แสดงกระทู้
หน้า: 1 ... 5 6 [7]
91  การปฏิบัติของผู้ที่ได้ ฌาณ / ประสบการณ์ของผู้ที่ได้ไปสวรรค์ / Re: พญามาร ทำไมได้อยู่บนสวรรค์ชั้นที่หก ปรนิมมิตวสวัสตตี เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2010, 12:16:10 AM
มิจฉาทิฏฐิ คือ  ความเห็นผิด  หรือเป็นทิฏฐิปาทาน คือความยึดมั่นด้วยทิฏฐิ  ถ้าพิจารณาแบบโลกุตระ ทั้งบุญ-บาป ล้วนเป็นความยึดมั่นด้วยทิฏฐิ  หรือ ทิฏฐิปาทาน  หรืออุปทานทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม ในทางโลกหรือโลกียะ การเห็นชั่วว่าเป็นดี เห็นดีว่าเป็นชั่ว เห็นบาปว่าเป็นบุญ เห็นบุญว่าเป็นบาป  เรียกว่า   "สมาทานมิจฉาทิฏฐิ" อันนี้ไปทุคติแน่นอน  เพราะเป็นความเห็นผิดที่วิปริต ผิดจากทำนองคลองธรรม  ผิดมโนธรรมที่อยู่ในจิต

แต่ถ้าเป็นทิฏฐิปาทาน คือความยึดมั่นด้วยทิฏฐิ  ที่ถูกทำนองคลองธรรม แล้วมีเจตนาทำตามมโนธรรม ที่เรียกว่า "กุศล หรือบุญ"  ความยึดมั่นตามมโนธรรมที่ถูกทำนองคลองธรรม และทำกุศลกรรมต่างๆ ก็จะนำไปสู่สุคติภูมิหรือสวรรค์

พระยามารที่เป็น"สมาทานมิจฉาทิฏฐิ"  ฝรั่งเขาเรียกว่า ซาตาน  ที่อยู่ คือ นรก
พระยามารที่เป็น"มิจฉาทิฏฐิ" ทางด้านโลกุตตระ แต่เป็นสัมมาทิฏฐิทางด้านโลกียะ คือ ทำถูกต้องทำนองคลองธรรม  ทำแต่บุญไม่ทำบาป เรียกว่า "พญามาราธิราช หรือ วสวัตตีมาร " ที่อยู่ คือ สวรรค์ชั้น 6 หรือสวรรค์ชั้น ปรนิมมิตวสวัสตี

สรุป

ในระดับโลกหรือโลกียะ การทำบุญถือเป็นสัมมาทิฏฐิ   การทำบาปถือว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิ

ในระดับโลกุตตระ บุญและบาป ล้วนเป็นมิจฉาทิฏฐิทั้งสิ้น   สิ่งที่เป็นสัมมาทิฏฐิมีเพียงได้ปัญญา ทำให้ละทั้งบุญ ทั้งบาป  ทีเป็นความยึดมั่นถือมั่น หรือเป็นอุปทาน

พญามารไม่ว่าจะเป็นฝ่ายดีฝ่ายชั่ว  ก็ล้วนเป็นผู้ทำให้มนุษย์หลงทางอยู่ในสังสารวัฏฐ์ออกมาไม่ได้ จึงเป็นพวกที่มีมิจฉาทิฏฐิ  ส่วนความเห็นชอบ หรือสัมมาทิฏฐิ ที่พระพุทธองค์ตรัสถึง คือ ผู้ที่ทำจิตหลุดพ้นจากอุปาทาน

ภิกษุ ท.! ความเห็นชอบ (สัมมาทิฏฐิ) เป็นอย่างไร?
ภิกษุ ท.!
             ๑) ความรู้ในทุกข์
                ๒) ความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์
                ๓) ความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
                ๔) ความรู้ในหนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ อันใดนี้
เราเรียกว่า ความเห็นชอบ (สัมมาทิฏฐิ)



92  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 คืออะไร สำคัญอย่างไร / เถรวาท-พระศรีอาร์ยมาในปี 2500 มหายาน-พระศรีอาร์ยมาในปี 3000 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2010, 09:26:06 PM
คุณAVATAR เขียนว่า:

ในสมัยที่ พระศรีอริยเมตตรัย ลงมาสร้างบารมีด้วยกับพระพุทธเจ้าโคตมะ(องค์ปัจจุบัน) ท่านคือ พระอชิตะ


ตอบ

อชิตะเป็นเพียงชาติสุดท้ายที่พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์เข้ามาสัมพันธ์กับพระพุทธเจ้า   แต่ 2 พระพุทธเจ้ามีกรรมต่อกัน ที่ต้องช่วยเหลือแก้ลกูลกันต่อ แม้ว่าโคตมะพุทธเจ้าเข้านิพพานไปแล้ว  ลองอ่านกระทู้นี้ของผมสิครับ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


เถรวาท-พระศรีอาร์ยมาในปี 2500 มหายาน-พระศรีอาร์ยมาในปี 3000


" หลวงพ่อถุงย่ามใหญ่ " แห่งรัชกาลเจงเม้ง ( พ.ศ. 1460 ) ท่านได้นั่งเข้าสมาธิแล้วดับตายไปที่แท่นหินในวัดงักลิ้ม  ก่อนดับท่านได้เขียนคาถาไว้บทหนึ่งว่า
 
"พระเมตไตรย คือ พระเมตไตรย แบ่งกายเป็นพันหมื่นโกฏิ ให้คนได้เห็นทุกเวลา แต่คนก็ไม่รู้จัก"

 
คำพยากรณ์ในทางเถรวาท  


กล่าวว่า "พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์" ขณะนี้ได้ลงมาช่วยสืบอายุพุทธศาสนาแล้ว  แต่การที่พวกเราไม่เห็นท่าน  ถึงเห็นก็ไม่รู้ว่าเป็นท่าน  อาจจะเป็นเหมือนที่ " หลวงพ่อถุงย่ามใหญ่ " กล่าวไว้ก็ได้ 

หลักฐานที่ผมไปค้นมาที่เกี่ยวกับพระศรีอาร์ยมีดังนี้

1.  ตามบุรพกรรมสัญญา ระหว่างโคตมพุทธเจ้า และพระศรีอริยะเมตไตย  ทำให้องค์พระเมตไตรยโพธิสัตว์ จะต้องมาช่วยสืบอายุพุทธศาสนาของพระพุทธโคดม จวบจนครบพุทธกาลดั่งนี้แล   

2.  "ดู ก่อนอานนท์ ผ้าอาบของตถาคต ได้แก่ ศาสนาที่ตถาคตวางไว้ ลิงแม่ลูกอ่อนที่มาถ่ายมูลเลอะเทอะหมดถึง 3 ชายนั้น ได้แก่ กองทัพ ซึ่งจะมารบราฆ่าฟันกันตาย เหลือที่จะคณานับ ศาสนาของตถาคตจะเสื่อมทรุดไปถึง 3 ใน 4 ส่วน คงค้างอยู่แต่เพียงส่วนเดียว และนกยางขาวที่บินมาจับหัวแม่ลิงนั้น คือ พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ จะมาปราบอธรรม และช่วยสืบอายุศาสนาของตถาคต เริ่มตั้งแต่ 2,500 ปีขึ้นไป จนครบ 5,000 ปี"   

3.  พุทธทำนาย     เมื่อศาสนาของพระองค์ผ่าน 2,500 ปีไปแล้ว คนทั้งหลายก็จะเป็นทุกข์และเดือดร้อนฉิบหายกันมากนัก    เทวดาก็ทูลถามว่า หากเกิดเหตุเช่นนั้นจริง พระองค์จะให้พวกเทวดาทำอย่างไร พระพุทธองค์ตอบว่า หากคนยังเคารพและปฏิบัติตามในพระรัตนตรัยอยู่ ก็จะเป็นบุญของผู้นั้น แต่หากไม่ปฏิบัติตามก็เป็นกรรมของผู้นั้น จึงขอให้เทวดาทั้งหลายทำบุญรักษาศีลเจริญภาวนาฟังธรรมคำสอนของผู้รู้ สร้างกุศลและละเว้นจากบาป ทำจิตใจให้บริสุทธิ์แล้วตั้งจิตปรารถนาให้ได้พบพระพุทธอาริยเมตไตรย   

เทวดาทูลถามต่อว่า คนที่อยากพบพระอาริยเมตไตรยนั้นพึงทำอย่างไร พระพุทธองค์ก็ตอบว่าให้มั่นคงในการทำบุญรักษาศีลเจริญภาวนาแล้วตั้งความปรารถนาว่าให้ได้พบกับพระพุทธอาริยเมตไตรย ก็จะได้พบกับพระพุทธอาริยเมตไตรยเป็นแน่แท้


คำพยากรณ์ในทางมหายาน


พระพุทธองค์ได้ตรัสไปในทางมหายานว่า 3000 ปีหลังพุทธกาล พุทธศาสนาใกล้เสื่อมสิ้นแล้ว  พระเมตไตยมหาโพธิสัตว์ จะเสด็จลงจากดุสิตสวรรค์สู่โลกมนุษย์ เพื่อยังพระธรรมให้บริสุทธิ์อีกครั้งหนึ่ง

  http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=mathew&id=435
93  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / Re: เรื่องพระศรีอริยะเมตตรัย จากปรีชาหยั่งรู้จากญาณของพระอริยะบุคคล เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2010, 12:18:26 AM
พึงตระหนักว่า..ข้อความสนธนาสุดท้ายระหว่างหลวงปู่บุดดากับหลวงปู่สิมชี้ว่า ศพของพระมหากัสสปะจะโดนเผาในอีก 80,000-86,000 ปี ที่ยังระบุปีไม่ได้ เพราะคำว่า "(พระศรีอาร์)มีเวลามาเทศน์ ๘ หมื่นปี เสร็จแล้วจึงจะมาเผาศพ" มันตีความลำบาก

หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยอธิบายว่า พระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้าจะปรินิพพานพร้อมกับพระมหากัสสปะ "เวลาที่พระศรีอาริย์จะนิพพานท่านก็เอาศพพระมหากัสสปะใส่พระหัตถ์ อธิษฐานเตโชธาตุเผา เมื่อเผาแล้วก็อาศัยเหตุนี้เป็นปัจจัยพระองค์จึงนิพพาน" (เผาด้วยไฟกสิณจากเตโชธาตุไปพร้อมกัน)
94  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / เรื่องพระศรีอริยะเมตตรัย จากปรีชาหยั่งรู้จากญาณของพระอริยะบุคคล เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2010, 12:10:55 AM
พระศรีอริยะเมตตรัย จากปรีชาหยั่งรู้จากญาณของพระอริยะบุคคล


1. พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ในหนังสือประวัติและการสร้างพระศรีอาริยเมตไตรย(พระราชพรหมยาน)


“…..เมื่อศาสนาพระตถาคตครบ 5,000 ปีแล้ว ฝูงสัตว์ก็มีอายุถอยลงคงอยู่ 10 ปีเป็นอายุขัย ครั้ง
นั้นแล…….จะบังเกิดมหาภัยเป็นอันมาก มี “สัตถันตรกัป” คือเป็นกัปที่มนุษย์ทั้งหลาย จะวุ่นวายเป็นโกลาหล เกิดรบพุ่งฆ่าฟันซึ่งกันและกัน จะจับไม้และใบหญ้า ก็กลายกลับเป็นหอกดาบแหลนหลาว อาวุธน้อยใหญ่ไล่ทิ่มแทงกัน ฝูงมนุษย์ทั้งหลายที่มีปัญญา ก็หนีไปซุกว่อนตัวอยู่ในซอกห้วยหุบเขา จะเหลืออยู่ก็แต่มนุษย์ที่มีปัญญา นอกกว่านั้นแล้ว ก็ถึงซึ่งความพินาศฉิบหายเป็นอันมาก

*** ข้อความที่ขีดเส้นใต้ แทบไม่ต้องตีความ หลังจากปีพศ. 5000 อายุของมนุษย์จะลดลงมาเหลือ 10 ปี ยุคนั้นจะเป็นกลียุค


2.  หลวงปู่บุดดาสนธนากับหลวงปู่สิม


หลวงปู่สิม มีเทปนี้มา คือว่าเปิ้นขึ้นไปเทศน์ให้ฟังนั้น ไปในนามคนทรง สองครั้งแล้วท่านขึ้นไปเทศน์ให้ฟัง ในถ้าผาปล่องน่ะ เปิ้นมีเมตตาอย่างใดบ่ฮู้ กัสสปน่ะ มารู้ข่าวว่าท่านยังไม่ทันเข้านิพพาน

หลวงปู่บุดดา ยัง

หลวงปู่สิม แน่ะ หลวงปู่ยังฮู้นี่ บ่เข้านิพพานไปอยู่ไหนล่ะ ในเมื่อท่านเข้า
นิพพานไปแล้ว ท่านเคยมาหาหลวงปู่ บ่

หลวงปู่บุดดา ท่านคอยพระศรีอารย์อยู่ คอยพระศรีอารย์เวลาเทศน์จบ
แล้ว จะเป็นภาพทำศพอีก ๘ หมื่นปี นั่นแหละ

หลวงปู่สิม นึกว่าได้นิพพานแล้ว ไปนิพพานเลยแม่นแล้ว ฟังข่าวหลวงปู่ ยังไม่
ทันไปนิพพาน ยังคอยพระศรีอารย์อยู่

หลวงปู่บุดดา ยังคอยเจ้าภาพศพ มีเวลามาเทศน์ ๘ หมื่นปี เสร็จแล้วจึงจะมา
เผาศพธรรมพระกัสสปเถระ

ในท่อนสุดท้ายของการสนธนา

“ ........ องค์แรก คือ "พระมหากัสสปะ" ที่คุณละอู กล่าวถึง สรีระท่านอยู่ที่เขาสามภู ทางตอนใต้ของ
ประเทศอินเดีย พระท่านบอกว่า พระอินทร์ท่านดูแลร่างนี้อยู่ครับ ได้จุดธูปเทียนบูชาไว้ตั้งแต่
สมัยพุทธกาล ตอนนี้ก็ไหม้ไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว
เมื่อครบห้าพันปี ธูปเทียนก็จะไหม้หมดพอดีครับ องค์นี้
รอพระศรีอาริย์มาเผา ในวันสุดท้ายก่อนที่พระศรีอาริย์จะเข้าพระนิพพานครับ


*** คำเทศน์ของหลวงพ่อทั้ง 2 ผมตีความดังนี้ พระศรีอาริย์จะมาเกิดหลังจากปีพศ .5100 พระองค์มีเวลาเทศน์สอนเผยว่าศาสนาพุทธใหม่ของพระองค์ 80,000 ปี ค่อยปรินิพพาน


3. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี


จากหนังสือ โอวาทสมเด็จโต สำนักปู่สวรรค์ เล่ม 1 เรื่อง กำเนิดโลกมนุษย์( โอวาทสมเด็จโต ) สมเด็จ
พระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี เทศน์เทศน์ไว้เมื่อวันวิสาขบูชา23 พฤษภาคม 2510 เวลา 24.00น.


ตอนที่เกี่ยวกับศรีอริยเมตไตรย มีดังนี้

“……เปลี่ยนแปลงกันเรื่อยๆ จนถึงองค์สมณโคดม และองค์ต่อไปองค์ศรีอริยเมตไตรยจะมาเกิดใหม่ใน
๕๐๐๐ ปี ในอนาคตข้างหน้า
เวลานี้อยู่สวรรค์ชั้น 4 และเคยจุติมาในโลกมนุษย์มาแล้วครั้งหนึ่งในสมัย
องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย คือ องค์สังกัจจายน์กาลเวลานั้น……

องค์ศรีอริยเมตไตรยจะมาเกิดใหม่ใน ๕๐๐๐ ปี ในอนาคตข้างหน้า

*** ท่อนนี้ผมตีความดังนี้ ปีที่หลวงพ่อโตเทศน์คือปีพศ. 2510 เมื่อหลวงพ่อเทศน์ว่า องค์ศรีอริยเมตไตรยจะมาเกิดใหม่ใน ๕๐๐๐ ปี ในอนาคตข้างหน้า ก็คือ พระศรีอารย์จะบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในปีพศ.ประมาณ 7250 หรือเกินกว่านั้น


จากพระอริยะ 3 ท่าน สรุปได้ว่า


1. พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า จะทรงอุบัติขึ้นต่อจากพระพุทธเจ้าโคตมะ หลังจากพระพุทธศาสนามีอายุครบ 5,000 ปีแล้ว อธรรมจะครองเมือง ศีลธรรมจะถูกบดบัง อายุของผู้คนจะลดน้อยลงตามลำดับ จากปัจจุบันมีอายุประมาณ 100 ปี จะค่อยลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งอายุมนุษย์ลดลงเหลือ 10 ปี ซึ่งถือเป็นกลียุคที่สุด มนุษย์ผู้ชายผู้หญิงจึงจำเป็นต้องสืบพันธ์กันในช่วงนั้น ก่อนที่ตนเองจะตาย

2. พระศรีอารย์ จะบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในปีพศ.ประมาณ 7250 หรือเกินกว่านั้น

3. พระศรีอาริย์ จะมีเวลาเทศน์สอนเผยแพร่ศาสนาพุทธใหม่ของพระองค์ 80,000 ปี ค่อยปรินิพพาน
หน้า: 1 ... 5 6 [7]