แสดงกระทู้
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8
91  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / กำลังใจ จากครูบา อาจารย์ ในการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 / Re: ทำกรรมฐานควบคู่กับวิปัสสนาก็ได้นะครับ เมื่อ: มีนาคม 20, 2012, 06:21:49 PM
1.พุทธะ  คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน  
ผู้ใดเห็นทุกข์(สภาวะที่ทนได้อยาก มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา) ผู้นั้นเห็นธรรม
ผู้ใดธรรม   ผู้นั้นเห็นเรา  (ตถาคต)

อ้างถึง
1.ท่านใช้วิธีใดตรวจสอบว่าพระพุทธเจ้าที่ท่านเห็นนั้นจริง หรือมารปลอมตัวมา
  ก่อนอื่นเราต้องรู้จักพระพุทธเจ้าที่แท้จริงก่อน

มีคำถามว่า  พระพุทธเจ้าประสูตร เจ้าชายสิทธัตถะอายุได้เท่าไร?
บางคนอาจจะงง ว่าเป็นคนๆเดียวกันนี้น่า  ตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติใหม่ๆเรายังไม่เรียกพระองค์ว่าพระพุทธเจ้า ตอนนั้นพระองค์ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่  จนกระทั้งพระองค์ทรงตรัสรู้ ในธรรมอริยสัจจ์ ๔   ตอนพระชนมายุ ๓๕ เราจึงได้เรียกพระองค์ว่าพระพุทธเจ้า   เพราะฉนั้น  รูปร่างหน้าตาของพระพุทธเจ้า จริงๆ ก็คือ ธรรม อริยสัจจ์ ๔  นั้นเอง

พระพุทธเจ้าทรงตรัสกับพระวักลิที่หลงไหลในรูปเนื้อของพระองค์ว่าพระวักกลิติดตามดูพระศาสดาตลอดเวลา เว้นเวลาฉันอาหารเท่านั้น พระศาสดาทรงรอคอยความแก่กล้าแห่งญาณของเธอ จึงไม่ตรัสอะไร ครั้นทราบว่าญาณของเธอแก่กล้าแล้ว จึงได้ตรัสแก่เธอว่า วักกลิ จะมีประโยชน์อะไรกับการดูร่างกายที่เปื่อยเน่า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นย่อมเห็นเรา ผู้ใดเห็นเราผู้นั้นย่อมเห็นธรรม ดูก่อนวักกลิ บุคคลผู้เห็นธรรมชื่อว่าเห็นเรา บุคคลผู้เห็นเราชื่อว่า ย่อมเห็นธรรม
  

เพราะฉนั้น ผู้ใดก็ตามหากปฏิบัติธรรม เห็นอริยสัจจ์ ๔  รู้ทุกข์ รู้เหตุแห่งทุกข์ สามารถดับทุกข์ได้ รู้วิธีที่ทำให้ทุกข์ดับ(วิธีทำให้มรรคเกิด) อย่างแจ่มแจ้งแล้วผูนั้นชื่อว่าอยู่ใกล้พระองค์ ได้เห็นพระองค์    

ไม่ได้หมายความว่าเห็นรูปร่างหน้าตาของพระองค์ว่าหน้าตาอย่างนี้ จมูกแบบนี้ คิ้ว คาง แบบนี้ คือพระพุทธเจ้า  ถ้าหากถือเอารูปร่างหน้าตา
อาจมีการปลอมกันได้ เหมือนพระเครื่องที่ขายกันตามตลาด

2.2.ท่านฝึกสมาธิโดยใช้กรรมฐานกองใด

   สะติ เตสัง นิวาระนัง   สติเป็นเครื่องกั้นกระแส (ความชั่วทั้งหลาย)

สติปัฏฐาน 4 เป็นหลักธรรมที่อยู่ในมหาสติปัฏฐานสูตร
 เป็นข้อปฏิบัติเพื่อรู้แจ้ง คือเข้าใจตามเป็นจริงของสิ่งทั้งปวงโดยไม่ถูกกิเลสครอบงำ
สติปัฏฐานมี 4  คือ มีสติรู้เท่าทันตามความเป็นจริงทางกาย   ทางเวทนา  ทางจิต และ ทางธรรม
92  ห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆตามประสาชาวกรรมฐาน / คุยกันสบายๆ ตามประสาชาวกรรมฐาน.คอม / Re: พูดมากเสียมากพูดน้อยเสียน้อย ไม่พูดไม่เสีย นิ่งเสียโพธิสัตว์ พูดมากเหลือคณานับ.. เมื่อ: มีนาคม 19, 2012, 10:38:20 PM
รับทราบ  ขออภัยที่เข้าใจผิด
ยังงัยเราก็อยู่ในเวปศาสนาผู้ที่เข้ามาก็ถือว่าเป็นกัลยาณมิตร ผู้ใผ่ในทางบุญกันทั้งนั้น ค่อยๆพูดค่อยๆจากันใช่ธรรมะที่ได้ศึกษามาพูดคุยกันโดยที่การศึกษาธรรมะที่เสวนากันนั้นให้เป็นไปเพื่อประโยชน์เกิดปัญญา  เกิดบุญ (ธรรมเสวนามัย) ได้นำไปประพฤติปฏิบัติ   ไม่ได้โต้เถียงกันเพื่อเกิดอัตตา 

                       ( คำสอนหลวงปู่ดุลย์ )                คิดไม่ถึง

         สำนักปฏิบัติแห่งหนึ่ง  ซึ่งเป็นสาขาของหลวงปู่นี่นเอง  อยู่ด้วยกันเฉพาะพระประมาณห้าหกรูป  อยากจะเคร่งครัดเป็นพิเศษ  ถึงขั้นสมาทานไม่พูดจากันตลอดพรรษา  คือ  ไม่ให้มีเสียงเป็นคำพูดออกมาจากปากใคร  ยกเว้นการสวดมนต์ทำวัตร  หรือสวดปาติโมกข์เท่านั้น  ครั้นออกพรรษาแล้ว  พากันไปกราบหลวงปู่  เล่าถึงการปฏิบัติอย่างเคร่งของพวกตนว่า  นอกจากปฏิบัติข้อวัตรอย่างอื่นแล้วสามารถหยุดพูดได้ตลอดพรรษาด้วย ฯ

         หลวงปู่ฟังฟังแล้วยิ้มหน่อยหนึ่ง พูดว่า

         "ดีเหมือนกัน  เมื่อไม่พูดก็ไม่มีโทษทางวาจา  แต่ที่ว่าหยุดพูดได้นั้นเป็นไปไม่ได้หรอก  นอกจากพระอริยบุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติชั้นละเอียดดับสัญญาเวทนาเท่านั้นแหละที่ไม่พูดได้  นอกนั้นพูดทั้งวันทั้งคืน  ยิ่งพวกที่ตั้งปฏิญาณว่าจะไม่พูดนั่นแหละยิ่งพูดมากกว่าคนอื่น  เพียงแต่ไม่ออกเสียงให้คนอื่นได้ยินเท่านั้น."

[Webmaster-กล่าวคือ แม้ไม่ได้พูดคือเป็นวจีสังขารออกมาเป็นคำพูด,  แต่ก็พูดอย่างฟุ้งซ่านอยู่ในใจอยู่เสมอๆเนืองๆด้วยมโนสังขารหรือจิตตสังขารนั่นเอง]
93  ห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆตามประสาชาวกรรมฐาน / คุยกันสบายๆ ตามประสาชาวกรรมฐาน.คอม / Re: พูดมากเสียมากพูดน้อยเสียน้อย ไม่พูดไม่เสีย นิ่งเสียโพธิสัตว์ พูดมากเหลือคณานับ.. เมื่อ: มีนาคม 18, 2012, 07:21:31 PM
ไม่ใช่ความหมายอย่างนั้น   โปรดอย่าเข้าใจผิด
  
 คือต้องการร่วมเสวนาหัวข้อที่ท่านเจ้าของกระทู้ตั้งไว้เท่านั้น (โปรดมองในแง่+)

อ้างถึง
จะพูดมาก หรือน้อย  ไม่สำคัญไปกว่า "คุณพูด(เขียน)อะไรต่างหาก"
  คำว่า" คุณ " ในความหมายนี้คือ บุคคลใดก็ได้ที่พูด  ไม่ได้หมายถึงเจาะจงเจ้าของกระทู้

ที่บอกว่าพูดมากหากพูดเรื่องที่มีประโยชน์(เหมือนองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าท่านทรงเทศนาสอนธรรม มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ทรงสอนพระราชาองค์หนึ่งตั้งแต่กลางวันจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น (พระพุทธองค์ทรงตรัสกับพระราชาว่ามหาบพิธได้เวลาว่าราชการแล้ว)    แสดงว่าพระองค์ทรงตรัส(พูด)มาก  แต่มีสาระ)   ตรงกันข้าม บุคคลบางคนดีแต่พูดเรื่องไร้สาระ จนทำให้เสียประโยชน์ที่น่าจะได้  หรือที่หลวงปู่ชาท่านหมายถึงบุคคลที่ปฏิบัติธรรมหากพูดมากก็จะทำให้ฟุ้งซาน เสียสมาธิ
94  ห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆตามประสาชาวกรรมฐาน / คุยกันสบายๆ ตามประสาชาวกรรมฐาน.คอม / Re: พูดมากเสียมากพูดน้อยเสียน้อย ไม่พูดไม่เสีย นิ่งเสียโพธิสัตว์ พูดมากเหลือคณานับ.. เมื่อ: มีนาคม 18, 2012, 02:04:55 AM
จะพูดมาก หรือน้อย  ไม่สำคัญไปกว่า "คุณพูด(เขียน)อะไรต่างหาก"
95  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: ใบไม้ 1กำมือในพระหัตถ์ เมื่อ: มีนาคม 18, 2012, 01:53:31 AM
 ในสมัยพุทธกาล มีบุตรเศรษฐีท่านหนึ่งเรียกว่า “อนุปุพพเศรษฐี” อาศัยในกรุงสาวัตถี เป็นผู้มีศรัทธาในพระพุทธคาสนา อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ชอบขวนขวายในการสั่งสมบุญอยู่เสมอ วันหนึ่งท่านพิจารณาเห็นว่า ชีวิตของผู้ครองเรือน มีความวุ่นวาย สับสน มีปัญหาสารพัดไม่รู้จบสิ้น ประกอบไปด้วยทุกข์ จึงได้ตัดสินใจออกบวชในพระพุทธศาสนา โดยมีพระภิกษุผู้ทรงพระวินัยเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระภิกษุผู้ทรงพระอภิธรรมเป็นอาจารย์

ภายหลังบวชแล้ว ท่านถูกเรียกว่า “อุกกัณฐิตภิกษุ” ฝ่ายพระอาจารย์ได้กล่าวสอนปัญหาในพระอภิธรรมหมวดต่างๆ ให้อย่างมากมาย ส่วนพระอุปัชฌาย์ก็กล่าวข้อควรปฏิบัติในพระวินัยว่า “ในพระธรรมวินัย ภิกษุควรทำสิ่งนี้ ไม่ควรทำสิ่งนี้ สิ่งนี้เหมาะ สิ่งนี้ไม่เหมาะ ภิกษุควรนั่งอย่างนี้ ควรเดิน อย่างนี้ เป็นต้น”

         อุกกัณฐิตภิกษุ เมื่อได้รับการถ่ายทอดหัวข้ออภิธรรม และได้เรียนรู้ข้อปฏิบัติในพระวินัยมากเข้าๆ นานวันเข้าจึงเกิด ความคิดขึ้นว่า “โอ…เราใคร่จะพ้นจากทุกข์ พ้นจากความสับสน วุ่นวายในทางโลก จึงออกบวชเพื่อแสวงหาความสงบ แต่เมื่อบวชแล้วกลับรู้สึกว่า ข้อวัตรปฏิบัติของพระภิกษุในพระพุทธศาสนามีมากนัก ทั้งยังมีกิจกรรมอันยุ่งยากวุ่นวาย ราวกับ ว่าจะเหยียดแขนเหยียดขาไม่ได้เลย เมื่อเป็นเช่นนี้… เรากลับไปครองเรือนก็อาจพ้นจากทกข้ในวัฏฏะได้ เราควรสึกไปเป็นคฤหัสถ์ดีกว่า”

         ตั้งแต่นั้นมา ท่านก็เกิดความกระสันอยากสึก หมดความยินดีในการประพฤติพรหมจรรย์ ไม่ทำการสารยายธรรม ไม่เล่าเรียนพระปาฏิโมกข์ กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนร่างกายผ่ายผอม ซูบซีด เนื้อตัวสะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น ถูกความเกียจคร้านครอบงำ หมดความเพียร ไม่ยอมทำกิจกรรม ใดๆ ปล่อยร่างกายให้สกปรกเศร้าหมอง

         เหล่าเพื่อนภิกษุและสามเณรเห็นดังนั้น จึงพากันไปบอกพระอาจารย์และพระอุปัชฌาย์ เมื่อท่านทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว จึงพาอุกกัณฐิตภิกษุไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า



เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบเรื่องทั้งหมดแล้วจึงตรัสถามว่า
“ภิกษุ ถ้าเธอรักษาเพียงสิ่งเดียวได้ แล้วสิ่งอื่นไม่ต้องรักษาอีกเลย เธอจะทำได้ไหม?”
“อะไร? พระเจ้าข้า”
“เธอจะรักษาจิตของเธอ ได้ไหม ?”
“อาจรักษาได้ พระเจ้าข้า”
พระบรมศาสดาจึงทรงประทานโอวาทว่า “ถ้าอย่างนั้นเธอจงรักษาจิตของเธอไว้ เธออาจพ้นจากทุกข์ได้” แล้ว พระองค์ตรัสเป็นคาถาว่า
ผู้มีปัญญาพึงรักษาจิตที่เห็นได้แสนยาก ละเอียดยิ่งนัก มักตกไปสู่อารมณ์ใคร่ จิตที่คุ้มครองไว้ได้ ย่อมนำสุขมาให้
         ภายหลังจบพระธรรมเทศนา อุกกัณฐิตภิกษุได้มีดวงตา เห็นธรรมบรรลุโสดาปัตติผล และชนเหล่าอื่นเป็นอันมาก ก็ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล มีพระโสดาบัน เป็นต้น ณ ที่ตรงนั้นเอง

         จากเรื่องนี้จะเห็นได้ว่า คำสอนในพระพุทธศาสนาทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ แท้จริงแล้วมารวมอยู่ที่ความสำรวม ระวังรักษาใจของตนนั่นเอง เพราะเมื่อเรารักษาใจไว้ดีแล้ว ก็ย่อมสามารถควบคุมกาย วาจา และตรองตามคำสอนในพระพุทธศาสนาได้ทั้งหมดโดยปริยาย และเมื่อเกิดความเข้าใจ ก็ย่อมมองเห็นหนทางที่จะฝึกฝนตนเองให้บริสุทธิ์ สะอาด จนกระทั่งเข้าถึงธรรมะภายในได้ในที่สุด
96  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: ใบไม้ 1กำมือในพระหัตถ์ เมื่อ: มีนาคม 18, 2012, 01:43:39 AM
ย่อลงเหลือหนึ่งเดียว
   " สติ "
 รู้เท่าทันปัจจุบัน

แต่ก็ต้องอาศัยพื้นฐาน จาก ไตรสิกขา ทาน ศีล ภาวนา  เป็นปัจจัยให้เกิด  เจริญสติปัฏฐาน ทั้ง ๔ รู้กาย เวทนา จิต ธรรม
97  กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com / งานกฐิน สร้างวัด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างพระพุทธรูป บริจาคโลหิต เพื่อการกุศล ช่วยเหลือ / Re: ขอรับบิฑบาตรหนังสือธรรมะใหม่ เก่า เข้าห้องสมุดสำนักสงฆ์ เมื่อ: มกราคม 12, 2012, 08:35:24 PM
ขออนุโมทนาบุญกับโยม golfreeze และคณะ ในการจัดทำเวปเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วย


ส.ค.ส. พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ปีพุทธศักราช 2555 ทรงพระราชทานให้แก่ปวงชนชาวไทยเนื่องในโอกาสวาระดิถีขึ้นปีใหม่
(ภาพจากเว็บผู้จัดการ)

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานพรปีใหม่ พ.ศ.2555

ความ ว่า ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คน และขอขอบใจท่านเป็นอย่างมากที่ร่วมกันจัดงานฉลองอายุครบ ๗ รอบ ให้อย่างเหมาะสมงดงาม

ระหว่างปีที่แล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านเมืองนับว่าเป็นปรกติดี แต่พอเข้าปลายปี ก็เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้ประชาชนหลายจังหวัดต้องประสบอันตรายและความเดือดร้อนลำบาก ความเสียหายครั้งนี้ดูจะร้ายแรงกว่าครั้งไหนๆ ที่ผ่านมา ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจอย่างสำคัญ ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้หลายครั้งแล้วว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้นจะต้องมีทุกข์มีภัย มีอุปสรรคผ่านเข้ามาเนืองๆ ไม่มีผู้ใดจะอยู่เป็นปรกติสุขอย่างเดียวได้ ทุกคนจึงต้องเตรียมกาย เตรียมใจ และเตรียมการไว้ให้พร้อมเสมอ เพื่อเผชิญและป้องกัน แก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อนต่างๆ ด้วยความไม่ประมาทด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยสามัคคีธรรม

ในปีใหม่นี้ จึงขอให้ประชาชนชาวไทยได้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท โดยมีสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดกำกับอยู่ตลอดเวลา ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใด ก็เร่งกระทำกระทำให้สำเร็จลุล่วงไปให้ทันการณ์ทันเวลา ผลงานทั้งนั้น จะได้ส่งเสริมให้แต่ละคนประสบแต่ความสุขความเจริญ และทำให้ชาติบ้านเมืองดำรงมั่นคงและก้าวหน้าต่อไปด้วยความผาสุกสวัสดี

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้มีความสุข ไม่มีทุกข์ไม่มีภัย ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน
98  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: ใบไม้ 1กำมือในพระหัตถ์ เมื่อ: มกราคม 08, 2012, 10:35:32 AM
อีกแง่หนึ่ง
  ให้ศึกษามีสติให้รู้ กาย เวทนา จิต ธรรม ของตัวเราเอง
สรูปคือ  รู้จักเรื่องของตัวเอง รู้กาย รู้ใจ มีสติรู้เท่าทัน ตามความเป็นจริง
 อย่ามัวแต่สนใจเรื่องของคนอื่น เรื่องอื่นนอกตัว แม้แต่รู้จักปริยัติมากมายแต่ไม่รู้จักตัวเอง ก็คัมภีร์เปล่า
          ถ้าเรารู้จักใบไม้ในกำมือ(จิตเรา)ใบไม้ทั้งโลกก็จะรู้จัก

"ผู้ใดหลงไหลในตำราและอาจารย์ผู้นั้นไม่อาจพ้นทุกข์ได้ แต่ผู้ที่จะพ้นทุกข์ได้ต้องอาศัยตำราและอาจารย์เหมือนกัน" หลวงปู่ดุลย์ อตุโล
99  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: หลักการปฏิบัติธรรมและวิธีการสูงสุด ของ พระพุทธศาสนา เมื่อ: มกราคม 08, 2012, 12:52:43 AM
มหาปรินิพพานสูตร ในพระไตรปิฏกมาพูดสรุปแนวทางที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ทรงมอบลายแทงตามหาแนวปฏิบัติของพระองค์เอาไว้ในมหาปรินิพพานสูตร
     ก่อนพระพุทธเจ้าจะปรินิพพานมีปริพาชกนามว่า สุภัททะ อาศัยอยู่ในเมืองกุสินาราได้ออกศึกษาวิชาการดับทุกข์จากหลายสำนักหลายครูบาอาจารย์ แต่ละอาจารย์ก็อ้างตัว่าเป็นอรหันตและสุภัททะก็ได้ไปศึกษากับอาจารย์เล่านั้นมาแล้วแต่ก็ยังมีความทุกข์อยู่จึงเกิดความสงสัย สุภัททปริพาชกได้สดับว่า พระสมณโคดมจักปรินิพพานในปัจฉิมยามแห่งราตรีในวันนี้แหละ สุภัททปริพาชกได้มีความคิดอย่างนี้ว่า ก็เราสดับถ้อยคำของพวกปริพาชกผู้เฒ่าผู้แก่ ซึ่งเป็นอาจารย์และปาจารย์กล่าวอยู่ว่า พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติในโลกในบางครั้งบางคราว พระสมณโคดมจักปรินิพพานในปัจฉิมยามแห่งราตรีในวันนี้แหละ อนึ่ง ธรรมอันเป็นที่สงสัยนี้ ซึ่งบังเกิดขึ้นแก่เราก็มีอยู่ เราเลื่อมใสในพระสมณโคดมอย่างนี้ว่า พระสมณโคดมย่อมสามารถจะแสดงธรรมแก่เรา โดยประการที่เราจะพึงละธรรมอันเป็นที่สงสัยนี้ได้ ฯ
สุภัททปริพาชกเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้วได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัย พอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กราบทูลว่า

ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ สมณพราหมณ์เหล่านี้ใด เป็นเจ้าหมู่ เจ้าคณะ เป็นคณาจารย์มีชื่อเสียง มียศ เป็นเจ้าลัทธิ ชนเป็นอันมาก สมมติว่าเป็นคนดี คือบูรณกัสสป มักขลิโคสาล อชิตเกสกัมพล ปกุธกัจจายนะ สัญชัยเวลัฏฐบุตร นิครณฐนาฏบุตร สมณพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด ได้ตรัสรู้ตามปฏิญญาของตนๆ หรือว่าทั้งหมดไม่ได้ตรัสรู้ หรือว่าบางพวกไม่ได้ตรัสรู้ ฯ

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า อย่าเลยสุภัททะ ที่ข้อถามนั้นงดเสียเถิด

ดูกรสุภัททะ เราจักแสดงธรรมแก่ท่าน ท่านจงตั้งใจฟังธรรมนั้น จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว

สุภัททปริพาชก ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า

            ดูกรสุภัททะ ในธรรมวินัยใด ไม่มีอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ในธรรมวินัยนั้น ไม่มีสมณะที่ ๑ สมณะที่ ๒ สมณะที่ ๓ หรือสมณะที่ ๔ ในธรรมวินัยใด มีอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ในธรรมวินัยนั้น มีสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ หรือที่ ๔
            ดูกรสุภัททะ ในธรรมวินัยนี้ มีอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น มีสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ หรือที่ ๔ ลัทธิอื่นๆ ว่างจากสมณะผู้รู้ทั่วถึง ก็ภิกษุเหล่านี้พึงอยู่โดยชอบ โลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย ฯ

(คำว่าสมณะ ที่๑ ที่๒ ที่๓ ที่๔ คือพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์)

จาก มหาปรินิพพานสูตร ก็ทำให้เราได้ลายแทงว่าการปฏิบัติแต่ละรูปแบบจะแนวไหนก็ตาม  ถ้าอ้างว่าเป็นของพระพุทธเจ้าก็จะต้องสามารถทำให้มรรค ๘ เกิดขึ้นพร้อมด้วย ถ้าปฏิบัติแล้วสามารถทำให้มรรค๘เกิดขึ้นพร้อมได้  ก็ถือว่าการปฏิบัตินั้นๆเป็นไปตามแนวทางดับทุกข์ที่พระพุทธเจ้าสอน นี้คือลายแทงตามหาครู


100  กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com / งานกฐิน สร้างวัด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างพระพุทธรูป บริจาคโลหิต เพื่อการกุศล ช่วยเหลือ / Re: ขอรับบิฑบาตรหนังสือธรรมะใหม่ เก่า เข้าห้องสมุดสำนักสงฆ์ เมื่อ: มกราคม 07, 2012, 01:08:28 AM
เจริญพรและอนุโมทนาบุญในบุพพเจตนาที่ดีของโยม ทางสำนักสงฆ์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่โยมเห็นความสำคัญในการถวายหนังสือธรรมะเป็นธรรมทานแก่สำนักสงฆ์แพร่ธรรมจักร สำหรับหนังสือที่ส่งมาส่วนหนึ่งจะเก็บไว้ที่ห้องสมุด แต่ถ้ามีซ้ำกันหลายเล่ม บางที่ก็แจกให้กับโยมที่มาร่วมทำบุญที่สนใจไปบ้างก็มี เช่นหนังสือสวดมนต์ก็มีผู้สนใจมาขอไป บางทีหนังสือที่น่าสนใจก็ใช่ถ่ายเอกสารแจกก็มี
101  กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com / งานกฐิน สร้างวัด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างพระพุทธรูป บริจาคโลหิต เพื่อการกุศล ช่วยเหลือ / Re: ขอรับบิฑบาตรหนังสือธรรมะใหม่ เก่า เข้าห้องสมุดสำนักสงฆ์ เมื่อ: มกราคม 04, 2012, 01:17:25 PM
เจริญพร และขออนุโมทนาบุญกับการถวายธรรมทานในครั้งนี้ด้วย อาตมาได้รับหนังสือที่โยมส่งมาเรียบร้อยแล้ว
 ขอให้ธรรมะจงรักษาเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป
การที่จะดำรงพระพุทธศาสนาให้มั่นคงเราชาวพุทธบริษัทจะต้องช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนา ก่อนอื่นจะต้องศึกษาและปฏิบัติตัวเองให้ดี ให้เข้าถึง ให้มั่นคงในคำสอนของพระศาสดาของเราก่อน ว่าอันไหนเป็นคำสอนที่แท้จริงอันไหนเป็นเทียม โดยเฉพาะเยาวชนที่เปรียบเสมือนผ้าขาวหากเราปลูกฝังให้เขารู้จักการให้ทาน  การไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ หรืออย่างน้อยก็ทำเป็นตัวอย่างให้เขาเห็น การให้ทานทำให้เป็นคนไม่เห็นแก่ตัว รู้จักการให้จะทำให้จิตใจสูงขึ้นเติบโตเป็นคนดีของสังคมไม่โกงกินเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เสียสละชอบช่วยเหลือสังคม อาตมาจึงพยายามที่จะส่งเสริมให้พ่อแม่พาลูกหลานมาร่วมกิจกรรมที่ทางสำนักได้จัดขึ้น เช่นโครงการพาลูกหลานเข้าวัดทำบุญวันอาทิตย์ ถึงแม้ว่าจะเป็นสำนักเล็กๆก็จะพยายามสนับสนุนโดยพยายามปฏิบัติศึกษาธรรมะให้กับตัวเองพร้อมกับเผยแผ่ไปด้วย ในด้านผู้ใหญ่ที่มีความสนใจปฏิบัติกัมมัฏฐานต้องการปฏิบัติสามารถมาปฏิบัติได้ หรือมาศึกษาข้อมูลธรรมะคำสอน ยืมหนังสือธรรมะไปอ่าน หรือจะรับหนังสือ cd ธรรมที่ทางสำนักแจกไปศึกษาก็มี
  สมัยก่อนประเทศไทยเคยหยุดราชการวันโกนกับวันพระ แต่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นวันเสาร์กับวันอาทิตย์ โดยอ้างว่าเพื่อความสดวกในการทำราชการจึงทำให้พุทธศาสนิกชนบางกลุ่มขาดโอกาสได้เข้าวัดทำบุญ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ศีลธรรมเริ่มห่างไกลออกไปจากคนไทย เพราะขาดโอกาสได้ขัดเกลาจิตใจ การทำบุญเป็นการให้ทานเป็นการ สละกิเลส ความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัว ความอิจฉา การทำบุญให้ทานจะทำให้เป็นคนรู้จักการให้ แต่ปัจจุบันคนเราบางคนไม่เคยรู้จักการให้  มีแต่คิดจะเอาจนทำให้หาทางเอามาให้ได้โดยไม่สนวิธีที่จะเอามาจะถูกหรือผิด จนทำให้ประเทศชาติของเราเกิดปัญหาขึ้นมากมาย เพราะมีคนพยายามจะเอาพระพุทธศาสนาออกจากวิถีชีวิตของคนไทย ถ้าเรารักตัวเอง รักครอบครัว รักพระมหากษัตย์ รักประเทศชาติ ก็ควรที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้ตัวเองครอบครัว และคนในสังคม คนไทย ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพระธรรมคำสอน วิถีชีวิตแบบพุทธ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ให้มากขึ้น

    ก็ต้องขออนุโมทนาบุญอีกครั้งกับโยมและผู้ร่วมบุญในเวปทุกท่านที่สนับสนุนเผยแผ่พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้อยู่คู่กับคนไทยต่อไป ขอให้บุญกุศลนี้จงรักษาท่านให้มีความเจริญทั้งในทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้น
สาธุอนุโมทามิ
102  กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com / งานกฐิน สร้างวัด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างพระพุทธรูป บริจาคโลหิต เพื่อการกุศล ช่วยเหลือ / Re: ขอรับบิฑบาตรหนังสือธรรมะใหม่ เก่า เข้าห้องสมุดสำนักสงฆ์ เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 11:18:59 PM
เจริญพรอนุโมทนาบุญกับบุพพเจตนาที่ดีของคุณโยมด้วย เบอร์โทรติดต่อสำนักสงฆ์แพร่ธรรมจักร พระกฤษกร กิตติปญโญ เบอร์089213xxxx
อีเมล [email protected]
103  กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com / งานกฐิน สร้างวัด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างพระพุทธรูป บริจาคโลหิต เพื่อการกุศล ช่วยเหลือ / Re: ขอรับบิฑบาตรหนังสือธรรมะใหม่ เก่า เข้าห้องสมุดสำนักสงฆ์ เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 07:58:41 PM
ปิดรับบริจาค อนุโมทนาบุญกับทุกท่าน สาธุ
104  กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com / งานกฐิน สร้างวัด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างพระพุทธรูป บริจาคโลหิต เพื่อการกุศล ช่วยเหลือ / ปิดรับบริจาค ขอรับบิฑบาตรหนังสือธรรมะใหม่ เก่า เข้าห้องสมุดสำนักสงฆ์ เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 07:41:05 PM
ปิดรับบริจาค อนุโมทนาบุญกับทุกท่าน สาธุ
105  กิจกรรมที่ช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แหล่งทำบุญ หรือ การช่วยเหลือสังคม จากทาง Kammatan.com / แจกcdธรรมะ+หนังสือ ปฏิบัติธรรมฟรี / Re: ขออนุญาตร่วมแจกสื่อพระธรรมค่ะ เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 07:15:40 PM
กรุณาส่ง  พระกฤษกร กิตติปญโญ สำนักสงฆ์แพร่ธรรมจักร
เลขที่ 1 บ้านน้ำพุ หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านกวาง
อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ 54130
 ขอให้ธรรมะจงรักษาท่าน เจริญพร
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8