KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับ

ความสำคัญของพระพุทธศาสนา และทุกอย่าง เกี่ยวกับ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า => ประวัติของพระพุทธสาวก สมัยพุทธกาล => ข้อความที่เริ่มโดย: samarn ที่ พฤศจิกายน 06, 2008, 03:03:34 PM



หัวข้อ: พระปิณโฑลภารทวาชะเถระ
เริ่มหัวข้อโดย: samarn ที่ พฤศจิกายน 06, 2008, 03:03:34 PM
    พระปิณโฑลภารทวาชะ เป็นบุตรของพราหมณ์มหาศาล ภารทวาชโคตร ในกรุงราชคฤห์ เดิมชื่อว่า ภารทวาชมาณพ เมื่อเจริญเติบโตแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียนในลัทธิของพราหมณ์จบจบไตรเพท มีความชำนาญในวิชาไตรเพทจนได้เป็นคณาจารย์ กล่าวสอนศิลปวิทยาแก่มาณพเป็นจำนวนมากประมาณ ๕๐๐ คน ภารทวาชมาณพนั้นเป็นผู้มีความมักมากในอาหารเที่ยวไปแสวงหาอาหารกับพวกมาณพผู้เป็นศิษย์ในที่ต่าง ๆ คือ ในที่ ๆ ตนควรได้บ้าง ไม่ควรได้บ้าง เหตุนั้นจึงมีนามปรากฏว่า ปิณโฑลภารทวาชมาณพ

     เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จเที่ยวประกาศพระศาสนามาโดยลำดับจนถึงพระนครราชคฤห์ ปิณโฑลภารทวาชมาณพ ได้ทราบข่าวจึงเข้าไปเฝ้าได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้วเกิดความเลื่อมใสทูลขออุปสมบทในพระธรรมวินัย พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้บวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา

     ต่อมาเมื่อท่านพระปิณโฑลภารทวาชะได้อุปสมบทแล้ว เป็นผู้ไม่ประมาทตั้งใจเจริญสมณธรรมในวิปัสสนากรรมฐาน ไม่ช้าไม่นานก็ได้ บรรลุพระอรหัตตผล ตามประวัติท่านเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยอินทรีย์ ๓ ประการ คือ สตินทรีย์,สมาธินทรีย์, และปัญญินทรีย์ ในวันที่ท่านได้บรรลุพระอรหัตตผลนั้น ท่านถือเอาอาสนะเครื่องลาดไปสู่บริเวณวิหารปูลาดแล้ว บันลือออกซึ่งสีหนาท คือ เปล่งด้วยเสียงอันดังดุจราชสีห์ ด้วยวาจาอันองอาจว่า ยสฺส มคฺค วา ผเล วา กงฺขา อตฺถิ โส มํ ปุจฺฉตุ แปลว่า ผู้ในดมีความสงสัยในมรรค หรือ ผล ผู้นั้นจงถามเราเถิด ไม่ว่าท่านจะไปสู่ที่ประชุมใดก็ตาม แม้แต่ในที่เฉพาะพระพักตร์ของพระบรมศาสดา ท่านก็บันลือสีหนาทเช่นนั้น เพราะเหตุนี้เอง พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องท่าน ว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้บันลือสีหนาท ดำรงเบญจขันธ์อยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพาน




หัวข้อ: Re: พระปิณโฑลภารทวาชะเถระ
เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 12:20:28 AM
https://www.youtube.com/watch?v=IQGxkqSB70g (http://www.youtube.com/watch?v=IQGxkqSB70g#)

เป็นตอนที่พระพุทธเจ้า ทรงบัญญัติพระธรรมวินัยที่ว่าด้วย ห้ามพระภิกษุสงฆ์ แสดงปาฏิหาริย์