว  จะ พูด หรือ ทำ ประการใดก็ตาม  ทุกข์ย่อมติดตามเขาไป  ดุจล้อหมุนตามรอยเท้าโค ที่ลากเกวียนไป

แต่ถ้ามีใจดีอยู่ จะพูด หรือ ทำ ประการใดก็ตาม  สุขย่อมติดตามเขาไปเหมือนเงาตามตัว

พระพุทธเจ้าบัญญัติว่่า การผิดศีล 5 เป็นบาป  เพราะ 95% ของการผิดศีล 5 จิตเป็นอกุศลในตอนที่พูดหรือทำสิ่งนั้น  มันจึงเป็นบาป

แต่ถ้าจิตเป็นกุศลตอนที่ผิดศีล 5 ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือทำสิ่งนั้นก็ตาม  การผิดศีล 5 ก็จะกลับกลายเป็นบุญแทน
 
สรุป

พระเวสสันดรยกเมียและลูกให้เป็นทาสคนอื่นเป็นบาปทางวาจา และการกระทำชัดๆ   แต่พระพุทธเจ้าบัญญัติว่่าเป็นมหากุศล  เพราะตอนที่พระเวสสันดรยกเมียและลูกให้เป็นทาสคนอื่น  จิตคิดว่า ยอมเสียสละสิ่งที่ตนเองรักที่สุดให้คนอื่น  เพื่อจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า  จะได้ช่วยมนุษย์และสรรพจิตในสังสารวัฏฏ์ให้รู้วิธีหลุดพ้นออกจากความทุกข์ได้

ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องจิตเป็นผู้กำหนดว่า อะไรเป็นบุญ  เป็นบาป  ไม่ใช่กายและวาจาเป็นกำหนดบุญบาป  เราก็ไม่มีวันเข้าใจพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง
บันทึกการเข้า
phonsakw
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 1
**

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 2
กระทู้: 94


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 11:46:52 AM »

บททดสอบความเข้าใจเรื่องบาปบุญ

ดูก่อนสารีบุตร พระรามโพธิสัตว์เจ้าได้บำเพ็ญกองบารมีทั้งหลายมาช้านานเป็นอันมากแล้ว แต่กองบารมีธรรมครั้งหนึ่งนั้น ปรากฏเป็นยอดปรมัตถบารมีอันประเสริฐ

.....ในเมื่อครั้งพระศาสนาพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระรามองค์นี้เป็นบรมโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ มีนามว่านารทมาณพ

วันหนึ่งนารทมาณพได้ทัศนาการเห็นองค์พระพุทธกัสสปสัพพัญญูบรมครูเจ้าครั้งนั้น ก็มีความโสมนัสยินดีปรีดา คิดว่าจะกระทำสักการบูชาแก่พระองค์ให้เห็นศรัทธาของอาตมา มิได้คิดแก่ชีวิตอินทรีย์ คิดแล้วจึงเอาผ้า ๒ ผืนชุบน้ำมัน พันสรีรกายตั้งแต่เศียรเกล้าตลอดปลายเท้าทั้ง ๒ แล้วก็จุดไฟขึ้นบนศีรษะเป็นประทีปกระทำสักการบูชา ถวายแก่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า แล้วตั้งปณิธานความปรารถนาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระภาคเป็นอันงาม อันว่าองค์อวัยวะน้อยใหญ่ในสรีรกายของข้าพระพุทธเจ้า คือเลือดเนื้อเป็นอาทิ กระทำเป็นทานถวายแก่พระองค์ในกาลบัดนี้ ปัจจโย โหตุ จงบังเกิดมีเป็นปัจจัย ให้อุปการคุณอุปถัมภกยกชูข้าพระพุทธเจ้าให้ได้สำเร็จแก่พระสร้อยสรรเพชุดาญาณ ในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเถิด

 เหตุใด ครั้งนั้นองค์สมเด็จพระพุทธกัสสปเจ้า จึงตรัสพยากรณ์ในท่ามกลางบริษัททั้ง ๔  ทำนายว่า  นารทมาณพนั้น ในกาลเบื้องหน้า  ตัวของมาณพคนนี้จะได้บังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่าพระรามสัพพัญญูในมัณฑกัปป์อันนั้น

ที่สำคัญคือว่า  องค์สมเด็จพระพุทธกัสสปเจ้า ได้กล่าวสรรเสริญชมว่า จะหามนุษย์ผู้ใดเปรียบเสมอสองหามิได้ นานไปจะได้บังเกิดเป็นสมเด็จพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง

- ด้วยผลอานิสงส์ที่ท่านมิได้เอื้อเฟื้อแก่สรีรกายของท่าน   เสียสละชีวิตของตนทำมหาบริจาค  มีเจตนาอันใหญ่ยิ่งกว่าบารมีทั้งหลายทั้งปวง

สรุปและถาม


เหตุใดการจุดไฟเผาหัวตัวเองของนารทมาณพ เป็นการฆ่าตัวตาย เป็นปาณาติบาตสุดสยองชัดๆ  จึงกลายเป็นมหากุศล มหาบริจาค  อันจะนำไปสู่ความเป็นพระรามะพุทธเจ้า ต่อจากพระศรีอารย์พุทธเจ้า 

ถ้าคุณตอบปัญหานี้ได้  เท่ากับคุณเข้าใจศาสนาพุทธอย่างกระจ่างแล้ว หลุดจากการหลองลวงของมาร
บันทึกการเข้า
magicmo
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 2
***

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 1
กระทู้: 124


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 03:46:23 PM »

ขอบคุณนะครับ
บันทึกการเข้า

เครื่องกรองน้ำชั้นเยี่ยม crane สะอาด ปลอดภัย เหล็กปลอกราคาถูกลวดผูกเหล็ก คุณภาพดี cctv
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: