วันที่ฝันเห็นเปรต 14/12/53ต่อ15/12/53ครับ

เมื่อคืนฝันครับ(15/12/53ซึ่งเป็นวันพระอีกแล้วครับท่าน)ทั้งที่ง่วงมากหัวถึงหมอนไม่ถึง2นาทีหลับเลย ฝันว่าไปยืนที่กลางป่าแห่งหนึ่งไปยืนหลังเปรต เป็นเปรตที่มีแต่กระดูกครับเป็นกระดูกที่ขาวมาก แต่ไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย เฉยๆ สักพักผมก็เข้าไปในถ้ำเขาตามเข้ามาไม่ได้ ได้แต่ยื่นมือที่มีแต่กระดูกปูดโปนใหญ่(ผมเลยมาsearchในgoogleพบว่าเป็นอัฏฐีสังขสิกเปรต) มากเข้ามา ผมก็เอามือไปลูบที่กระดูกของเขา ดูว่าเขามีความสุขมาก แต่ในใจกลับคิดได้ว่าไม่มีบุญใดจะช่วยเปรตตนนี้ได้เท่ากับกรรมฐาน จึงคิดไปว่าถ้าเปรตตนนี้ได้บุญจากกรรมฐานจะเป็นเช่นใด ปรากฏภาพให้เห็นเลยครับว่า เขาจะเป็นดวงวิญญาณที่มีทุขเวทนาน้อยกว่าเปรตมากแล้วผมก็ตื่น(เขามาขอส่วนบุญแบบดีๆครับ)

มีคนเคยถามท่านท้าวมหาพรมธาดาว่า ทำไมท่านจึงได้มาประดิษฐานที่รูปท่านท้าวมหาพรมที่โรงแรมเอราวัณแห่งนี้
ท่านเมตตาตอบว่า คนที่ทำพิธีเขาทำพิธีได้ถูกต้องทุกอย่างไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไปเลย ท่านจึงขัดไม่ได้ ต้องลงมาประดิษฐานที่พระรูปนี้

  1.เกิดขึ้นที่เดิมครับ ฝันไปว่าอยู่ก็มีคนยืนต่อหน้าประมาณ 10 กว่าคนห่างจากผมประมาณ 3 เมตร ทุกคนใส่เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นสภาพแต่ละคน ขมุกขะมอม ยืนเรียงหน้ากระดาน แล้วมีชายคนหนึ่งเป็นตัวแทนพูดกับผมว่าพวกเขามาจากที่ลึกมากๆและหิวมากๆแค่นั้นผมสะดุ้งตื่นเลยครับ
   2.อันนี้ไม่รู้คิดมากไปหรือเปล่า เกิดขึ้นที่บ้านหลังเดียวกันมาลักษณะเดียวกัน แต่ไม่ใช่คนครับเป็นเป็ดประมาณ 6-7 ตัว มาบอกว่า อย่ากินพวกเขาเลยแค่นั้น

 เหตุการณ์เหล่านี้เกิดจากตอนที่ขยันทำสมาธิอยู่ครับ แล้วอาการที่เกิดตอนที่ทำสมาธินั้น เป็นอาการที่ท่านผู้รู้ได้แนะนำว่าอาจเป็นปีติอย่างหนึ่งครับ
   1.ตอนนั้นนอนที่บ้านเพื่อนฝันไปว่า มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาหานุ่งโจงกระเบน และมีผ้าพาดบ่าเหมือนสไบไม่ใส่เสื้อ เดินหลังค่อมมาเล็กน้อยพร้อมไม้เท้า ตอนนั้นอยากเห็นว่าผ้าของท่านเป็นยังไง จู่ๆเหมือนมีแว่นขยายมาให้เห็น ผ้าที่ท่านใช้นั้นเป็นสีขาวสว่างมาก ผิวของผ้าละเอียดมาก ละเอียดจนไม่เห็นลายของผ้าเลย เรียบเหมือนยางพาราน่ะครับ ต่อมาอยากเห็นผิว ก็เห็นอีก มีรอยย่นเล็กน้อย แขวใสมาก ไม่มีกระเลย มาบอกว่า หิวมากเท่านั้น ท่านก็ไป

    1.ตอนที่เรียน ม ต้น เป็นช่วงกีฬาจังหวัด ขณะที่อาจารย์ให้เตรียมแปลอักษรเพื่อจะบันทึกวิดีโออยู่นั้นซึ่งผู้ที่บันทึกนั้นจะอยู่ที่สแตนตรงข้ามอีกฟากของสนามฟุตบอล ในใจคิดไปว่า อาจารย์ครับเดี๋ยวก่อนก็ได้ตอนนี้เทปมันหมด เขากำลังเปลี่ยนเทปอยู่ แต่ไม่ได้พูดออกไป ก็ทำตามไปที่อาจารย์บอก แปลอักษรไปสักพัก อาจารย์ก็ประกาศว่านักเรียนหยุดก่อน ฝั่งโน้น วิทยุมาบอกว่าเทปหมดกำลังเปลี่ยนเทปอยู่ เกิดจากอะไรครับ
    2.ตอนที่ผมเรียนอยู่เกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศ ตอนทฤษฎีผมก็ฟังแต่ไม่เข้าใจ อาจารย์เอารูปจากหนังสือมาให้ดู เป็นการต่อคอมเพรสเซอร์แบบต่าง ๆ มันมีอยู่ ประมาณ 4 แบบ มันก็ผ่านตาแต่ยังไม่เข้าใจ พอจะจบคาบอาจารย์บอกว่าเดี๋ยวให้ต่อวงจรจากของจริง ผมเครียดเลยครับเอามือกุมหัวคิดว่าทำไงดีวะ ผ่านไป สัก 5 วินาที ปรากฏว่าภาพวงจรไฟฟ้า ทั้ง 4 แบบมันผุดขึ้นมาในหัวผมหมดเลยครับ และเข้าใจทุกแบบแจ่มแจ้ง เป็นภาพสีเทา สว่างๆครับ เกิดจากอะไร
    3.ตอนที่ผมทำงานตอนนั้นไปนอนบ้านเพื่อน วันอาทิตย์ตอนบ่ายๆจะกลับบ้านตัวเอง จึงเข้าไปที่ห้องพระกราบลาพระที่บ้านนั้น แล้วก็หยิบพระเครื่องที่ติดตัวเป็นประจำ บังเอิญต้นไผ่ไปสีกับชายคาบ้านดังวี๊ด ใจมันคิดไปว่า อย่าเพิ่งออกไปเลยเดี๋ยวรถจะไปชนกับเขา เราไม่เชื่อ ออกจากหน้าปากซอยมาปุ๊บรถผมไปชนกับมอเตอร์ไซค์อีกคัน เกิดจากอะไรครับ
    4.ตอนที่ผมทำงานอยู่เครื่องจักรมีปัญหา จนปัญญาหาสาเหตุเท่าไห่ก็ไม่เจอ จู่ๆก็มีเสียงกระซิบในหูว่า ดูที่สวิทช์ตัวนั้นสิ แล้วก็จริงดังว่า เกิดจากอะไรครับ
    5. ตอนที่ผมทำงานแล้ว ตอนนั้นทำงานกับวิศวกรเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ใช้วัดแรงดันไอน้ำ(ตรงเฮดเดอร์ที่มาจากบอยเลอร์แรงดันไอน้ำ 7 บาร์ขึ้นไป) แล้งตรงเฮดเดอร์นั้น มันมีเกจวัดแรงดันแบบธรรมดาอยู่อันนึง ผมเห็นมันเอียงอยู่จึงขยับเข้าไปดูใกล้เอานิ้วไปสะกิดทีนึง มันก็เหมือนจะหลุดออกมา จู่ๆมีเสียงมาก้องในโสตประสาทว่า อย่ายื่นหน้าเข้าไปนะ ตอนแรกผมก็เฉยๆ แล้วก็ดังมาอีกว่า มึงอย่ายื่นหน้าเข้าไปเชียวนะ ผมจึงชักหน้าออก พอผมชักหน้าออกเท่านั้นแหละครับ ไอ้เกจวัดแรงดันมันก็หักทันทีแล้วตามมาด้วนไอ้น้ำที่พุ่งออกมาอย่างแรง ตอนนั้นต้องหยุดบอยเลอร์เลยครับและต้องหยุดระบบทั้งโรงงานเลย ถ้าไม่เชื่เสียงนั่น ผมตาบอดไปแล้ว เกิดจากอะไรครับ และยังมีมาอีกหลายเหตุการณ์ครับ
   6.อันนี้ไม่รู้ว่าตาฝาด หรือคิดมากไปกันแน่ ตอนนั้นซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อนกลับจากมหาชัย ระหว่างที่อยู่บนสะพานท่าจีน ตรงนั้นมีวัดกลางอ่างแก้ว เผอิญผมมองไปบนฟ้า เหมือนเห็นอะไรซักอย่างที่คล้ายศาลพระภูมิครับแต่ใหญ่มาก ใหญ่ที่คนเข้าไปอยู่ได้สบาย เป็นแบบจตุรมุขครับ แต่สีของสิ่งที่เห็นนั้นออกเทาไปทางขาวครับ คืออะไรครับ ตอนแรกคิดว่าเป็นก้อนเมฆ จึงเบือนหน้าหนีแล้วหันกลับไปมองใหม่ แต่ที่ตรงนั้น กลับไม่มีเมฆอยู่เลยสัดนิดเดียว
   และมีอีกหลายเรื่องครับที่มันจะรู้เองล่วงหน้า มันจะมาก็มาเองครับ ถ้าไปอยากรู้หรืออยากให้มันมามันจะไม่มาครับ เกิดจากอะไรไม่รู้ครับ วอนผู้รู้ช่วยคลายข้อสงสัยด้วยครับ
   

เท่าที่รู้มาท่านมีนามว่า ท่านท้าวมหาพรหมธาดา ตอนที่ท่านถูกทำลาย ลูกศิษย์ก็เจ็บเล็กเจ็บน้อยกันทั่วหน้า ท่านบอกว่าท่านจะมาในอนาคต จริงๆ ท่านไปแล้ว และมีองค์ใหม่มาแทน แต่องค์ที่มาแทนท่านเข้มและเจ้าระเบียบมาก ลูกศิษย์ของท่านท้าวมหาพรหมธาดาไม่ค่อยคุ้นเลยไม่เชิญ ท่านท้าวมหาพรหมธาดาจึงต้องอยู่ต่อไป แต่บุญบารมีท่านเต็มมานานแล้ว

ผมพยายามคิดมาตั้งนานว่าความหมายของคำว่าทุกข์ในพุทธศาสนาคืออะไรแต่ก็ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ครับตามที่ผมเข้าใจมี 2 ความหมาย ท่านใดรู้โปรดชี้แนะ
1. ทุกข์โดยสภาพ ไม่ว่าป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือสิ่งที่ประกอบรวมกันเป็นคน สัตว์ สิ่งของ เป็นทุกข์ทั้งนั้น คือมีความไม่สบายกาย ใจ ต้องทนอด ต้องอดทน ต้องเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา
2. ทุกข์โดยที่เราเอาจิตของเราไปรองรับกับสภาพที่เป็นทุกข์แล้วเรามาทุกข์ใจเสียเอง โดยไม่ได้คิดพิจารณาตามควมเป็นจริงว่ามันต้องเป็นเช่นนั้น
     สรุปคือตามที่ผมเข้าใจ(อาจยังไม่ถูกนัก)คือ ทุกอย่างเป็นทุกข์โดยสภาพ หรือปัจจัยของมันเอง กับทุกข์เพราะเราเอาจิตเข้าไปยึดมั่นจึงเป็นทุกข์ครับผม ช่วยตอบด้วย

ขอบคุณครับ

ช่วบตอบหัวข้อ**มีปัญหาเวลาทำสมาธิ**ทีเถอะครับ  ไม่ได้ลองภูมิใครทั้งสิ้น แต่มันไปไม่ถูกแล้วครับตัน เป็นปัญหาของผมจริงๆ ของคุณล่วงหน้าครับ

มีปัญหาเวลาทำสมาธิ
1.บางครั้งมีอาการว่าตัวของเรา หดเล็กลงไปเรื่อย หรือบางครั้ง ก็ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ
2.บางครั้งมีอาการว่าตัวของเรา ลอยขึ้นสู่ที่สูงไปเรื่อยๆ หรือบางครั้ง ตกลงสู่ที่ต่ำไปเรื่อยๆ
3.บางครั้งมีเอาจิตไปจับไว้ที่ปลายนิ้วโป้ง(ชนกันอยู่)แล้วรู้สึกว่านิ้วเริ่มใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆจนลามไปทั้งแขน
4.บางครั้งมีอาการว่าตัวของเราเอนไปทาง ซ้าย ขวา หน้า หลัง
เวลาที่เกิดอาการเหล่านี้จะลืมตามาดูว่าลำตัวของเราเป็นอย่างไร ซึ่งก็ปกติดีทุกอย่าง แล้วอาการที่เกิดคืออะไรครับ จะทำอย่างไรต่อไปดี

ขอตอบตามปัญญาที่มีน้อยนิดเคยอ่านมาในพระไตรปิฎกมาเหมือนกัน
ตอนที่ตรัสนั้นเหมือนกับว่าพระพุทธองค์ทรงประทับอยู่กับพระสาวกที่มีจำนวนน้อยๆไม่ได่สนทนาธรรมที่เป็นข้อหนักๆ ท่านต้องการบอกว่าอานนท์ความรู้ที่เราตถาคต(และพระพุทธเจ้าทุกพระองค์)มีนั้นมันมากมายสุดจะคณานับได้เปรียบเหมือนใบไม้ทั้งป่าแต่ความรู้ที่เป็นไปเพื่อการฝึกตนขัดเกลากิเลสและหลุดพ้นนั้นก็มีจำนวนเปรียบเทียบแค่ใบไม้ในพระหัตถ์เท่านั้นเองนอกจากนั้นไม่เป็นไปเพื่อที่สุดแห่งพรมจรรย์เลย (พระพุทธองตรัสว่าจักรวาลนี้มีหมื่นโลกธาตุย่อมมีวิวัฒนาการที่ต่างกันออกไปเพียงแค่พระพุทธองค์ใช้ญาณก็สามารถรู้ได้ หรือไม่ก็ใช้ปัญญาบารมีที่พระพุทธองค์มีก็ได้ไม่ต้องพึ่งใคร)หรือผิดถูกอย่างไรขออภัยและช่วยแสดสงความคิดเห็นด้วยครับ

1.ในโลกนี้ใครมีทุกข์มากที่สุด
2.จิตอยู่ที่ไหน

อ้างจาก: AVATAR ที่ ตุลาคม 03, 2010, 02:45:30 am
เขานับถือของเขามานมนานแล้วครับท่านพี่ หินศักสิทธิ์ เมกกะ ซาอุดิอาระเบีย...เค้าบอกหินพระเจ้าศักสิทธ์ก็ต้องศักสิทธ์

เหมือนเขามาถามเรายูไหว้เหรียญนี่ทำไม...? ดีไม่ถามยูไหว้จิ้งจกสองหาง ต้นกล้วย ๒ปลี ด้วยหรือ...ถ้าตอบไม่ได้มันจะเป็นเรื่องเอานาครับ...




     ***** "หินดำถูกประทานลงมาจากสวรรค์ ซึ่งความขาว (ของหินดำนั้น), ขาวยิ่งกว่า (ความขาวของ) น้ำนมเสียอีก, (แต่ที่เปลี่ยนเป็นสีดำเนื่องจาก) ความผิดต่างๆ ของลูกหลานอาดัมทำให้หินดำนั้นเป็นสีดำ"

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะครับ คุณยังรู้เรื่องราวมหัศจรรย์ในโลกน้อยมาก

หินดำเป็นศิลา ที่มีสัณฐาน เป็นรูปครึ่งวงกลม กว้างประมาณ 10 นิ้ว สูง 12 นิ้วจากการตรวจสอบโดยนักวิทยาศาสตร์จาก สหรัฐฯ พบว่า หินดำเป็นวัตถุนอกโลก สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นก้อนอุกกาบาต ที่มาจากที่อื่น ซึ่งองค์ประกอบและธาตุบางชนิดที่พบ เป็นสิ่งที่ไม่มีในโลก หรือในกาแลคซี่เรานี้*****
    ถามเรื่องพระพุทธรูปไปเรื่องหินซะแล้ว ยุ่งเหยิง ยุ่งเหยิง ถ้าพูดเรื่องหินเป็นของอิสลาม แล้วอีฟ กับ อาดัม เป็นคนของคริสต์มิใช่รือ อืม
    อีกอย่างผมขอแค่แสดงความคิดเห็นตามปัญญาน้อยนิดว่า ถึงแม้จะไม่มีพระพุทธรูป พุทธศาสนา ก็คงอยู่ 5000 ปีตามที่ทรงพยากรณ์(พยากรณ์หรือการทำนายของพระพุทธเจ้ามิใช่การทายแต่เป็นการบอกความจริงล้าน%ที่จะเกิดขึ้น) เพราะว่า พระพุทธองค์ตรัสไว้ตั้งแต่ยังไม่มีการสร้างพระพุทธรูปแทนพระองค์ ท่านมั่นคงเด็ดเดี่ยว ว่า5000ก็5000เถอะอย่าไปคิดอะไรมาก  และพระองค์ก็ไม่เคยให้สร้างพระพุทธรูปไว้แม้แต่หลังปรินิพพานด้วยครับ นอกจากยุคหลังมีการสร้างสถูป เจดีย์เพื่อรำลึก ถึง แต่ด้วยความที่เราเป็นปถุชน ก็เลยเอ้าสร้างขึ้นมาเพื่อไว้เป็นพุทธนุสติ

ไม่ต้องไปที่ไหนหรอกครับ ที่บ้านก็ได้ ที่ไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก ขอให้ยึดแนวมรรค 8 แค่นั้นพอ ธรรมเป็นของธรรมชาติ ธรรมไม่ว่าหัวข้อใดก็ตามถ้ามาจากพระสุปติปันโน=พระพุทธองค์ ค่าเท่ากัน อย่าไปยึดกับสถานที่ กับบุคคล มันจะวุ่นวาย