KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4กำลังใจ จากครูบา อาจารย์ ในการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4การเจริญปัญญา จิตไม่จำเป็นต้องสงบ โดยหลวงพ่อปราโมทย์ สวนสันติธรรม
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: การเจริญปัญญา จิตไม่จำเป็นต้องสงบ โดยหลวงพ่อปราโมทย์ สวนสันติธรรม  (อ่าน 6538 ครั้ง)
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2013, 09:41:12 AM »




หลวงพ่อปราโมทย์ : มีคราวหนึ่งนะ หลวงพ่อไปนั่งคุย นั่งสนทนากับหลวงพ่อพุธ (ฐานิโย) ที่วัดป่าสาละวัน ท่านก็เทศน์โน้นเทศน์นี่ไปแล้วท่านก็บอกว่า จิตของท่านนั้นไม่สงบหรอก จิตของท่านนั้นเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานะ ท่านมีสติรู้ทันไปเรื่อย ท่านก็เล่าเรื่องพวกนี้บอกว่าอย่าไปนิ่งอยู่เฉยๆนะ ให้เห็นความเปลี่ยนแปลงไป ฟุ้งซ่านก็ไม่ต้องกลัวมัน มีใจเป็นคนดูไว้ เห็นจิตมันฟุ้งซ๋านมันปรุงไป นั่นแหละเรียกว่าเจริญปัญญา

เนี่ยท่านเล่ามาถึงตอนนี้นะ หลวงปู่เหรียญ (วรลาโภ) ก็มาเยี่ยมพอดีเลย หลวงปู่เหรียญเข้ามาปุ๊บ หลวงพ่อพุธทีแรกก็นั่งอยู่บนตั่ง ย้ายจากตั่งนะลงมานั่งกับพื้น มีผ้าแบบนี้ปู หลวงปู่เหรียญก็ขึ้นนั่งแทน นี่เขามีซีเนียริตีนะ หลวงปู่เหรียญอาวุโส(พรรษา)กว่า หลวงปู่เหรียญขึ้นไปนั่ง ยิ้มหวาน หลวงปู่เหรียญยิ้มหวานออก ใครเคยเจอท่านบ้าง ไม่เคยเจอเหรอ น่าสงสารจัง

หลวงพ่อพุธก็ชวนคุย หลวงปู่ครับขอโอกาส จิตของผมไม่สงบเลย นี่..เปิดฉากนะ เปิดฉากกับหลวงปู่เหรียญ หลวงปู่ครับ จิตของผมไม่สงบเลย หลวงปู่เหรียญหันขวั่บมามอง อ้าวภาวนาไม่เป็นล่ะสิ ไม่สงบ… พูดกันคนละระดับ

คือพระภาวนานะ ในขั้นของการเดินปัญญาเนี่ย เป็นส่วนหนึ่งนะ ขั้นผลของการเดินปัญญาเนี่ย จิตมันสงบ มีความสุขมีความสงบ คนละขั้น ท่านพูดธรรมะคนละระดับกัน หลวงปู่เหรียญไม่นึกว่าหลวงพ่อพุธกำลังสอนโยมเรื่องการเดินปัญญาอยู่ ก็เลยอุทาน “อ้าว ภาวนาไม่เป็นล่ะสิ”

ดีนะ ครูบาอาจารย์ท่านน่ารัก ท่านไม่เถียง ท่านกราบปลกๆนะ ถ้าประเภทกิเลสหนาแล้วล่ะก็ ลุกขึ้นเถียง(ว่า) ภาวนาเป็นต่างหากล่ะ จิตถึงไม่สงบ ท่านถูกกันทั้งคู่นะ ถูกคนละจุด ช่วงที่เราต่อสู้เนี่ย เราทำความสงบเป็นคราวๆ พอให้จิตมีเรี่ยวมีแรง แล้วเราก็ต้องให้จิตมันเดินปัญญา ออกไปดูกายออกไปดูใจ ช่วงที่ออกไปรู้ความจริงของกายของใจเนี่ย จิตไม่นิ่งหรอก แต่จิตตั้งมั่นเป็นคนดู จิตไม่ได้สงบแต่จิตตั้งมั่น หลวงพ่อพุธท่านจะพูดถึงตัวนี้

แต่เมื่อเราภาวนาจนมันแจ้งในธาตุในขันธ์ มันวางธาตุวางขันธ์นะ เข้าไปสัมผัสพระนิพพาน พระนิพพานเป็นความสงบอย่างยิ่งเลย เพราะฉะนั้นจิตจะเข้าถึงความสุขความสงบอย่างยิ่ง พระนิพพานเป็นบรมสุข พระนิพพานเป็นสันติ สงบอย่างยิ่ง

งั้นธรรมะมีขั้นมีตอนของมันนะ ช่วงนี้อย่าเพิ่งหาความสุข ช่วงนี้ให้รู้ทุกข์ให้มาก จนใจมันแจ้งในความจริงของกายของใจ มันวางกายวางใจแล้ว มันมีความสุขมันมีความสงบที่ไม่มีอะไรเหมือนเลย ความสุขในโลกนะกลายเป็นของหลอกๆ



ขอบพระคุณข้อมูลดีๆ จาก http://www.dhammada.net/2012/10/06/17887/
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: