KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับกระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
 51 
 เมื่อ: กันยายน 22, 2017, 08:26:07 PM 
เริ่มโดย inthachak - กระทู้ล่าสุด โดย inthachak
คำว่า พรหมลิขิต และกรรมลิขิต คำสงสัยอยู่ในใจมาโดยตลอดว่า 2 ศาสนานี้เกี่ยวข้องกันไหม

คนไทยก็สับสนว่านับถืออะไรกัน กราบไหว้พระศิวะ กราบไหว้พระพิฆเนศ กราบไหว้พระพุทธรูป บางคนเชื่อเรื่องดวง โชคชะตาเป็นชีวิตจิตใจ จนคิดความคำทำนายเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่พ้นต้องผจญในที่สุด

ชีวิตของทุกคนที่เกิดมาต่างเกิดขึ้นตามแรงบุญแรงกรรมจริงหรือไม่ ยกตัวอย่าง เด็กผู้ชายคนหนึ่งเกิดมาหน้าตาดี เรียนไม่เก่ง พ่อแม่ยากจน เป็นชาวนา เด็กโตขึ้นเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาลไม่ได้ต้องไปเรียนโรงเรียนเอกชนจนจบ ม. 6

หลังจากนั้นโรงเรียนเอกชนแนะแนวให้เข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาโดยครูของโรงเรียนเอกชนแนะแนวว่าเรียนจบปริญญาตรีแล้วมหาวิทยาลัยจะบรรจุให้เป็นข้าราชการ ด้วยความไม่รู้ของเด็กและพ่อแม่ ต่างก็ดีใจว่าลูกของตนจะต้องเรียนจบแล้วเป็นพนักงานป่าไม้ (สาขาวนเกษตร) ถึงขั้นกู้ยืมเงินส่งลูกเรียน

ด้วยความที่เด็กเรียนค่อนข้างแย่ ไม่ว่าวิชาไหนๆ ก็สอบไม่ผ่านแม้แต่วิชาเดียว เพราะพื้นฐานความรู้ในระดับมัธยมไม่มี พยายามเรียนจนครบ 1 ปี หลังจากเกรดเฉลี่ยไม่ผ่าน 2.00  ถูกให้ออกจากมหาวิทยาลัย พ่อแม่เสียใจมากทำร้ายลูก ทุบตี ว่าทำไมโง่จนถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าลูกของตนเรียนไม่ดีตั้งแต่มัธยมศึกษาต้องไปเรียนกับโรงเรียนเอกชนเล็กๆ ซึ่งผู้สอนไม่มีศักยภาพในการสอน

สรุป พรหมลิขิต หรือกรรมลิขิต ให้เด็กเกิดมาในท้องของมารดาที่มีสมองไม่ดีเรียนไม่เก่ง ยากจน ต่อให้หน้าตาดี ก็ไม่สามารถทำให้ชีวิตดีขึ้น จึงขอเรียนสอบถามพุทธศาสนิกชนท่านผู้รู้ ให้ความกระจ่างเรื่อง พรหมลิขิต หรือกรรมลิขิต ว่าเป็นหลักเดียวกันไหม และทำไมมนุษย์ที่เกิดในท้องมารดายากจน ลูกก็ไม่สามารถดีมากว่าพ่อแม่ที่เป็นอยู่ได้เลย หรือว่าหนีไม่พ้นกรรมลิขิตหรือไม่

 52 
 เมื่อ: กันยายน 21, 2017, 11:49:52 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
"พิจารณาการตาย ให้สะกิดใจว่าเราจะต้องตายง่าย อายุไม่ยืนนาน บอกตนเองมาเรื่อยๆ
เร่งความเพียรมากๆก่อนตาย เพื่อให้ชำนิชำนาญเพื่อเข้าจิตสู้การตาย ข้อนี้สำคัญมากกว่าอย่างอื่น"
หลวงปู่หลุย จันทสาโร

 53 
 เมื่อ: กันยายน 21, 2017, 11:48:37 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นของที่ไม่เนิ่นช้านะ เร็วที่สุด เร็วที่สุดทีเดียว
เป็นของที่ไม่เนิ่นช้าทีเดียว อย่าให้จิตเป็นอนาถานะ มีที่พึ่งนะ พุทโธ พุทโธ พุทโธ เป็นของใหญ่นะ
หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร

 54 
 เมื่อ: กันยายน 21, 2017, 11:48:19 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
จิตติดที่ไหน ย่อม ไปเกิด ณ ที่นั้น จิตติดเรือนก็อาจจะมาเกิดเป็นจิ้งจกตุ๊กแกได้
แม้แต่พระภิกษุติดจีวรยังไปเกิดเป็นเล็น น่าหวาดกลัวนัก แล้วกิเลสมีร้อยแปดประตู
พุทโธมีประตูเดียว เพราะฉะนั้นให้ฝึกหัดปฏิบัติให้คุ้นเคย วาระที่เราจะเปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติ จะเข้าจิตได้ทันหรือเปล่า
หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร

 55 
 เมื่อ: กันยายน 05, 2017, 09:52:23 PM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
อนุโมทนาสาธุ ครับพี่ต่าย

วันนี้วันพระใหญ่ 5 กย 2560
สวดมนต์ไหว้พระ เจริญสติ นั่งสมาธิ เดินจงกลม เอาบุญมาแบ่งครับผม : )

 56 
 เมื่อ: กันยายน 05, 2017, 09:46:38 PM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
งานกฐินวันถ้ำผาแดง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หลวงตาศิริ ในรอบปี พ.ศ. 2560
ปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560




 57 
 เมื่อ: กันยายน 05, 2017, 09:43:18 PM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
ใบประกาศต่างๆ ในโลก เมื่อตายไปแล้ว ก็จะขาด จะหายไป ครั้นเมื่อเกิดมาใหม่ก็ต้องดิ้นรนแสวงหากันใหม่
บางทีได้มาแล้ว เพิ่มอัตตาตัวตนด้วยซ้ำ กิเลสตัวกูเก่งมันเกิดขึ้นแล้วมองไม่ทัน ซึ่งไม่ได้เป็นไปเพื่อการละ และการวางตัวตนเลย...

แต่ในทางธรรมแล้ว เมื่อมีมรรคมีผลเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้ลดละกิเลสลง ตามลำดับขั้น ละอัตตาตัวตนลงได้ตามสติปัญญา (ในทางพุทธศาสนา)
ถึงแม้ว่าตายไปแล้ว ได้ไปเกิดในภพภูมิใหม่ คุณธรรมเหล่านั้นก็จะติดตามไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะเข้าถึงนิพพาน : )

5 กย 2560
วันพระใหญ่

 58 
 เมื่อ: สิงหาคม 22, 2017, 10:56:33 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
บางคนภาวนาไม่อยากเห็นภาพต่างๆ เช่น นรก สวรรค์ เทวดา เป็นต้น
การที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรแปลก
ที่ว่าไม่แปลกก็เพราะว่า เมื่อเราเห็นแล้ว กิเลสของเราก็ยังอยู่เหมือนเดิม
บางคนแถมยังทำให้เกิดกิเลสเพิ่มมากขึ้นอีกเสียด้วย
คือถือว่าตนเองเป็นผู้วิเศษ ที่สามารถเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านั้นได้
เลยไม่ยอมกราบไหว้ใครทั้งสิ้น จนกลายเป็น สัคคาวรณ์ มัคคาวรณ์
ปิดกั้นทางมรรค ทางผล ทางนิพพาน ไปโดยปริยาย
เป็นความเห็นที่ผิดจากหลักศาสนา
พวกเราท่านพากันฝึกหัดสติลูบๆ คลำๆ กันอยู่อย่างไรเล่า
จึงมิรู้ช่องแนวทางพ้นทุกข์เสียที
ด้วยเหตุนี้ ขอให้พากันยึดหลักสติปัฏฐาน ๔
เป็นหลักฝึกสติให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
นี่แหละ บรรดาสิ่งสมมุติที่เราไปยึดถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของเรานั้น
ก็จะได้เพียงชีวิตหนึ่งๆ เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสามี ภรรยา หรือสมบัติต่างๆ
เมื่อเราตายไปแล้ว เราจะยึดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเราอีกไม่ได้
เราจะเอาสิ่งต่างๆ เหล่านั้นติดตามไปสวรรค์ นรก หรือที่ไหนๆ ก็ไม่ได้
ตรงกับคำว่า “สมบัติของโลก ก็ต้องอยู่ในโลก”
หนังสือ คติธรรมของหลวงปู่คำดี ปภาโส

 59 
 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2017, 08:21:04 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นมีข้อเกี่ยวกับการหาทรัพย์

อุฏฐานสัมปทา ขยันหาทรัพย์ อย่ามัวรีรอ
งานสุจริตนั้นมีเกีรติพอ
อย่ารั้งรอ รีบทำกันไวไว

อารักขสัมปทา รู้จักหาอย่างเดียวยังไม่ได้
ต้องรู้จักรักษาไว้
อย่าปล่อยให้ทรัพย์นั้นวอดวาย

กัลยาณมิตตตา การคบหากับมิตรสหาย
คบเพื่อนดีก็จักสบาย
คบเพื่อนร้าย ต้องวุ่นวายตรอมตรม

สมชีวิตา เลี้ยงชีวาให้พอเหมาะพอสม
ไม่มีหนี้ ชีวินก็รื่นรมย์
มีคุณค่าน่านิยม น่าชื่นชมทำตาม

 60 
 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2017, 09:31:37 AM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze


“โลกนี้ร้อน

อยู่ ๆ ก็เอาเรือรบมาขู่กันไปขู่กันมา

เอาจรวดมายิงกัน อะไรอย่างนี้ วุ่นวาย

เราทำมาหากิน ก็ไม่รู้ว่า

จะถูกกระทบกระเทือนอะไรเมื่อไหร่

โลกเป็นอย่างนี้แหละ

ถ้าเราไม่มีที่พักทางใจของเราเลย

ชีวิตก็จะมีแต่ความเครียด

ฉะนั้น หาที่พักในใจของเราให้เจอ

ฝึกเอา พุทโธไป หายใจไปก็ได้

แล้วคอยรู้ทันใจ จิตฟุ้งซ่านก็รู้

จิตเป็นอย่างไร ก็คอยรู้ไปเรื่อย

ทำกรรมฐานแล้วก็คอยรู้ทันจิตใจของตัวเองไป

จิตใจจะมีความสุขมากขึ้น ๆ นะ

โลกจะเข้ามาถึงใจเราได้น้อยลงเรื่อย ๆ

ถึงมันเอาจรวดมายิงใส่บ้านเรา

ถึงตัวเราแตกเละเทะไปหมด

แต่ใจเรายังสงบสุข ยังมีความสุขนะ

ปัญหาทั้งหลายกระทบเข้าได้แค่ร่างกาย

แต่กระทบเข้ามาไม่ถึงใจจิตที่ฝึกดีแล้ว

ใจจิตที่ฝึกดีแล้วนำความสุขมาให้

ทุกวันฝึกจิตฝึกใจของเรานะ

พุทโธไป หายใจไป แล้วรู้ทันจิตไปเรื่อย ๆ

ทำได้อย่างนี้ จะรู้สึกว่าโลกห่างออกไปเรื่อย ๆ

ความทุกข์ของโลกเข้ามาถึงใจเราได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ

เข้ามาก็อ่อนแรงแล้ว เพราะมันวิ่งมาไกล กว่าจะมาถึง

ฉะนั้นเราจะทุกข์ไม่มาก ทุกข์ไม่นาน

ทุกข์ไม่บ่อยอย่างที่คนอื่นเขาเป็นกัน

สิ่งเหล่านี้นะ อ้อนวอนขอไม่ได้ ต้องทำเอาเอง

อยากได้ของดีของวิเศษก็ต้องลงมือปฏิบัติเอา ”
.
.

พระธรรมเทศนา
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
วันสงกรานต์ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๐

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10