KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับ

กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com => งานกฐิน สร้างวัด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างพระพุทธรูป บริจาคโลหิต เพื่อการกุศล ช่วยเหลือ => ข้อความที่เริ่มโดย: golfreeze ที่ พฤษภาคม 04, 2013, 12:53:52 PM



หัวข้อ: มูลนิธิธัมมคีรี ณ.วัดป่าบ้านใหม่ จ.แม่ฮ่องสอน โดยพระอาจารย์ชาคิโน วัดหนองป่าพง
เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ พฤษภาคม 04, 2013, 12:53:52 PM
(http://kammatan.com/gallary/images/20130504125323_ajan_chakino.jpg)

การเดินทางคือการเรียนรู้โลกกว้าง ยิ่งได้เดินทางท่องเที่ยวมากเท่าไร ก็จะยิ่งได้รู้จักโลกมากขึ้นเท่านั้น
และบางครั้งก็ทำให้เห็นโลกใบใหม่ที่เป็นความสุขสงบอันแท้จริง เหมือนอย่าง “พระอาจารย์ชาคิโน”
ช่างภาพมือทองของมาเลเซีย ที่ได้เดินทางท่องเที่ยวถ่ายภาพไปทั่วโลก
ได้รับรางวัลและชื่อเสียงจากการประกวดภาพถ่ายมากมาย แต่สุดท้ายท่านก็กลับเลือกที่จะเดินทางต่อในโลกแห่งธรรม
ละทิ้งชื่อเสียงและเงินทองไว้เบื้องหลัง

“พระอาจารย์ชาคิโน” หรือชื่อเดิม หยุ่งฝางหลา เป็นชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน
ชีวิตในทางโลกท่านเรียนจบปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต
จากสถาบันศิลปะมาเลเซีย (Malaysian Institute of Art) ก่อนจะยึดอาชีพช่างภาพตามที่ได้ร่ำเรียนมา
 ฝีมือและมุมมองที่เฉียบคมทำให้ท่านได้รับรางวัลจากการประกวดภาพถ่ายมากมาย
ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคอาเซียนรวมแล้วกว่า 40 ชิ้น โดยรางวัลใหญ่และน่าภาคภูมิใจที่สุดก็คือ
รางวัลชนะเลิศการแข่งขันภาพถ่ายอาเซียนในปี 2533 และด้วยความที่ไม่มีภาระด้านครอบครัว
เงินรางวัลที่ได้มาส่วนใหญ่จึงนำไปถวายทำบุญให้วัดต่างๆ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นก้าวเล็กๆ
 ที่ทำให้ชีวิตเริ่มหันเหมาสู่เส้นทางธรรมก็เป็นได้

แต่การเริ่มต้นในวิถีสมณเพศที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อพระอาจารย์อายุได้ 29 ปี
แม้จะได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อถ่ายภาพ ได้มีทั้งชื่อเสียงและเงินทอง
แต่พระอาจารย์กลับเกิดความคิดว่า “ความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใด การมีเงินทำให้ตัวเราเองมีความสุขได้จริงหรือ?”
คำถามที่เกิดขึ้นในใจได้เปลี่ยนแปลงชีวิตพระอาจารย์ให้หันหน้าเข้าสู่เส้นทางแห่งธรรม
 ละทิ้งวิถีทางโลกและเริ่มต้นเรียนรู้หลักธรรมคำสั่งสอนในศาสนาพุทธ

ในช่วงแรกพระอาจารย์ชาคิโนได้บวชเป็นพระสงฆ์นิกายมหายานที่วัด อัง ฮก สี ที่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย
เป็นเวลาราว 1 ปีครึ่ง ได้หมั่นศึกษาธรรมะอย่างเคร่งครัด แต่ก็ไม่สามารถค้นหาตัวตนของตัวเองอย่างแท้จริงได้
จึงตัดสินใจเข้าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและได้มีโอกาสเดินทางไปจาริกในประเทศไทย
และประเทศนิวซีแลนด์เพื่อแสวงหาธรรมะและเรียนรู้หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา
แต่ยังไม่สามารถค้นพบตัวตนอย่างแท้จริง จึงเดินทางมายังเมืองไทยอีกครั้ง
และอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์กับพระอาจารย์กัณหา ที่วัดแพร่ธรรมมาราม จ.แพร่
โดยได้อยู่ศึกษาและเรียนรู้ธรรมมะอยู่ 5 พรรษา แต่จิตยังไม่มีที่พึ่ง จึงตัดสินใจลาสิกขาบท
ก่อนจะกลับมาบวชอีกครั้งในปี 2548 โดยได้มาบวชเรียนในสายปฏิบัติของหลวงพ่อชา สุภัทโท
โดยมีพระราชภาวนาวิกรม (พระอาจารย์เลี่ยม ฐิตธมฺโม) เป็นพระอุปัชฌาย์
รับการฝึกปฏิบัติที่วัดป่านานาชาติและวัดป่าหนองพง จ.อุบลราชธานี
มีโอกาสศึกษาธรรมะอย่างแท้จริง เริ่มเรียนรู้วินัย เรียนรู้ถึงที่มาแห่งเหตุและผล
เรียนรู้ถึงความดับทุกข์ โดยเรียนรู้ถึงแก่นแท้ของการธุดงค์คืออะไร

หากจะจัดลำดับพระต่างชาติที่มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาและเมืองไทยแล้ว
พระอาจารย์ชาคิในภิกขุย่อมมีความโดดเด่นในระดับต้นๆ และสิ่งที่จะกล่าวว่าจากนี้ไปคือ
จุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของพระอาจารย์ชาคิในภิกขุ รวมไปถึงเด็กชาวเขาเด็กชาวดอยผู้ด้อยโอกาสทางสังคมของไทยทั้งหลาย

ด้านการธุดงค์นั้นจัดเป็นพระภิกษุอีกรูปหนึ่งที่มีความแก่กล้าด้านนี้มาก
 เพราะได้เดินทางธุดงค์มาแล้วกว่า 4,000 กิโลเมตร จากอำเภอหาดใหญ่-ถึงจังหวัดแพร่
เข้าสู่จังหวัดน่าน เชียงราย ท้ายที่สุดแล้วก็มาประจำอยู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา

พระอาจารย์ชาคิโน เล่าถึงชีวิตช่วงที่บวชว่า “ระหว่างครองสมณเพศได้ออกเดินธุดงค์ไปในถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศไทย
 เหมือนการไปท่องเที่ยวทั่วไปแต่เป็นการท่องเที่ยวในทางธรรม รวมเวลากว่าทศวรรษ และในช่วง 2-3 ปีหลัง
ได้พักอาศัยจำวัดในถ้ำที่ห่างไกลของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งในช่วงนี้เองได้เข้าไปคลุกคลีกับชาวเขาและชนกลุ่มน้อย
 ได้เห็นเด็กกำพร้าและยากจน จึงเกิดความคิดที่จะช่วยเด็กๆ เหล่านั้นให้มีชีวิตที่ดีขึ้น”

เหตุการณ์ที่ทำให้พระอาจารย์มีความคิดที่จะช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้ก็เพราะเมื่อได้ออกบิณฑบาตในหมู่บ้านเล็กๆ
แห่งนั้นซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขายากจน ขณะปลงใจคิดว่าคงไม่ได้อะไร ก็มีหญิงชาวเขาคนหนึ่งเอาข้าวที่เพิ่งหุงใหม่ๆ
ออกมาใส่บาตร มีลูกตัวเล็กๆ หน้าตามอมแมมมองข้าวที่แม่ใส่บาตรด้วยตาละห้อย มองจนน้ำลายไหล
ทำให้พระอาจารย์ซาบซึ้งในความศรัทธาของหญิงชาวเขาที่แม้บ้านจะยากจน ข้าวก้อนหนึ่งสำหรับ
พวกเขาก็คงมีความสำคัญมากแต่ก็ยังนำมาใส่บาตร ซึ่งมันเป็นภาพที่ท่านจดจำมาจนถึงวันนี้และก่อนจะฉันข้าวช้อนนั้น
วันนั้นท่านแทบฉันข้าวก้อนนั้นไม่ลง รำพึงกับตัวเองว่า เราก็เคยทำงานรายได้เดือนละเป็นหมื่นเป็นแสน
แต่กลับต้องมาแย่งข้าวเด็กกิน ตั้งแต่นั้นท่านก็ตั้งใจภาวนาและคิดหาทางตอบแทนบุญคุณของชาวเขาในหมู่บ้านนั้นตลอดมา

หลังจากนั้นพระอาจารย์จึงได้ก่อตั้ง “มูลนิธิธัมมคีรี” ขึ้นเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2553
ณ.วัดป่าบ้านใหม่ ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
โดยมีนักธุรกิจผู้ใจบุญชาวมาเลเซียร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อสร้างสถานที่ทำการแห่งใหม่วงเงิน 5 ล้านบาท
สำหรับจัดซื้อที่ดินจำนวน 5 ไร่ในเบื้องต้นโดยมีจุดประสงค์หลักนอกจากจะส่งเสริมและ
สนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแล้ว ก็ยังมีจุดมุ่งหมายในการช่วยเหลือและสนับสนุนด้านทุนการศึกษา
 ทุนอุปการะเด็กกำพร้า และเด็กด้อยโอกาส โดยพระอาจารย์ชาคิโนหวังที่จะให้เด็กเหล่านี้ได้เติบโตเป็นพลเมือง
ที่ดีของสังคมต่อไปในอนาคต มูลนิธิได้มีการจัดตั้งโครงการดีๆ ขึ้นมา อาทิ โครงการปฏิบัติธรรมนำชีวิต
และสร้างเสริมนักเรียนหัวใจเพชรเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ซึ่งในปัจจุบันก็มีจำนวนถึง 25 รุ่นแล้ว
ในช่วงเริ่มแรกผู้อุปถัมภ์หลักของมูลนิธิก็คือน้องสาวของพระอาจารย์ชาคิโน แต่ต่อมาเมื่อเด็กๆ
ที่มาขอรับความเมตตาจากพระอาจารย์มีมากขึ้นเงินสนับสนุนที่ได้จากน้องสาวของพระอาจารย์จึงไม่เพียงพอ

มูลนิธิธัมมคีรี ช่วยชาวดอยอย่างแท้จริง จากข้าว 1 ช้อน และความเมตตาอันเกิดจากแก่นแท้แห่งธรรมะจึง
เป็นแรงบันดาลอย่างสูงยิ่งทำให้ พระอาจารย์ชาคิโนภิกขุมารู้จักกับอาจารย์จินตนา ทองทะจิตร์
ซึ่งเป็นครูนักปฏิบัติธรรมอันดับแถวหน้าของแม่ฮ่องสอน มีเป้าหมายนำนักเรียนชาวเขาชาวม้ง ชาวดอย
เข้าอบรมปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาร่วมกัน
จัดอบรมธรรมมาอย่างต่อเนื่องรวมแล้วหลายครั้ง มีผู้ผ่านการอบรมไปแล้วจำนวนนับพันราย
ขยายเครือข่ายครอบคลุมไปสู่หลายอำเภอในจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ซึ่งข่าวการฝึกปฏิบัติธรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน ทั้งในระดับจังหวัด ระดับรัฐบาลด้วย
ซึ่งเห็นว่าเป็นงานทรงคุณค่าอย่างยิ่ง ต่อมาพระอาจารย์ชาคิในภิกขุ ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือ
ด้วยการจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อการศึกษา โดยเน้นเด็กกำพร้าเด็กด้อยโอกาสที่เป็นชาวเขา ชาวดอย ทั้งสิ้น


มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินฝึกอบรมปฏิบัติธรรม เพื่อมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน
และเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าชาวเขาชาวดอย เลี้ยงเด็กกำพร้าและด้อยโอกาส โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง
 ที่ไม่สามารถมีโอกาสแม้ได้บวชเรียนอย่างเด็กผู้ชาย ทำให้พลาดโอกาสทางการศึกษาไปอย่างน่าเสียดาย
และได้ให้การอุปถัมภ์เด็กนักเรียนที่กำลังศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ระดับประถม ระดับมัธยมต้น-มัธยมปลาย
 ซึ่งทั้งหมดล้วนได้รับทุนชาคิโนภิกขุ ทั้งสิ้น

ปัจจุบัน! งบประมาณดำเนินการลดน้อยลงไปมาก เนื่องจากโยมอุปฐากคือน้องสาวที่มาเลเซียไม่มีกำลังบริจาคแล้ว
แต่มูลนิธิธัมมคีรีจะต้องดำเนินต่อไปอย่างมุ่งมั่น เพราะได้รับการสนับสนุนจากพระอาจารย์ชื่อดังสายธุดงค์ทั่วประเทศ
ถึงตรงนี้! ก็ย่อมเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า พระพุทธศาสนานั้นมิได้มีการปิดกั้นพลังแห่งศรัทธาแต่อย่างใดแม้ว่าผู้คน
เชื้อชาติจะอยู่บนสถานที่แห่งใดในโลก

ในกรณีของพระอาจารย์ชาคิโนภิกขุ แม้จะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลฝ่าขุนเขาหลายหมื่นโยชน์ แต่ที่สุดแล้ว
ก็สามารถค้นหาสัจธรรมให้กับตัวเอง แล้วมอบให้กับผู้คนอีกหลายหมื่นหลายพันชีวิตได้หลุดพันจากบ่วงทุกข์


---------------------------------------------

ท่านที่มีจิตศรัทธา สามารถร่วมสนับสนุนโครงการได้ โดยโอนเข้าบัญชี
"มูลนิธิธัมมคีรี"

ธ. กรุงไทย สาขาแม่ฮ่องสอน เลขที่บัญชี 508-0-17517-6
ธ. กรุงเทพ สาขาแม่ฮ่องสอน เลขที่บัญชี 379-0-29856-0




ขอบพระคุณข้อมูลจาก : FB กลุ่ม สาขาวัดหนองป่าพง


หัวข้อ: Re: มูลนิธิธัมมคีรี ณ.วัดป่าบ้านใหม่ จ.แม่ฮ่องสอน โดยพระอาจารย์ชาคิโน วัดหนองป่าพง
เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ พฤษภาคม 04, 2013, 07:22:20 PM
โมทนาสาธุ


หัวข้อ: Re: มูลนิธิธัมมคีรี ณ.วัดป่าบ้านใหม่ จ.แม่ฮ่องสอน โดยพระอาจารย์ชาคิโน วัดหนองป่าพง
เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ สิงหาคม 17, 2014, 10:33:41 AM
New Heart New World 2 : พระอาจารย์ชาคิโนภิกขุ (http://www.youtube.com/watch?v=yXtdP9y10u4#ws)
 
http://www.youtube.com/watch?v=yXtdP9y10u4#ws
เกี่ยวกับท่านพระอาจารย์ชาคิโน ท่านสนใจธรรม และเข้ามาเรียนธรรม ณ​ วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี