แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / Re: อนัตตาที่แปลว่า ไม่มีตัวตน ไม่ใช่ตัวตน ไม่เป็นตัวตนแท้จริงแล้วหมายความว่าอย่างไร เมื่อ: มีนาคม 14, 2010, 04:23:26 PM
แปลว่า จะมีก็พร้อมที่จะสมมุติ หรือ ไม่อยากมีก็คือไม่สมมุติ ใช่ไหม? สิ่งนั้นคือ ตัวตนที่ไม่มีตัวตน อัตตาในอนัตตา
นิพพานัง นั่นเอง เข้าใจแล้ว
            

ขอบคุณครับ ยิ้มกว้างๆ 5555+ เหลือแค่ปฏิบัติให้เข้าใจเท่านั้น ยากยิ่งจริงๆ
สาธุ ~
2  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / ท่านเคยมีคำถามนี้หรือไม่? เมื่อ: มีนาคม 14, 2010, 04:10:00 PM
วันนี้ผมสามารถตอบคำถามสมัยเด็กๆของตัวเองได้แล้วละครับ?
เพราะ เวป KAMMATAN.COM แห่งนี้

ผมขออนุโมทนาบุญกุศลครั้งนี้แก่ผู้จัดทำเวปนี้ และ
ผมขอให้ ผู้สร้างผู้จัดทำเวปนี้ รวมทั้งนักปฎิบัติทั้งหลายจงมีแต่ ความสุข ปราศจากทุกข์ เจริญด้วยอายุวัณโณ สุขัง พลัง
ขอให้พวกท่านทั้งหลายมีดวงตาเห็นธรรม หลุดพ้นถึง นิพพานในเร็ววันเทอญฯ สาธุ

ท่านเคยมีคำถามในใจตอนเด็กแบบนี้หรือไม่

1.มนุษย์เราเกิดมาทำไม? เพื่ออะไร?
2.อะไรทำให้เราต้องมาเกิด?
3.ทำไมมนุษย์ต้องมีการเกิดและการตาย?
4.มนุษย์เราทำได้แค่ กิน นั่ง นอน เดิน ขยับ ได้แค่นี้เองจริงๆหรือ?
5.ทำไมมนุษย์จึงเรียกตัวเองว่าสัตว์ประเสริฐ
ุ6.ทำไมการเกิดจึงน่ายินดี แต่ทำไมการตายจึงไม่น่ายินดี
ึ7.ทำไมมนุษย์ต้องร้องไห้? ทำไมต้องหัวเราะ?
8.ทำไมมนุษย์ต้องป่วย?
9.ทำไมมนุษย์ต้องแก่?
10.ทำอย่างไรมนุษย์จึงจะไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไ่ม่แก่ ไม่ตาย ไม่เกิด อีก?

ผมตอบคำถามทั้งหมดได้แล้ว เพราะพุทธศาสนา เรียนสายวิทย์-คณิต หรือ วิศวะฯไป ให้ตายก็ไม่มีคำตอบ

(ปริญญาเป็นแค่เศษกระดาษ  เงินทองเป็นแค่วัตถุ  คำสรรเสริญยศชื่อเสียงเป็นแค่สิ่งสมมุติ ไม่มีตัวตน)


3  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / Re: สงสัยว่าเป็นอะไรครับ เมื่อ: มีนาคม 14, 2010, 03:20:24 PM
ไม่มีท่านใดตอบ ผมขออนุญาติตอบนะครับ เนื่องด้วยกลัวเจ้าของตั้งกระทู้จะรอนานครับ
ขอตอบว่า ถามพระสงฆ์ที่วัด ผู้รู้จบครับ  ยิงฟันยิ้ม
4  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / Re: การปฎิบัติสมาธิแนววิปัสนา เมื่อ: มีนาคม 14, 2010, 03:14:55 PM
ขออนุญาติเพิ่มเติมนะครับ
ถ้ายังไม่ได้อีก
ผมขอแนะนำครับ  ไปปฎิปติธรรมเนกขัมมบารมี เลยครับ สติ กลับมาทันทีเลย แต่ใจต้องศรัทธานะ อย่ามีทิฐิ

สถานที่ก็ถามท่านข้างบนที่โพสแนะนำสถานที่ปฎิบัติไว้นะครับ
5  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / Re: กลัวหลงทาง ขอแก้ไขกระทู้แรก เมื่อ: มีนาคม 14, 2010, 02:56:53 PM
นิวรณ์แทรกแล้วครับ เบื่อ = ขี้เกียจ ผมก็เป็น และ รู้ด้วยว่ามันเข้าแทรก 555+
ทางแก้ก็อย่างที่ คุณ golfreeze บอกนั่นแหละ ส่วนอีกวิธีของผมขอเป็น เดินจงกรม 6 ระยะ แก้เบื่อ
6  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / Re: อนัตตาที่แปลว่า ไม่มีตัวตน ไม่ใช่ตัวตน ไม่เป็นตัวตนแท้จริงแล้วหมายความว่าอย่างไร เมื่อ: มีนาคม 14, 2010, 02:50:43 PM
ถ้าผมเข้าใจ "อนัตตา" ว่าคือ  ว่างเปล่าได้ไหมครับ จะผิดคำสอนไหม?
ตามที่ผมเข้าใจ ผมเข้าใจแบบนี้นะ ซึ่งผมก็ยังเป็นนักปฏิบัติอยู่นะครับ ไม่รู้ถูกหรือเปล่านะ รอไปบวชถามพระอาจารย์อยู่

"อนัตตา" ที่ผมเข้าใจ กระผมเริ่มพิจารณาจาก "อริยสัจ4" คือ
ทุกข์ = ความทุกข์ทั้งมวล หรือ ผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำที่ทำให้เราทุกใจหรือทุกข์กาย
สมุทัย = พิจารณาหาสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์
นิโรธ = สภาวะหมดทุกข์ หรือ ความดับทุกข์
มรรค = หนทางแห่งการดับทุกข์ มี 8 ข้อ

ทำอย่างไรจึงหมดทุกข์? คือแจ้งนิโรธ พิจารณาได้ว่า ทุกอย่างล้วนเกิดเป็นคู่ๆ มีดีมีชั่ว มีขาวมีดำ มีหญิงมีชาย มีสุขก็มีทุกข์

พระสงฆ์ท่านกล่าวไว้ว่า "คนเราจะเข้าใจ ทุกข์ ก็เมื่อยามเรา ประสบทุกขังกับตัว"
พระคถาคต ท่านตรัสไว้ว่า "ความไม่รู้ทุกขัง นี่แหละคือ อวิชชา เป็นปัจจัย ให้เกิดสังขาร"
ดังนั้นต้องพิจารณาว่า  มีสุข ต้องอย่างลืมนะว่าจะได้ มีทุกข์ เพราะมันเกิดเป็นคู่ๆ (อวิชชาอีกแล้วไม่รู้สุข ดูทุกข์ลืมดูสุขซะงั้น)

ทำอย่างไรจึงรู้ทุกข์ละ?  ก็ความสุขทางโลกไงละ! คือตัวทำให้เกิดทุกข์ สุขกายสบายใจแปปเดียวเดี๋ยวก็ทุกอีกแล้ว (ก็กิเลสตัณหาไง)
การปล่อยตัวไปตามกิเลส (ใจอยาก) นี่คือทุกข์ เพราะ อวิชชาเป็นเหตุ
ถ้าเรารู้ ทุกข์ ซะ สมุทัยก็ดับ นิโรธก็แจ้งแล้ว มรรคก็เกิดเลย ทุกอย่างอัตโนมัติ (<=อันนี้พิจารณาเองเลยนะครับ)

เพราะฉะนั้นสรุปว่า ทุกข์ = สุขทางโลก ความสุขมันไม่แท้ ไม่ใช่ของจริง ของปลอมของเก๊ มันไม่เที่ยง นี่ไงเห็น "อนิจจัง" แล้ว
อนิจจัง = เห็นแล้วจากการปฎิบัติในชีวิตประจำวัน
ทุกขัง = เห็นแล้วจากการประสบโดนกะตัว
อนัตตา = ยังมองไม่เห็น เพราะอะไรมองไม่เห็น อวิชชาหรือ? อวิชชาแน่ๆเลย

คิดต่อซิ พุทธศาสนาสอนอะไร? ก็สอนให้เน้นปฏิบัติเพื่อให้เข้าใจจริงๆ และ อ่านทฤษฎีเพื่อคลายความเห็นผิด

แล้วผมก็ไปสะดุดคำๆหนึ่งของพระสงฆ์
พระสงฆ์ท่านนั้นว่า "ก็รู้อยู่ว่า มันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ จะไปจับจะไปยึดถือจะไปเอามันไว้ทำไม "
เท่านั้นแหละ เห็นอนัตตาแล้ว แต่ยังไม่รู้แจ้งแถลงไข เพราะพุทธศสนาสอนปฎิบัติจึงจะเรียกว่า เห็นจริงๆ  
(โง่นี่ตัวเรา 5555+ เขางอกตั้งนาน)

คำถาม?
ทำอย่างไรจึงจะเห็นอนัตตาจริงๆละ?  ก็ปฎิบัติตนตาม มรรค8 ไงละจึงจะพ้นทุกข์และสุข
ทำอย่างไรจึงจะเข้าถึง มรรค8 ได้จริงๆละ? ก็บวชไงเล่า เข้าถึงมรรค8 เลย
อะไรทำให้คิดว่าเป็นการบวชละ?  ก็มนุษย์ทั่วไปย่อมมีกิเลสตัณหาอุปาทาน ขนาดกายมันยังไม่เที่ยงเลย แล้วใจละมันจะเหลือเหรอท่าน
ไม่ต้องเอาอะไรมากแค่เอาของชอบมาวางตรงหน้า แปปเดียวเท่านั้นแหละ เดี๋ยวก็เสร็จเพราะ โมหะ
(ถ้าทำตามก็เสร็จเจ้าโมหะเรียบร้อย  ถ้าไม่ทำตามก็ทรมานใจทรามานกายอีกเป็นบาปนะ)

แล้วจะทำไงดีละ? ก็ทำแบบพอดีพอเพียงสิ มีสติกำหนดรู้เท่าทันปัจจุบันไง? ตามแบบฉบับนักปฎิบัติ
แล้วจะบวชทำไมฆาระวาสก็ทำได้นี่?  งั้นจะแน่ใจได้ยังไงละว่าซักวันจะไม่เขว เพราะ โมหะ

ลองพิจารณาการบวชเป็นพระสงฆ์ และ ข้อปฎิบัติของพระสงฆ์ดูสิ จะเห็นว่ามันช่างสอดคล้องต่อ มรรค8 ยิ่งนัก


การค้นคว้าและพิจารณาทั้งหมดนี้ ผมทำมา 3 เดือน โง่บรมเลยตัวเรา กว่าจะรู้ นี่ถ้าไม่มีคำสอนของพระพุทธเจ้า คงเป็นวัวโง่ทั้งชาติ แต่ก็ไม่รู้ว่าพิจารณาถูกหรือเปล่า ต้องถามพระอย่างเดียว ผมขอฝากไว้คิดตามแล้วกันครับ หรือใครรู้ตอบได้ก็ดีนะครับ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดนะครับ


7  รวมรูปภาพต่างๆเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา พาเที่ยววัด ใน Kammatan.com Gallery / บทความดีๆ เกี่ยวกับธรรมะ / Re: ธรรมะ เตือนสติดีๆ เกี่ยวกับหน้าที่ประจำวัน กับการปฏิบัติธรรม เมื่อ: มีนาคม 14, 2010, 12:46:57 PM
สาธุๆ~ ขออนุโมธนาบุญด้วยครับ

กระผมก็เข้าใจดังเช่นนั้น เหมือนที่คุณ golfreeze เข้าใจ และ อธิบาย เป็นเช่นนั้นแล
คิดได้ก็เลยจะไปบวชแล้วครับ
8  รวมรูปภาพต่างๆเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา พาเที่ยววัด ใน Kammatan.com Gallery / บทความดีๆ เกี่ยวกับธรรมะ / Re: ธรรมะ เตือนสติดีๆ เกี่ยวกับหน้าที่ประจำวัน กับการปฏิบัติธรรม เมื่อ: มีนาคม 03, 2010, 09:21:30 PM
ชีวิตมนุษย์มันมีอยู่แค่นี้จริงๆหรือ?
ชีวิตมนุษย์มันทำทุกอย่างแล้วได้แค่นี้จริงๆหรือ?
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง จะมีประโยชน์อะไรที่ต้องมาเกิดอีก สู้อย่าเกิดดีกว่า

ทำไมต้องมีชีวิตตามกอบที่คนอื่นตั้งไว้ให้?
ทำไมต้องมีชีวิตตามกอบที่ตัวเองตั้งไว้ให้?
ไขว่คว้าหามันทุกอย่างตั้งแต่เกิดยันตาย  สุดท้ายที่หามาเอาไปไม่ได้สักอย่าง

9  การปฏิบัติของผู้ที่ได้ ฌาณ / ประสบการณ์ของผู้ที่ได้ไปนรกภูมิ / นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย เมื่อ: มีนาคม 01, 2010, 12:00:59 AM
ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย สิ่งที่อ่านเห็นเป็นไฉน?

ตัวผมมีน้องอยู่สองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง รวมตัวผมทั้งหมด3คน เกิดในครอบครัวคนจีน เชื่อเรื่องบาป เชื่อเรื่องบุญ ถูกพลั่มสอนโดยคุณแม่บังเกิดเกล้า
ให้เชื่อในสิ่งนี้แต่เด็ก ท่านสอนไม่ให้ลักขโมยของใคร สิ่งใดไม่ใช่ของเราไม่ควรเอา ถ้าลักมาเป็นเจ้าของจักต้องโดนตีด้วยกิ่งไม้ (กิ่งเฟื่องฟ้าไร้หนาม ก้านใหญ่ๆ)
เรื่องมันมีอยู่ว่า แม่ของผมเล่าให้พวกเราฟังว่า สมัยก่อนตอนเด็กๆ แม่ผมอยู่อย่างปากกัดตีนถีบ เพราะยายของผมเป็นคนจีนที่มาตั้งรกรากที่ประเทศไทย และยายแกไม่เคยรู้ธรรมะเรื่องของนรกกับสวรรค์จากพุทธศาสนา
ส่วนแม่ของผมท่านมีโอกาสได้เรียนรู้พระธรรมกับพระตอนเด็กๆมาบ้าง ท่านถึงได้สอนพวกผมมาจนถึงทุกวันนี้ตั้งแต่เด็กจนโต


แม่ผมเล่าว่าตอนเด็กทุกปีๆ วันตรุษจีน ยายของผมแกจะไปซื้อไก่มาเพื่อไหว้เทพเจ้าและไหว้คุณตาที่เสียไป มีอยู่ปีหนึ่งคุณยายผมแกไม่มีเงินไปซื้อไก่ ด้วยความไม่รู้ บาปบุญ หรือ "อวิชชา" ในเรื่องของพุทธศาสนา
แกไปจับเอาไก่ที่คุณตาผมเคยซื้อให้แม่ผมเลี้ยงมัน ตั้งแต่มันยังเป็นลูกเจี๊ยบจนมันโตใหญ่มาก ยายผมท่านเดินไปจับไก่ที่อยู่ในร้าวแล้วเอาตัวมันมาขึ้นเขียง แม่ผมท่านกลับมาจากโรงเรียนพอดี ท่านเดินไปหลังบ้าน
เหลือบไปเห็นยายกำลังจะเชือดไก่พอดี

แม่เลยถามว่า "แม่ไปซื้อไก่มาเหรอ?"
ยายแกตอบว่า "ก็ไก่ที่เลี้ยงนั่นแหละ เงินไม่พอแล้ว ไม่งั้นจะไหว้อะไร?"
ด้วยความที่แม่ของผมท่านรู้พุทธศาสนา ท่านเลยพยายามห้ามปรามอยู่นานสองนาน อีกอย่างท่านรักไก่ตัวนี้มากด้วย
แม่ผมท่านพูดว่า "แม่ไก่ตัวนี้เราช่วยกันเลี้ยงมันมานะ อีกอย่าง ถ้าพ่อยังอยู่ท่านคงไม่เห็นด้วยแน่ๆ หนูขอเลี้ยงมันต่อไม่ได้เหรอ"
ยายผมพูดว่า "ไม่งั้นจะให้ไหว้อะไรเล่า"
ทันใดนั้นยายแกก็เชือดปั๊บเลย แม่ผมไม่ทันบอกลาเลยซักคำ
แม่ผมท่านโกรธมากเลย ตรุษจีนวันนั้นท่านไม่ทานไก่ตัวนั้นเลย  วันรุ่งขึ้นยายผมก็เริ่มป่วยแบบไม่มีสาเหตุ
แม่ผมท่านเล่าว่า ตั้งแต่วันนี้นมาทุกๆปีวันตรุษจีน ยายผมจะป่วยแบบว่านอนลุกไม่ขึ้น แกบ่นว่าปวดไปทั้งตัวจนลุกไม่ขึ้น


คุณยายผมท่านมีลูกด้วยกัน 8คน เป็นชาย6คน หญิง 2คน ลูกชายท่านตายไปก่อนหน้าแล้ว 3คน ปัจจุบันเหลือชาย3คนซึ่งผมต้องเรียกว่า "อากู๋"
อากู๋ ผมแต่ละคนไม่ค่อยมีใครสนใจจะยอมเอายายผมไปอยู่ด้วยเลย  เนื่องด้วยเหตุว่าบรรดาภรรยาของอากู๋ อยากให้อากู๋เอาพ่อแม่ของภรรยาไปอยู่ด้วย

เมื่อประมาณปี50 ยายผมเริ่มชราภาพตามวัยแต่ท่านแข็งแรงมากจริงๆ(อายุ 82)ไม่ยอมอยู่นิ่งว่างเป็นทำงาน ขยันมาก ไม้เท้าไม่ใช้ด้วย ทีนี้แกเริ่มมาเป็นโรคไต ต้องฟอกไตทุกเดือน
เวลาผ่านไปนานเข้าจากเดือนเป็นฟองอาทิตย์ละครั้ง   ช่วงนั้นพ่อของผมเป็นคนต้นคิดว่าเป็นลูกสมควรกตัญญู พ่อผมท่านเป็นคนนอก เพราะแม่แต่งออก(ธรรมเนียมจีนแท้) พ่อท่านแนะว่า
ให้เรียกญาติพี่น้องมาประชุมกันลงขันธ์(เงิน)เพื่อใช้ในการฟอกไตให้คุณยาย  เพราะลำพังเงินที่แม่ผมกับพ่อผมช่วยกันหาคงไม่พอช่วยแน่

วันหนึ่งยายผมท่านเหงาอยากไปเยี่ยมค้างบ้าน เหล่าบรรดาอากู๋ ค้างได้ 2-3วัน มันก็มีเหตุทำให้ท่านเสียใจกลับมา เนื่องด้วยว่าแกไปได้ยินสะไภ้ต่อว่าอากู๋ต่างๆนาๆ  ทำนองไม่อยากให้คุณยายมาอยู่
ยายแกเลยเสียใจ เพราะถูกสะไภ้ไล่อ้อมๆ เลยมาที่บ้านผม
แม่ผมเลยพูดกับยายผมว่า "ถ้าว่างก็แวะมาค้างอยู่ที่นี่ซักอาทิตย์ก็ได้แม่ หรือจะมาค้างอาทิตย์ละ3-4วันก็ดี ถ้าฝั่งโน้นมันอยู่แล้วไม่สบายใจละก็" ยายท่านดีใจมาก เลยมาอยู่ค้าง

เรื่องมันเริ่มจากตรงนี้แหละ คุณยายผมท่านช่วงที่มาค้างบ้านผมแกชอบฝันอะไรแปลกๆ  
 คืนหนึ่งท่านร้องโอดครวนที่ห้องน้องสาวของผม  ท่านบ่นว่าอย่าโอ้ยเจ็บๆ  น้องสาวของผมก็สะดุ้งตื่นขึ้น พยายามปลุกยายของผมให้ตื่น ท่านไม่ยอมตื่นด้วยแปลกไหมละ ปลุกอยู่นาน 2-3นาที
ท่านจึงค่อยตื่นขึ้น
น้องสาวผมถามว่า "อาม่าเป็นอะไรค่ะ?"
ยายผมตอบว่า "หมามันกัดอะสิ มันกัดเจ็บมากเลย เจ็บจนปวดกระดูกเลย"
น้องสาวผมพูดว่า "อาม่าฝันไปค่ะอาม่า ไม่มีหมาหลอก ที่เท้าก็ไม่มีอะไรนี่ "
น้องสาวผมถามต่อว่า "หมาที่กัดหน้าตาไงเหรอค่ะอาม่า?"
ยายผมตอบว่า "ตัวใหญ่สีดำๆ กัดเจ็บมากเลย ไล่ก็ไม่ไป"
น้องสาวผมพูดว่า "อาม่านอนเถอะไม่มีอะไรหรอก อาม่าคิดมากไปเอง คงเพราะเหนื่อยนะ นอนเถอะ"

พอรุ่งขึ้นตอนเช้า ตื่นมาก็ไม่มีอะไรทุกคนใช้ชีวิตตามปกติ พ่อแม่ผมไปธุระข้างนอก ปล่อยให้ยายผมอยู่กับผมสามพี่น้อง
จนประมาณบ่ายโมง ยายผมท่านไม่มีอะไรทำก็เลยลงไปนอนกับพื้นดูทีวี สักพักท่านก็หลับไป ช่วงนั้นผมเดินไปเข้าห้องน้ำพอดี  ประจวบเหมาะกับน้องสาวผมเก็บผ้าเสร็จลงมาจากดาดฟ้าพอดี
ยายท่านก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา ท่านเห็นผมกำลังเดินไปห้องน้ำ พร้อมกับตำแหน่งที่ผมยืนตอนนั้นเป็นกำแพง ท่านชี้ไปที่บันได พร้อมกับถามผมว่า
คุณยายท่านถามว่า "นี่จะไปห้องน้ำเหรอ เออไปตักน้ำมาด้วยเร็วๆนะ เร็วๆเลยด้วย"
ผมถามว่า "ตักมาทำไมเหรอครับอาม่า"
คุณยายท่านพูดว่า "อ้าว ก็ตักมาดับไฟไงเร็วๆ สิ นี่ดูสิมันเริ่มลุกไหม้ใหญ่แล้ว ไหม้เต็มไปหมดเลย ไหม้ใหญ่แล้ว ไปเอามาถังนึงเลยดีกว่า เร็วๆเลยด้วย"
เท่านั้นละผมค้างไปเลยครับ หายปวดเข้าห้องน้ำละ กลัวสั่นแทนเลย  น้องสาวผมก็อึ้งไปเหมือนกัน
น้องสาวผมพูดปลอบใจท่านว่า "ไม่มีนี่อาม่า ตรงไหนไม่มีซักหน่อย  ตาฟาดมั้ง คงเป็นแสงแดดแหละ มันกระทบแล้วสะท้อนมาไงอาม่า"
คุณยายท่านก็ยังพูดต่อว่า "เออ.." แล้วท่านก็นอนลงต่อ

ตัวผมกับน้องผมรู้อยู่ในใจว่าสิ่งที่ยายผมพูดคืออะไร  แต่ทำได้แค่ปลอบใจ ท่านเท่านั้น  อายุท่านมากแล้วถ้าพูดไปกลัวจะช๊อค เลยไม่พูด
เรื่องนี้มีผมกับน้องสาวผมรู้กันอยู่แค่สองคน
ต่อมาประมาณกลางปี50 เพื่อนของคุณยายผม มาชวนคุณยายผมไปทำบุญสร้างกุศลด้วยการเทกระจาด ยายผมก็ไปทำด้วยกันกับป้าของผม ท่านไปทำโดยไม่คิดอะไร
และท้ายที่สุดมาในปี 51 คุณยายผมท่านก็เสียและจากไปในที่สุดด้วยอายุ(83) ช่วงนั้นผมก็เสียใจมากด้วย
ตอนท่านเสียแม่ผมบอกว่า คุณยายท่านเสียแบบเดียวกับที่ไก่ตัวนั้นโดน คือ เส้นเลือดในสมองแตก เลือดไหลออกทางจมูก
ช่วงปี52 เป็นช่วงที่ผมกับน้องสาวผมช่วยกันหาคำตอบในสิ่งที่คุณยายผมฝันเห็นและเห็นกลางวันแสกๆ ว่ามันคืออะไร  ศึกษาหนังสือพุทธศาสนาสมัยมัธยมปลายก็ไม่เจอ
จนกระทั่ง
ช่วงปี53ประมาณช่วงต้นเดือน  น้องสาวผมรักการอ่านหนังสือนิยายต่างๆมาก กำลังใช้อินเตอร์เน็ต search อยู่ดันไปเจอหนังสือเล่มหนึ่ง
ชื่อของหนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า"ไตรภูมิพระร่วง โดยพระยาฤทัย" และก็ซื้อมานั่งอ่าน ผมก็เห็นน้องของผมนั่งอ่านอยู่เลยสงสัยเข้าไปถาม
ตัวผมถามว่า"อ่านอะไรอะ นิยายอีกแล้วเหรอ?"
น้องสาวผมพูดว่า "ไม่ใช่ ไตรภูมิพระร่วงต่างหาก" เท่านั้นแหละ
ผมพูดกับน้องผมต่อว่า "นี่หยุดอ่านเมื่อไหร่นะ ขออ่านมั่ง อยากรู้ว่ามันคืออะไร"
พอผมได้อ่านก็ถึงบาง อ้อ...เลยว่า  "นรก" นี่เองที่ยายผมเห็นไฟไหม้นั่นคือ นรก เท่านั้นแหละสั่นเลยครับ

ผมพยายามอ่านต่อเพื่อหาว่า นรกขุมไหนหนอ?มีหมาดำตัวใหญ่ เท่านั้นแหละ
นรกนั้นมีชื่อว่า  
"อุตสุทนรก"(นรกบ่าว) อยู่ขุมที่3 ชื่อสุนัขนรก
บุปพกรรม :ผู้ใดด่าทอผู้เฒ่าผู้แก่ผู้ทรงศีลสมณะชีพราหม มันผู้นั้นต้องตกนรกโดนหมานรกตัวใหญ่เท่าช้างสาร
อันว่าหมานรกนั้นมี 5สี มีหมาดำ หมาเหลือง หมาแดง หมาขาว หมาด่าง

กัดกินจนถึงกระดูก เจ็บแสนสาหัสทุกทรมานตายแล้วเกิดอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะหมดกรรม
(ลืมบอกไปครับ เหอะๆ ยายผมท่านเวลาโกรธใครนะด่าแหลกเป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว เลยละ ตามภาษาคนเยาวราช)


วันรุ่งขึ้นผมโทรไปถามป้าของเพื่อถามไถ่สาระทุกข์สุขดิบ
ผมเลยไปถามป้าผมว่า "ตอนยายอยู่กับป้าที่บ้านของป้าท่านมีไปด่าใครไว้หรือเปล่าครับ"
ป้าผมตอบว่า "ไม่มีนี่..ทำไมเหรอ?"
ผมพูดต่อว่า "เป็นไปไม่ได้ ต้องมีสิยายต้องมีไปด่าใครไว้แน่ๆ ลองคิดดีๆหน่อยคุณป้า เพราะตอนยายอยู่กับผมแกชอบเห็นโน่นเห็นนี่ประจำเลย"
ป้าผมนิ่งไปพักใหญ่ๆ
ป้าผมพูดต่อว่า"จะเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาพูดทำไม อาม่าก็เสียไป2ปีละ ฟื้นไปก็ไม่ได้อะไร" แล้วท่านป้าผมก็เปลี่ยนเรื่องพูด
ผมเลยสงสัยมาทุกวันนี้ว่าป้าผมต้องไปยุให้คุณยายผมด่าใครแน่ เพราะป้าผมท่านเป็นคนปากจัดมากๆ ด่าใครนี่หลุดออกมาแต่ละอย่างน่าเกลียดมาก

เรื่องทั้งหมดนี้ ผมเฝ้าศึกษาตลอดจนไปเจอคำๆหนึ่งของพระพุทธเจ้าว่า
" ไม่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นมาโดยความบังเอิญ ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นด้วยเหตุและผลในตัว มันเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป "
ไม่อยากให้เชื่อหรอกครับ แต่ผมขอเชื่อก่อนคนแรกเพราะเจอกับตัวเองเลยสยอง
10  กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com / ท่านใดได้ฟัง cd เจริญสติปัฏฐาน แล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ / Re: คำคม เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจในธรรมะ ที่เกิดระหว่างการปฏิบัติธรรม เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2009, 12:54:36 PM
ฟังจบแล้วละ แต่ก็ยังไม่แน่ใจเลยครับ เหมือนจะบอกให้ทำตัวเป็นธรรมชาติ แต่ไม่เป็นธรรมชาติคือระลึกรู้ใช่ไหม?

สรุปจากที่ฟังแล้วเข้าใจนะคือ นั่งไม่ต้องเกรง นั่งสมาธิแบบธรรมชาติสุดๆ(ปล่อยวาง) แต่มีข้อแม้ว่าต้องนั่งแบบรู้ตัวมีสติ ดูอารมณ์ที่มันเกิดอย่าไปจับยึด จับแล้วปล่อย ใจมันจะคิดให้มันคิด แต่ต้องระลึกรู้ว่าคิดใช่ไหมครับ  ผมเป็นพวกชอบนั่งคิดวิเคราห์วางแผนนะ ไม่รู้เข้าใจถูกไหม?



11  กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com / ท่านใดได้ฟัง cd เจริญสติปัฏฐาน แล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ / Re: ท่านใด ได้รับ cd แล้ว ได้ลองปฏิบัติหรือมีข้อสงสัย ตรงจุดไหน บอกเล่ากันได้ เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2009, 01:33:21 AM
ตัวผมไม่รู้ว่าเข้าใจถูกหรือเปล่านะ!

ปุจฉา ! (ถามเยอะครับเพราะกำลังสงสัยไม่รู้เข้าใจถูกไหม)

การนั่งวิปัสสนา คือ การเอาใจไประลึกรู้ตามอาการของกายและใจ ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ (นั่งไม่เกรงตัวปล่อยตามธรรมชาติ) ใช่ไหมครับ? แล้วระลึกรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงไม่บิดเบือนใช่ไหมครับ?  ฮืม

(เรื่องนิมิตเคยเห็นแล้วครับ เกิดจากความไม่รู้ว่าเป็น สมถะกรรมฐาน เพราะนั่งแบบไม่รู้ แต่มีคนเคาะเสียงเลยระลึกรู้เท่าทันพอดี สติกลับมาก็เลยหลุดจากนิมิต เลยกลายเป็นวิปัสสนา ซะงั้น สิ่งที่ได้จากตอนนั้คือจิตมันบอกเราว่า "ฟุ้งซ่าน" มารู้ทีหลังจากการสอบถาม อาจารย์พี่เลี้ยงครับ ว่าสมาธิ มี 2 แบบ)

ทีนี้ผมอยากทราบว่า "เวทนาที่เกิดขึ้นตลอดเวลาไม่ยอมดับ" จากการนั่งวิปัสสนา เกิน 1ช.ม. ผมควรทำอย่างไร? ระหว่าง
1)ระลึกรู้เท่าทันตามอาการที่เกิดขึ้นไปเรื่อยๆ (ณ ขณะนี้จับ ลมหายใจ เข้า-ออกไม่เจอเบาจนละเอียดมากจับไม่ได้ เลยจับปวดแทน) 
2)ปล่อยวางไม่กำหนดคำบริกรรมใดๆทั้งสิ้น ละทิ้งกะทั่งความปวด ด้วยใจที่ยึดมั่นว่า "ถ้าขามันจะหักก็ให้มันรู้ไป" แต่ใจมันก็ยังไปสนใจอยู่ดี ทำอย่างไงดี? ฮืม

แล้วก็อีกคำถามครับ อาการที่รู้ตัวว่าหลังเริ่มงอ แล้วกลับมาตรงอีกนี่ใช่สติหรือเปล่าครับ? ฮืม
12  กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com / แจกcdธรรมะ+หนังสือ ปฏิบัติธรรมฟรี / Re: แจก CD ธรรมะ การปฏิบัติสมาธิ และ สติปัฏฐาน ฟรีๆ เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2009, 09:15:40 AM
ขอ อนุโมฑนาบุญด้วยนะครับ

ขอเจริญสติปัตฐาน4 ด้วยคนนะครับ

บ้านเลขที่446  หมู่บ้านอยู่เจริญ29
ถนนรัชดาฯ  แขวงสามเสนนอก  
เขตห้วยขวาง  กรุงเทพฯ 10310
ชื่อคุณเจ ครับ 086-568-xxxx ยิ้มกว้างๆ

+++++++
จัดส่งให้แล้วนะครับ
กอล์ฟ@kammatan.com

ได้รับแล้วครับ ขอบคุณครับ
เกรงใจสุดๆเลยEMSด้วยนะเนี่ย ขอให้บุญกุศลนี้ส่งผลให้แก่ผู้ส่ง,ผู้แจก,ผู้จัดทำ ให้ คิด ทำสิ่งใดสมปราถนา
เจริญด้วยสติ สมาธิและปัญญา นั่งวิปัสสนากรรมฐาน ก็ขอให้เจริญบรรลุมักผลนิพพาน โดยเร็วเทอญฯ   สาธุสาธุสาธุ -/\- 
13  กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com / แจกcdธรรมะ+หนังสือ ปฏิบัติธรรมฟรี / Re: แจก CD ธรรมะ การปฏิบัติสมาธิ และ สติปัฏฐาน ฟรีๆ เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2009, 10:29:14 PM
ขอ อนุโมฑนาบุญด้วยนะครับ

ขอเจริญสติปัตฐาน4 ด้วยคนนะครับ

บ้านเลขที่446  หมู่บ้านอยู่เจริญ29
ถนนรัชดาฯ  แขวงสามเสนนอก  
เขตห้วยขวาง  กรุงเทพฯ 10310
ชื่อคุณเจ ครับ 086-568-xxxx ยิ้มกว้างๆ

+++++++
จัดส่งให้แล้วนะครับ
กอล์ฟ@kammatan.com
หน้า: [1]