KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับ

ความสำคัญของพระพุทธศาสนา และทุกอย่าง เกี่ยวกับ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า => ประวัติของพระพุทธสาวก สมัยพุทธกาล => ข้อความที่เริ่มโดย: samarn ที่ พฤศจิกายน 06, 2008, 03:29:09 PM



หัวข้อ: พระสีวลีเถระ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายข้างผู้มีลาภมาก
เริ่มหัวข้อโดย: samarn ที่ พฤศจิกายน 06, 2008, 03:29:09 PM
(http://golfreeze.packetlove.com/pix/images/20090806175315_img_4602.jpg)
รูปปั้นพระสีวลี ที่พม่า

ท่านพระสีวลี เป็นเป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา ผู้เป็นพระราชธิดาของพระเจ้ากรุงโกลิยะ จำเดิมแต่พระราชโอรสมาถือปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา ทำพระมารดาให้สมบูรณ์ด้วยลาภสักการะเป็นอันมาก แต่อยู่ในครรภพระมารดาถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน จึงประสูติ เวลาประสูติก็ประสูติง่ายที่สุด เปรียบประดุจน้ำไหลออกจากหม้อ ด้วยอำนาจแห่งพุทธานุภาพคือ เมื่อพระนางมีครรภ์แก่ครบกำหนดประสูติแล้ว ได้เสวยทุกขเวทนาลำบากมาก พระนางจึงให้พระสวามีบังคมทูลพระบรมศาสดา พระองค์ตรัสพระราชทานให้พรว่า พระนางสุปปวาสา ผู้เป็นพระราชธิดาของพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุขปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชบุตรผู้หาโรคมิได้เถิด พระนางสุปปวาสาก็ได้ประสูติพระราชบุตรพร้อมกับขณะที่พระศาสดาตรัสพระราชทานพร เมื่อประสูติแล้วพระญาติได้ขนานพระนามว่า ?สีวลีกุมาร? ส่วนพระนางสุปปาวาสานึกถึงเหตุการณ์ที่เป็นมาแล้ว มีความปรารถนาจะถวายมหาทานสัก ๗ วัน จึงให้พระสวามีไปอาราธนานิมนต์พระภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานเพื่อรับภัตตาหารในบ้าน ๗ วัน พระราชสามีก็ไปตามความประสงค์ของนาง แล้วได้ถวายมหาทานตลอด ๗ วัน (สีวลีกุมารนั้น นับตั้งแต่วันที่ประสูติ ได้ถือธมกรกกรองน้ำถวายพระตลอด ๗ วัน)

บรรลุมรรคผล

     เมื่อสีวลีกุมารเจริญวัยขึ้นแล้ว ได้ออกผนวชในสำนักของท่านพระสารีบุตร ได้บรรลุผลสมตามความปรารถนา คือ ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระอเสขบุคลในพระพุทธศาสนา นัยว่าท่านได้บรรลุมรรคผลตั้งแต่เมื่อเวลาปลงผม คือ เมื่อเวลามีดโกรจรดลงศีรษะครั้งที่หนึ่งได้บรรรลุโสดาปัตติผล ครั้งที่สองได้บรรลุสกทาคามี ครั้งที่สามได้บรรลุอนาคามิผล ปลงผมเสร็จก็ได้บรรลุพระอรหัตผล ตั้งต้นแต่นั้นมาท่านเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยปัจจัยสี่ ทั้งภิกษุทั้งหลายก็พลอยไม่ขัดข้องด้วยปัจจัยลาภเพราะอาศัยท่าน

เอตทัคคะ

     เพราะเหตุนั้น พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายข้างผู้มีลาภมาก ท่านพระสีวลีนั้น ดำรงเบญจขันธ์อยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพาน



หัวข้อ: Re: พระสีวลีเถระ
เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ พฤศจิกายน 09, 2008, 12:24:59 AM
เอตทัคคะด้าน มีลาภมาก โดยแท้

คำอาราธนาพระสีวลี

สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ สีวะลี จะ มะหาเถโร
ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา สีวะลี เถรัสสะ
เอตัง คุณัง สวัสดิลาภัง ภะวันตุ เมฯ

ควรมีห้องพระไว้ต่างหาก เวลาเช้าเวลาเย็น จุดธูป เทียนบูชาพระแล้ว
สวดคาถานี้ทุกวัน อย่าให้ขาดได้
และไม่ควรให้เด็กๆ เล่นโครมครามหรือกระเทือนในสถานที่นั้น