KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆตามประสาชาวกรรมฐานคุยกันสบายๆ ตามประสาชาวกรรมฐาน.คอมฝึกสมาธิแบบง่ายๆด้วนการวิเคราะห์ถึงเห็นและผล
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ฝึกสมาธิแบบง่ายๆด้วนการวิเคราะห์ถึงเห็นและผล  (อ่าน 6913 ครั้ง)
sarawut.nrc
สมาชิกใหม่
*

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 0
กระทู้: 1


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2011, 05:16:26 PM »

- กาย ประกอบด้วยธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งมีประสาทสัมผัส 5 ส่วน คือ ตา-ดู, หู-ฟัง, จมูก-กลิ่น, ลิ้น-ลิ้มรส และ กาย-สัมผัส
- ใจ คือธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งครองอยู่บนร่างกาย มีอำนาจรับรู้ประสาททั้ง 5 เกิดการเห็น และจำ แล้วนำมาคิดพิจารณา เกิดความรู้สึก ดีใจ เสียใจ เศร้าใจ เป็นสุข เป็นทุกข์
- ซึ่งธรรมชาติของใจ จะดิ้นรน อยาก เพื่อให้ได้มาซึ่งอารมณ์ที่น่าใคร่ ไม่ตั้งอยู่ในอารมณ์หนึ่งได้นาน รักษาใจให้อยู่นิ่งไม่คิดเรื่องอื่นทำได้ยาก
- ดังนั้นหากเราต้องการควบคุมให้เกิดอารมณ์ให้หยุดนี่ง เพื่อให้เกิดปัญญาพิจาณาไตร่ตรองในสิ่งที่ถูก-ผิด หนทางเพื่อให้ใจเป็นสุข คือการทำสมาธิ
- สมาธิ คืออาการตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียวอย่างต่อเนื่อง หรือใจหยุดนิ่งแนวแน่ไม่ส่ายไปมา
- วิธีฝึกสมาธิเบื้องต้น
1.เมื่อพยามประคับประคองใจให้นิ่งด้วยการจดจ่อที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่นกำหนดลมหายใจเข้าออก พักนึ่งจะเกิดความฟุ้งซ่าน คิดโน้น นั้น นี้ เป็นไปตามธรรมชาติของใจโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นสติเราจึงต้องรู้เท่าทัน แล้วกลับมาจดจ่อที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง
2.เมื่อจดจ่อที่สิ่งนั้นต่อไป อาจจะเกิดอารมณ์ต่างๆ จากความฟุ้งซ่านนั้น เช่นดีใจ เสียใจ สติเราก็ต้องรู้เท่าทันอารมณ์ แล้วกลับมาจดจ่อที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง
3.หากเราประคับประคองใจให้หลุดจากข้อ 1, 2 ได้จะเกิดอารมณ์ปิติสุข ซึ่งก็คือเกิดสมาธิ
4.หากเราปฏิบัติแล้วใจเราควรจะอยู่ที่ข้อ 3 ให้ได้นานที่สุด หากจิตใจไปอยู่ข้อ 1, 2 ก็แสดงว่าสมาธิหลุด
ควรฝึกบ่อยๆเพื่อให้เป็นนิสัย ถ้าเรามีสติ จงใช้สตินั้นซุ่มดู ความโลภ โกรธ หลง เพื่อให้รูเท่าทันอารมณ์นั้น
 
 
ประโยชน์ของการฝึกสมาธิ
- เพื่อให้เกิดสติ ความคิดในการพิจารณาสิ่งต่างด้วยเหตุและผลมากยิ่งขึ้น
- รู้ ผิด-ชอบ ชั่ว-ดี สิงไหนควร-สิ่งไหนไม่ควร
- วางตนได้เหมาะสมกับสถานกาณ์ต่างๆ
- มีความสามารถตัดสินใจในสิ่งที่จะกระทำได้มากยิ่งขึ้น
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผู้ที่ปฏิบัติดีแล้วจะมีความคิดพิจารณาเห็นสัจจะธรรมบางอย่าง เพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อให้เกิดความสุขจากภายใน นั้นคือสุขที่ใจเรานั้นเอง

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเกิดเป็นเศรษฐี หรือคนยากจน ก็มีความสุขได้ ด้วยการสุขที่ใจ โดยไม่ได้ยึดติดที่วัตถุ
ความสุขนั้นมี 2 ประเภท
1.สุขจากภายใน คือสุขที่ใจไม่ยึดติดที่วัตถุ (หากเราปฏิบัติสมาธิถึงขั้นหนึ่ง เราจะเห็นความสุขประเภทนี้)
2.สุขจากข้างนอก คือสุขจากวัตถุ เช่นมีสิ่งของที่ทำให้น่าใคร่ พอใจแล้วมีความสุข
การที่เราพอใจ กับสิ่งที่เรามีนั้นก็เป็นความสุข
และถ้าหากเราอยากได้ อยากได้แล้วไม่ได้นั้นก็จะเกิดทุกข์
ดังนั้นหากเรามีสติดีแล้ว เราก็จะเลือกได้ว่าอยากมีความสุข หรือว่าความทุกข์

หนังสือตำรา ไม่ได้บอกว่าถูกหรือผิด เป็นแค่เครื่องชี้ทาง
บันทึกการเข้า
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2011, 02:21:55 PM »

ขอบคุณนะครับท่าน sarawut.nrc
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
baankieng
สมาชิกใหม่
*

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 0
กระทู้: 1


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 07, 2011, 11:13:57 AM »

ขอบคุณครับ  รูดซิบปาก
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: