KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับรวมรูปภาพต่างๆเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา พาเที่ยววัด ใน Kammatan.com Galleryบทความดีๆ เกี่ยวกับธรรมะหลวงพ่อชา ตอบคำถามคนช่างสงสัยเรื่องวินัย
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อชา ตอบคำถามคนช่างสงสัยเรื่องวินัย  (อ่าน 5819 ครั้ง)
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2011, 10:29:08 AM »



หลวงพ่อชา ตอบคำถามคนช่างสงสัยเรื่องวินัยว่า วินัยเป็นสิ่งที่ไม่จบไม่สิ้น ต่างจากธรรมะ

การที่เราอยู่ร่วมกันนี้จะต้องมีระเบียบ ระเบียบเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนหมู่มาก ไม่ใช่จำเป็นเฉพาะบุคคลเท่านั้น อยู่คนเดียวก็ต้องมีระเบียบ อย่างพระวินัย พระวินัยสมัยก่อนนี้มีนิดเดียว พระสงฆ์ที่มาบวชในพระพุทธศาสนามีมากขึ้น ต่างคนต่างจะทำอะไร ก็มีหลายเรื่...อง บางคนอยากจะทำอย่างนั้น บางคนอยากจะทำอย่างนี้ ก็มีกันมาเรื่อยๆ เป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าของเราตั้งข้อกติกา คือ พระวินัยขึ้นมา เพื่อเป็นข้อปฏิบัติ อยู่ไปนานๆ มีคนบางคน ก็ทำเรื่องมาอีกหลายอย่าง

ดัง นั้น พระวินัยจึงไม่มีทางจบสิ้น หลายล้านสิกขาบทแต่ก็ยังไม่จบ พระวินัยไม่มีทางจบลงได้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องธรรม "เรื่องธรรมะนี้มีทางจบ ก็คือ การปล่อยวาง"

เรื่องพระวินัยก็คือเอาเหตุผลกัน ถ้าเอาเหตุผลกันแล้วไม่จบหรอก สมัยหนึ่ง อาตมาไปบริหารพระสามสี่องค์ ไปอยู่ในป่า ไฟไม่ค่อยจะมี เพราะอยู่บ้านป่า องค์หนึ่งก็ได้ หนังสือธรรมะมาอ่าน อ่านอยู่ที่หน้าพระประธาน ที่ทำวัตรกัน อ่านอยู่ก็ทิ้งตรงนั้น แล้วก็หนีไป ไฟไม่มีมันก็มืด พระองค์มาทีหลังก็มาเหยียบหนังสือ จับหนังสือขึ้นมาก็โวยวายว่า “พระองค์ไหนไม่มีสติ ทำไมไม่รู้จักที่เก็บหนังสือ” สอบสวนถาม ก็ไปถึงพระองค์นั้น พระองค์นั้นก็รับปากว่า “ผมเอาหนังสือเล่มนี้ไว้ที่นี่” “ทำไมท่านไม่รู้จักที่เก็บหนังสือ ผมเดินมาเหยียบหนังสือนี้” “โอ อันนั้นเป็นเพราะท่านไม่สำรวมต่างหากเล่า” เห็นไหม มันมีเหตุผลอย่างนั้น จึงเถียงกัน องค์นั้นบอกว่า “เพราะท่านไม่เอาไปไว้ในที่เก็บ ท่านไม่รู้จักเก็บหนังสือ ท่านจึงไว้อย่างนี้” องค์นี้บอกว่า “เป็นเพราะท่านไม่สำรวม ถ้าท่านสำรวมแล้ว คงไม่เดินเหยียบหนังสือเล่มนี้” มีเหตุผลว่าอย่างนั้น มันก็เกิดเรื่องทะเลาะกัน ทะเลาะกันไม่จบ ด้วยเรื่องเหตุผล

เรื่องธรรมะที่แท้จริงนั้น ต้องทิ้งเหตุทิ้งผล คือ ธรรมะมันสูงกว่านั้น ธรรมะที่พระพุทธองค์ท่านตรัสรู้ ระงับกิเลสทั้งหลายได้นั้น มันอยู่นอกเหตุเหนือผล ไม่อยู่ในเหตุ อยู่เหนือผล ทุกข์มันจึงไม่มี สุขมันจึงไม่มี ธรรมนั้นท่าน เรียกว่า "ระงับ ระงับเหตุ ระงับผล" ถ้าพวกใช้เหตุผลอยู่อย่างนี้ เถียงกันตลอดจนตายเหมือนพระสององค์ นั้น ธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ ต้องอยู่นอกเหตุเหนือผล นอกสุข เหนือทุกข์ นอกเกิด เหนือตาย ธรรมนี้มันเป็นธรรมที่ระงับ คนเราก็มาสงสัยอยู่นี่แหละ



นำมาจาก : http://www.facebook.com/visalo  Facebook ของพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: