
อานนท์ สถานที่อันเป็นเหตุให้ระลึกถึงเราก็มีอยู่
ขณะนั้นเอง ความปริวิตกถึงนายจุนทะ
ผู้ถวายสูกรมัทวะก็เกิดขึ้น จึงตรัสกับพระอานนท์ว่า
“อานนท์ เมื่อเรานิพพานแล้ว อาจจะมีผู้กล่าวโทษจุนทะ
ว่าถวายอาหารที่เป็นพิษ จนเป็นเหตุให้เราปรินิพพาน
หรือมิฉะนั้นจุนทะอาจจะเกิดวิปฏิสารเดือดร้อนใจไปเอง
ว่าเพราะเสวยสูกรมัทวะอันตนถวายแล้ว พระตถาคตจึงนิพพาน
ดูก่อนอานนท์ บิณฑบาตทานที่มีอานิสงส์มาก
มีผลไพศาล มีอยู่ ๒ คราวด้วยกัน คือ
เมื่อนางสุชาดาถวายก่อนเราจะตรัสรู้ครั้งหนึ่ง
และอีกครั้งหนึ่งที่จุนทะถวายนี้
ครั้งแรกเสวยอาหารของสุชาดาแล้ว
ตถาคตก็ถึงซึ่งกิเลสนิพพาน คือการดับกิเลสนิพพาน
คือดับขันธ์ อันเป็นวิบากที่ยังเหลืออยู่
ถ้าใครจะพึงตำหนิจุนทะ เธอพึงกล่าวให้เขาเข้าใจตามนี้
แล้วถ้าจุนทะจะถึงเดือดร้อนใจ เธอก็พึงกล่าวปลอบ
ให้เขาคลายวิตกกังวลเรื่องนี้
อาหารของจุนทะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายสำหรับเรา”
ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคเจ้า
มีพระอานนท์เป็นปัจฉาสมณะ
และมีภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่เป็นบริวาร
เสด็จข้ามแม่น้ำหิรัญญวดี ถึงกรุงกุสินารา
เสด็จเข้าสู่สาลวโนทยาน
คืออุทยานซึ่งสะพรึบพรั่งด้วยต้นสาละ
รับสั่งให้พระอานนท์จัดแท่นบรรทม
ระหว่างต้นสาละ ซึ่งมีกิ่งโน้มเข้าหากัน
ให้หันพระเศียรทางทิศอุดร
ครั้งนั้น มีบุคคลเป็นอันมากจากทิศต่างๆ
เดินทางมาเพื่อบูชาพระพุทธสรีระเป็นปัจฉิมกาล
แผ่เป็นปริมณฑลกว้างออกไปสุดสายตา
สมเด็จพระมหาสมณะทรงเห็นเหตุนี้แล้ว
จึงตรัสกับพระอานนท์เป็นเชิงปรารภว่า
“อานนท์ พุทธบริษัททั้งสี่
คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
ทำสักการบูชาเราด้วยเครื่องบูชาสักการะทั้งหลาย
อันเป็นอามิส เช่น ดอกไม้ ธูป เทียนเป็นต้น
หาชื่อว่าบูชาตถาคตด้วยการบูชาอันยิ่งไม่
อานนท์เอยผู้ใดปฏิบัติตามธรรม ปฏิบัติชอบยิ่ง
ปฏิบัติธรรมให้เหมาะสม ผู้นั้นแล ชื่อว่าสักการะบูชาเรา
ด้วยการบูชาอันยอดเยี่ยม
พระอานนท์ทูลว่า
“พระองค์ผู้เจริญ เมื่อก่อนนี้ออกพรรษาแล้ว
ภิกษุทั้งหลายต่างพากันเดินทางมาจากทิศานุทิศ
เพื่อเฝ้าพระองค์ ฟังโอวาทจากพระองค์
บัดนี้พระองค์จะปรินิพพานเสียแล้ว
ภิกษุทั้งหลายจะพึงไป ณ ที่ใด?”
“อานนท์ สถานที่อันเป็นเหตุให้ระลึกถึงเราก็มีอยู่
คือสถานที่ที่เราประสูติแล้ว คือลุมพินีวันสถาน
สถานที่ที่เราตั้งอาณาจักรแห่งธรรมขึ้นเป็นครั้งแรก
คืออิสิปตนมิคทายะ แขวงเมืองพาราณสี
สถานที่ที่เราตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
บรรลุความรู้อันประเสริฐ ทำกิเลสให้สิ้นไป
คือโพธิมณฑล ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม
และสถานที่ที่เราจะนิพพาน ณ บัดนี้
คือป่าไม้สลาะ ณ นครกุสินารา
อานนท์เอย สถานที่ทั้งสี่แห่งนี้เป็นสังเวชนียสถาน
สาราณียสถานสำหรับให้ระลึกถึงเรา
และเดินตามรอยบาทแห่งเรา”
โปรดติดตามอ่าน พระอานนท์ พุทธอนุชา ตอนต่อไป
ขอบพระคุณข้อมูลจาก : FB อาจารย์วศิน อินทสระ