KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับ

ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 => ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ => ข้อความที่เริ่มโดย: phonsakw ที่ เมษายน 29, 2012, 05:01:29 PM



หัวข้อ: วิญญาณธาตุ และขันธ์ 5 เวียนว่ายตายเกิดเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์แบบนี้
เริ่มหัวข้อโดย: phonsakw ที่ เมษายน 29, 2012, 05:01:29 PM
วิญญาณเวียนว่ายตายเกิด  มันทำกันอย่างนี้:

1. ขันธ์ 5 = ร่างกาย+วิญญาณขันธ์ ของคุณกับผมในปัจจุบัน   มันก็คือวิญญาณธาตุ หรือจิตเดิมของคุณกับผม แปลงเปลี่ยนเป็นนามรูป(ขันธ์ 5)

2. ขันธ์ 5 = ร่างกาย+วิญญาณขันธ์ สิ่งเหล่านี้มันตายห่าไปได้  ตายหมายถึง วิญญานขันธ์ ตายดับไปพร้อมกาย 

สิ่งนี้ (ขันธ์ 5) ไม่มีเวียนว่ายตายเกิดแล้วครับ  ตายห่าตายโหงแล้ว  ก็ตายไปเลย

3. แต่ขันธ์ 5 ของคุณกับผม  ตลอดทั้งชีวิตของพวกเรา  เราเสือกไปคิดปรุงแต่ง  และไปทำดีทำชั่วตลอดเวลา  การคิดปรุงแต่งและการทำความดีความชั่วของเรา มันดันค่อยๆไปสร้างวิญญาณธาตุ หรือกายทิพย์ หรือจิตดวงใหม่ขึ้นมา

แล้วไอ้จิตดวงใหม่ของเรา  มันจะออกมาจากร่างกายและวิญญาณขันธ์ได้  เมื่อขันธ์ 5 ของเราตายห่าแล้วเท่านั้น 

4. นอกจากคนที่ฝึกจิตถึงขั้น  คนพวกนี้รวมถึงผมด้วย  สามารถถอดจิตดวงใหม่(กายทิพย์ดวงใหม่)ออกมาก่อนตายได้ 

5. สิ่งที่เวียนว่ายตายเกิดคือ จิตดวงใหม่(กายทิพย์ดวงใหม่)นั่นเอง  จิตดวงใหม่มันจะบึนทึกความทรงจำ+กรรมดีกรรมชั่วของขันธ์ 5 เดิมที่ตายห่าไปแล้ว

6. เสร็จแล้วจิตดวงใหม่(กายทิพย์ดวงใหม่) ไปเกิด  คือไปเปลี่ยนเป็นขันธ์ 5 อันใหม่ออกมา

7.  พอขันธ์ 5 อันใหม่ตายห่าอีก  ก็เกิดจิตดวงใหม่อีกดวงขึ้นมาอีก  จิตดวงใหมล่าสุด มันก็ได้บันทึกความจำ+กรรมดีกรรมชั่วที่ขันธ์ 5 ชาตินั้นก่อไว้แล้ว

8.  แล้ว...จิตดวงใหม่สุดท้าย  ก็ไปเกิดอีก คือไปเปลี่ยนเป็นขันธ์ 5 อันใหม่อีกอันออกมาอีก  แล้วมันก็ต้องรับวิบากกรรมดีและชั่วจากกรรมที่จิตดวงเดิมๆก่อไว้ในชาติก่อนๆ

9.  จนกว่าขันธ์ 5 สุดท้าย จะชดใช้กรรมดีกรรมชั่วของขันธ์ 5 ชาติก่อนๆๆๆหน้านั้น ไปจนหมดสิ้นแล้ว  มันจึงจะหมดกรรม  ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดใช้กรรมใดๆอีก

 หรือจนกว่าขันธ์ 5 มันจะเลิกคิดปรุงแต่ง เลิกก่อกรรมแล้ว  มันก็จะกลายเป้นจิตปภัสสร หรือจิตบริสุทธิ์ ดังตอนเริ่มแรกที่มันเคยเป็น

สรุป

วิญญาณธาตุ ทำให้เกิด นามรูป หรือ ขันธ์ 5   พอขันธ์ 5 ตาย  ก็ไปทำให้เกิดวิญญาณธาตุดวงใหม่  แล้ววิญญาณธาตุดวงใหม่ก็ไปทำให้เกิด  นามรูป หรือ ขันธ์ 5 ดวงใหม่ขึ้นมาอีก  ไปเรื่อยๆอย่างนี้

การวนเวียนสร้างวิญญาณ และขันธ์ 5 ไปเรื่อยๆแบบนี้ เรียกว่าเวียนว่ายตายเกิด หรือสังสารวัฏฏ์

มันจะสิ้นสุดเมื่อเราใช้กรรมเก่าๆๆๆๆๆๆๆหมดแล้ว ซึ่งมันเยอะเป็นอนันต์   ดังนั้น เราจะให้การเวียนว่ายตายเกิด หรือสังสารวัฏฏ์ของเราจบ   เราจึงต้องเลิกคิดปรุงแต่ง เลิกก่อกรรมทางใจอีก  คือ ต้องเป็นพระอรหันต์ เท่านั้น


หัวข้อ: Re: วิญญาณธาตุ และขันธ์ 5 เวียนว่ายตายเกิดเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์แบบนี้
เริ่มหัวข้อโดย: phonsakw ที่ เมษายน 30, 2012, 12:58:54 PM
คุณเมืองแก้วถาม

จากที่ผมอ่านข้อความของท่านเช่น 6. เสร็จแล้วจิตดวงใหม่(กายทิพย์ดวงใหม่) ไปเกิด คือไปเปลี่ยนเป็นขันธ์ 5 อันใหม่ออกมา

ผมสนใจขอเรียนถามความเห้นความรู้ของท่านหน่อยครับ 1.กายทิพย์นี้จะสะสมไปเอากรรมของขันธ์ใหม่ รวมเข้าไปอีกเรื่อยๆ หรือว่ากายทิพย์ก็เกิดใหม่(ซึ่งอันนี้น่าจะผิดเพราะกรรมเก่ามันยังตามมาอีก)

และที่ท่านบอกว่า2.ถอดกายทิพย์ก่อนขันธ์5ตาย นี้ทำได้จริงหรือ 3.ถ้าจริงแล้วกายทิพย์นี้จะทรงสติสัมปะชัญญะ(ขออภัยเขียนไม่ถูกครับ)มากเพียงพอที่จะเลือกที่จะเป็นจะเลือกเกิดตามปัญญาหรือภาระกิจอย่าไรได้หรือไม่

อีกคำถามครับ แล้ว4.กายทิพย์จะเป็น หนึ่งต่อหนึ่ง หรือ แตกเป็นหลายดวงครับ(คือผมได้รู้มาว่าบางคนมาเกิดเป็นหลายคน ซึ่งอาจจะเกิดจากจิต(กายทิพย์)รับรู้มาเลียนแบบจิตอื่นกลายเป็นคนอื่น จึงทำให้เหมือนกับคนเดียวไปเกิดเป็นหลายคน)


ตอบ

1.  กายทิพย์เริ่มต้นของเรา ก็คือตอนที่จิตปภัสสรติดอวิชชา ติดกิเลส ติดตัณหา  กายทิพย์ตัวแรก ได้กลายเป็นขันธ์ 5 มนุษย์ตัวแรกของคุณ  พวกนั้นตายไปเป็นล้านๆๆชาติแล้วครับ  จึงเรียกว่าสังสารวัฏฏ์

ผมกำลังหมายความว่า  กายทิพย์ในชาติหน้าของคุณก็เป็นกายทิพย์ที่ออกมาจากกายเนื้อ(ขันธ์ 5)ของคุณในชาตินี้ กายเนื้อ(ขันธ์ 5)ของคุณในชาตินี้ก็มาจากกายทิพย์ของคุณแปลงกายลงมา

บุญกรรมของคุณในชาติก่อนๆของคุณ  ก็ต้องไปบวกกับบุญกรรมในชาตินี้ของคุณ  มันเก็บสะสมอยู่ในกายทิพย์ของคุณี่จะออกจากร่างเมื่อคุณตาย

2. ถอดกายทิพย์ทำได้จริงครับ  คุณก็ถอดกายทิพย์เล่นประจำ ก็กายฝันของคุณนั่นแหละ  เพียงแต่คุณบังคับบัญชามันไม่ได้  เพราะไม่มีสติในความฝัน  คนที่มีสติในตอนฝัน  ก็คือคนที่ถอดกายทิพย์ได้แบบมีสติ

3.  สติปัญญาของคุณในชาติหน้า  จะเกิดจากผลบุญผลกรรมของคุณในชาตินี้ 

4. หลวงพ่อฤาษีบอกชัดว่า พ่อ(พระปฐมพุทธเจ้าที่ไม่ใช่มนุษย์)ให้มาดวงเดียว  พวกที่มีหลายจิต(หลายกายทิพย์) ก็พวกที่เป็นหน่อพุทธภูมิ เช่น พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ ท่านมีหลายจิต(หลายกายทิพย์)  ไปเกิดเป็นหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด  หลวงพ่อโต  ในขณะที่พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ก็ยังอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตเหมือนเดิม