แสดงกระทู้
หน้า: 1 [2] 3 4
16  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / Re: จิตคือะไรคับ.....ความหมายของจิตทางโลก กับทางธรรมเหมือนกันหรือไม่? เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2012, 01:46:06 PM
ปล่อยวางเรื่องจิต เจตสิก แล้วมาหาวิธีดับทุกข์จะมีประโยชน์กว่านะครับ
17  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / Re: มนุษย์ทั่วไปตายเล่นๆ พระอรหันต์ตายจริงๆ แต่ตายแล้ว.... เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2012, 01:36:59 PM
ไม่มีจิตอะไรโผ่ลขึ้นมาแทนแล้วครับ
18  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / Re: กาลามสูตร 10 ประการ ในพระไตรปิฎก เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2012, 01:21:42 PM
ดูกรกาลามชนทั้งหลาย เราได้กล่าวคำใดไว้ว่า ดูกรกาลามชนทั้งหลาย
มาเถอะท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย..........

*อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา
*ยึดถือตามถ้อยคำสืบๆ กันมา
*อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่าได้ยินว่าอย่างนี้
*อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา
*อย่าได้ยึดถือโดยเดาเอาเอง
*อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน
*อย่าได้ยึดถือโดยตรึกตามอาการ
*อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฐิของตน
*อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรเชื่อได้
*อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา





หลักความเชื่อกาลามสูตร 10 ประการ นี่ดูเหมือนหลายคนจะท่องกันได้ แต่ในทางปฏิบัติกลับเชื่อกันง่ายดายไปหมด

1*อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา 2*ยึดถือตามถ้อยคำสืบๆ กันมา 3 *อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่าได้ยินว่าอย่างนี้
    3 ข้อนี้ส่วนมากจะตรงกันข้าม ส่วนใหญ่เมื่อได้ยินเรื่องเราอะไรมา มักจะเชื่อไว้ก่อน เช่นได้ยินข่าวว่าหมอดูแม้น เรื่องพระยานาค ผีสางนางไม้ ข่าวลือต่างๆ เชื่อกันไปหมด ทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้เห็น

4*อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา ข้อนี้สำคัญ ส่วนใหญ่ เมื่อได้ไปอ่าน ตำรา หนังสือ พระไตรปิฏก ก็เชื่อตามตัวหนังสือเสียหมดสิ้น โดยไม่เคยสืบสาวราวเรื่องก่อน (โดยเฉพาะผู้ที่ศึกษาธรรมะ)

5*อย่าได้ยึดถือโดยเดาเอาเอง 6*อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน 7*อย่าได้ยึดถือโดยตรึกตามอาการ  8*อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฐิของตน
   4 ข้อนี้ คือเชื่อโดยไม่มีเหตุผล เอาตัวเองเป็นใหญ่ มักจะไม่รับฟังคนอื่นๆ

9*อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรเชื่อได้  10*อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา
   2 ข้อ สุดท้ายนี้ แม้นพระพุทธองค์ ทรงยอมให้พุทธบริษัทพิสูจน์พระองค์ก่อน ที่จะเชื่อในเรื่องที่พระองค์สอน ซึ่งจะต่างจากศาสดาคนอื่น ที่ไม่เปิดโอกาศให้สงสัยเลย
19  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / กำลังใจ จากครูบา อาจารย์ ในการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 / Re: ความรู้ที่เกิดจากการฟังและปฏิบัติ เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2012, 04:00:49 PM
การสอบ ครั้งที่สำคัญที่สุดของชีวิต ที่ทุกคนต้องเจอ คือก่อนสิ้นลม เฮือกสุดท้าย

ฉะนั้นการฝึกปฏิบัติธรรม ที่ได้อบรมจิต อบรมใจมา จะได้นำมาใช้ในการสอบครั้งนี้

กอล์ฟ @ 26/10/2011

 
  ก่อนจิตดวงสุดท้ายจะดับลง(สิ้นใจ) ผู้ที่หวังในนิพานอยู่ ต้องสลัดจิตคืนสู่ธรรมชาติให้หมดสิ้น ไม่เหลือเยื่อใยในความอยากทั้งสิ้นทั้งปวง
ให้จิตว่างลงสุดประมาณ เมื่อจิตดับลงแล้ว จิตดวงใหม่ก็จะไม่มีเชื้อให้ปฏิสนธิขึ้นมาอีก แต่ต้องเป็นกรณีของผู้ที่ซักซ้อมอยู่เสมอเท่านั้น
ไม่ใช่ใครก็ได้  เพราะปกติของจิตที่ก่อนจะดับ ย่อมเห็นนิมิต คือกรรมที่ตนเองกระทำเอาไว้ และจิตก็จะยึดเอานิมิตเหล่านั้นเพื่อจุติต่อไป
20  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: นิพพานคืออะไร เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2012, 03:36:31 PM
พระอรหันต์นิพพานแล้วไปไหน

 ก็กลับไปที่ๆมาเริ่มต้นสุดเลยยังไงล่ะ  เรามาจากความว่าง  ก็กลับไปสู่ความว่าง  ที่เรียกว่า มหาสุญญตา(พุทธภาวะเริ่มแรกที่ไม่มีอะไรเลย)  เราก็ต้องกลับไปยังมหาสุญญตา(พุทธภาวะเริ่มแรกที่ไม่มีอะไรเลย)

ศาสนาพราหมณ์บอกว่า  เรามาจากปรมาตมัน ซึ่งเป็นตัวรู้เดียวที่แยกตัวออกเป็นตัวรู้มากมาย(อาตมัน)

พระอรหันต์ = อาตมัน ไปนิพพาน คือ กลับเข้าไปเป็นปรมาตมัน

มึงเป็นความว่าง  มึงก็ต้องกลับไปสู่ความว่าง  แต่ไอ้ความว่างตัวนี้ มันเป็นมหาสุญญตา(พุทธภาวะเริ่มแรกที่ไม่มีอะไรเลย) = นิโรธ  ไม่มีความทุกข์อยู่เลย  พวกที่อยู่ในนิโรธจึงไม่อยากออกมาวุ่นวายเรื่องของโลกอีก

ถ้าอยากวุ่นวายเรื่องของโลกต่อไป คือ ไปช่วยคนที่มีทุกข์  ก็ต้องออกจากนิโรธ ไปเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์บริสุทธิ์ ที่เรียกว่า พระอรหันต์โพธิสัตว์ ดำรงอยู่ในแดนนิพพาน ที่เป็นพุทธเกษตร หรือ สวรรค์นิรันดร

ไปเอาความรู้เหล่านี้มาจากไหนครับ เพราะมันไม่มีในพระสูตรใดเลย
21  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: ผู้ที่ปฏิบัติธรรมแล้ว มีอาการขณะที่จิต เข้าสู่การเป็นโสดามรรคและโสดาผล เป็นฉไน เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2012, 03:27:35 PM
อ่านมาจบหน้าสุดท้าย
   
  สรุปแล้ว ว่าใช่คนเดียว กับหลวงพ่อปราโมทย์ ที่เป็นข่าวดัง เรื่องเงิน เรื่องผู้หญิง เรื่องที่ดิน หรือเปล่าครับ
22  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: พระโสดาบัน เคยทำบาป จะตกนรก หรือไม่ เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2012, 03:03:38 PM
สำหรับท่าน yusamui ขอโมทนากับสัจจะต่อธรรมะ เช่นกันครับผม
ถึงแม้จะเจริญสติ เจริญสมาธิ เจริญศีล เมื่อสมควรแล้ว จนเมื่อถึงแก่กรรมจริงๆ
ใช่ว่าจะคืนสู่โลก เช่น ทรัพย์สมบัติ ดังเงินทองไม่
ของเหล่านี้จะติดไปตามภพ ตามชาติที่ท่านได้ไปจุติ
ทำให้ได้เริ่มภาวนาต่อได้ง่าย จนกว่าจะเข้าถึงกระแสแห่งความบริสุทธิ์หลุดพ้น

ขอแค่เราหนักแน่นในการปฏิบัติ รักษาศีล เจริญสมาธิ และเจริญมรรคมีองค์ 8
เมื่อสมควรในแต่ละขั้นแล้ว ก็จะมีปัญญากำจัดกิเลสชั้นสูงได้ตามลำดับ
แต่ ณ ปัจจุบันขณะ ก็จะมีความสุขกับการรู้ทุกข์ในปัจจุบัน อยู่แล้ว
ขออนุโมทนาด้วยนะครับท่าน yusamui กับพี่ Avatar

ขอบคุณครับ คุณgolfreeze
23  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: พระโสดาบัน เคยทำบาป จะตกนรก หรือไม่ เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2012, 11:59:42 AM
วงจรปฏิจจสมุปบาทในความเห็นของคุณนี่ก็แปลกๆอีกเหมือนกันนะเกิดไม่เป็นเวล่ำเวลา
แต่เกิดเป็นจังหวะขึ้นอยู่กับตามผัสสะหรืออายตนะและไม่ได้เกิดสืบเนื่องกันไป


    ในส่วนนี้ตามที่ผมได้อธิบายไปแล้วครับ ว่า ใน 1 รอบ ปฏิจจสมุปบาท จะต้องมี 11 อาการ ถ้ายังไม่ถึง 11 อาการ ก็ยังไม่เป็นรอบของ ปฏิจจสมุปบาท ตรงจุดนี้ คุณอาจจะยังสงสัยว่า แล้วอะไรมังที่เราเมื่อผัสสะแล้วไม่เป็น วงจรปฏิจจสมุปบาท คุณลองนึกย้อนไปดูอาการของจิต ในตอนที่คุณขับรถก็ได้ ว่าบางที 2 ข้างทางมันมีอะไรต่ออะไรมากมายที่ตาของเราไปกระทบเข้า เช่นต้นไม้ ป้ายถนน วัว ควาย แต่พอเราเห็นแล้ว จิตของเราก็ไม่ได้ไปคิดอะไร หรือปรุงแต่ง เป็นตัณหา อุปาทานต่อ ถ้าคุณสังเกตตรงนี้ให้ดี คุณจะรู้ว่าในวันหนึ่งๆ มีสิ่งที่เข้ามากระทบ อายตนะ ๖ ตั้งมากมายแต่ไม่เป็น วงจรปฏิจจสมุปบาท

ผมถามคุณอยู่สมุยนะครับว่าคุณระงับไม่ให้เกิดผัสสะหรืออายตนะที่มากระทบได้ตลอดเวลาหรือไม่ครับ...
แต่ถ้าคุณบอกว่าได้ ก็เข้าญาณอยู่ในชั้นจตุตถญาณผัสสะก็ไม่มีแล้ว ผมก็จะบอกว่าได้ครับ แต่ถ้าคุณออกมาจากการเข้าฌานแล้ว ผัสสะมันก็กลับมาเหมือนเดิม วงจรปฏิจจสมุปบาท ก็กลับมาหมุนติ้วอีก...


จากข้อความนี้คุณคงหมายถึง เมื่อ เข้าฌานอยู่ในชั้นจตุตถฌาน วงจรปฏิจจสมุปบาท จะไม่เกิดขึ้น แต่เมื่อออกจากฌานแล้ววงจรปฏิจจสมุปบาท ก็กลับมาหมุนติ้วอีก...เหมือนเดิม
  แต่บังเอิญว่าในโลกนี้ไม่มีใครเข้าฌานได้ตลอดเวลานะสิครับ และถ้า จตุตถฌาน ความหมายเป็นแบบนี้
   ดูกรมหาบพิตร อีกประการหนึ่ง ภิกษุบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข
เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่
เธอนั่งแผ่ไปทั่วกายนี้แหละ ด้วยใจอันบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีเอกเทศไหนๆ แห่งกายของเธอ
ทั่วทั้งตัว ที่ใจอันบริสุทธิ์ผ่องแผ้วจะไม่ถูกต้อง  ดูกรมหาบพิตร เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงนั่ง
คลุมตัวตลอดศีรษะด้วยผ้าขาว ไม่มีเอกเทศไหนๆ แห่งกายทุกๆ ส่วนของเขาที่ผ้าขาวจะไม่
ถูกต้อง ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นแล เธอนั่งแผ่ไปทั่วกายนี้แหละด้วยใจอันบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
ไม่มีเอกเทศไหนๆ แห่งกายของเธอทั่วทั้งตัว ที่ใจอันบริสุทธิ์ผ่องแผ้วจะไม่ถูกต้อง ดูกรมหาบพิตร
นี้แหละสามัญผลที่เห็นประจักษ์ ทั้งดียิ่งกว่า ทั้งประณีตกว่าสามัญผลที่เห็นประจักษ์ข้อก่อนๆ
 
     ถึงจุดนี้หากคุณทำได้แล้ว ผมก็ขออนุโมทนา สำหรับผม คงจงมุ่งตรงมากกว่า คือ ทำเน้นไปทางวิปัสสนา  เพราะว่ากว่าถึงฌานทั้ง 8 แล้ว รูปฌาน4 อรูปฌาน4 และเจโตวิมุตติ ผมคงแก่ตายก่อนครับ
24  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: นิพพานอยู่ที่ใด? แล้วเมืองพระนิพพานอยู่ไหน? เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2012, 10:12:08 AM
แล้วพระนิพพานตามความเห็นของคุณyusamui เป็นเช่นไรครับ...?

       คำว่า"นิพาน"เป็นคำพื้นเมืองของคนอินเดียในสมัยนั้น แปลว่าเย็น เช่น ข้าวที่หุงสุกใหม่ๆยังร้อน(ไม่นิพาน) พอสักพักข้าวเย็นขึ้น แม่บ้านก็จะเรียกลูกๆมากินข้าว "มากินกันเถอะข้าวนิพานแล้ว"จริงๆแล้วคำว่านิพานเป็นคำธรรมดาที่ใช่กันอยู่ทั่วไปในอินเดีย พอพระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นพระอรหันต์ขึ้นมา จิตที่หมดสิ้นกิเลสมันเย็น ก็เลยไปเอาคำนี้มาใช้เรียก ภาวะที่หมดสิ้นกิเลส ว่า"นิพาน"
 ที่นี้เมื่อพระอรหันต์ยังไม่ดับขันธ์จิตก็ยังทำงาน เพียงแต่ไม่มีทุกข์  พอดับขันธ์แล้ว จิตก็สลายไปในอากาศธาตุ เพราะไม่เหลือเชื้อที่นำจิตไปเกิดได้อีก มันจึงไม่มีเมืองนิพานแล้ว

   แต่ถ้าเป็นเรื่องปรมัตถ์ธรรมแล้ว พระอรหันต์ไม่เกิดตั้งแต่บรรลุเป็นพระอรหันต์ เพราะตอนนั้นท่านสามารถหักกงล้อของปฏิจจสมุปบาท ลงได้ จึงไม่มีการเกิดภพ-ชาติอีก
25  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: พระโสดาบัน เคยทำบาป จะตกนรก หรือไม่ เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2012, 03:22:36 PM
***จิตเกิดดับเร็วเท่าไหร่ วงจรปฏิจจสมุปบาทก็หมุนเร็วเท่านั้น*** ผมเห็นเป็นอย่างนี้

ถ้าคุณเห็นอย่างนี้ ก็แสดงว่า แม้นพระอรหันต์ ก็ยังไม่สามารถหยุดวงล้อ ของปฏิจจสมุปบาทได้เพราะจิตของพระอรหันต์ยังมีการเกิดดับอยู่ เพียงแต่หมดสิ้นกิเลสเท่านั้น   พุทธศาสตร์ต้องอธิบายถึงเหตุ-ผลได้นะครับ มิฉะนั้นจะกลายเป็นไสยศาสตร์ไปทันที

คำถามคือคุณอยู่สมุยคิดว่า วงจรปฏิจจสมุปบาท 1 รอบ ของคุณนั้นใช้เวลาเท่าใดครับ ?
น้อยกว่า 1 วินาที, 1 วินาที, 1 ชั่วโมง, 1 วัน, 1 เดือน, 1 ปี, 1 ชาติ, 1 อสงไขย, 1 กัป, 1 อันตรกัป หรือ 1 มหากัป ครับ

  
ใน  1 รอบวงจรปฏิจจสมุปบาทเร็วเป็นเวลาขนาดไหนนั้น ผมไม่สามารถบอกได้ แต่ยกเป็นตัวอย่างแสดงก็แล้วกัน
  ในขณะที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เช่นตาไปมองเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งเดินผ่านหน้าเราไป เราเกิดชอบ อยากได้ผู้หญิงคนนี้ มาเป็นของเรา(แค่เห็น แค่อยาก นี่เป็น 1 รอบแล้วครับ)และจิตคิดต่อไปว่า(กระทบทางมโน)อยากรู้จักเธอ(เกิดอีก 1 รอบ) อยากรู้ว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน  (เกิดอีก 1 รอบ )อยากได้เธอมาเป็นแฟน (เกิดอีก 1 รอบ )ในระหว่างจิตยังปรุงแต่งมีตัณหาเกิดขึ้น วงจรปฏิจจสมุปบาทก็ยังหมุนอย่างต่อเนื่อง หรือบางทีหยุดปรุงแต่งไปแล้วเป็นวัน แล้วจิตก็กลับมาคิดเรื่องเดิมอีก วงจรปฏิจจสมุปบาทก็หมุนต่อไปได้อีก เอาเป็นว่าเร็วเท่าความคิดที่ยังมีตัณหาก็แล้วกัน

      ประเด็นมันไม่ใช่อยู่ตรงที่ว่า วงจรปฏิจจสมุปบาท มันหมุนเร็วขนาดไหน แต่มันอยู่ตรงที่เราจะหยุดมันได้อย่างไรต่างหาก
หลายคนอย่าจะคิดว่าในเมื่อวงจรมันเร็วซะขนาดนี้ แล้วจะไปหยุดมันได้อย่างไร แค่เห็น แค่อยาก ก็เกิดรอบขึ้นแล้ว
ตรงนี้เราหยุดได้ครับ เราสามารถหยุดวงจรปฏิจจสมุปบาทได้ด้วย สติ(การระลึก)  ก็สติสติปัฏฐาน ๔ ที่เราทั้งหลายฝึกกันนั้นแหละครับ เอามาใช้แต่ต้องเป็นสติสัมปชัญญะ คือสติไปขนเอาปัญญามาจัดการกับกิเลส   ที่นี่มาดูกันต่อว่าเราจะหยุดวงจรได้อย่างไร
    ในขณะที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เช่นตาไปมองเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งเดินผ่านหน้าเราไป ในขณะนั้นเองเรามีสติสัมปชัญญะ รู้ทันเวทนาก่อนจะเป็นตัณหา ว่าอ้อ..”เช่นนั้นเอง”หรือ”อย่าปรุง” หรือคำอะไรก็ได้แว้ปขึ้นมาในจิต หลังจากนั้นสติก็จะขนเอาปัญญาที่เราเรียนมาใช้เช่น ร่างกายนี้เป็นปฏิมูลไม่มีอะไรน่าชื่นชม สักวันหนึ่งก็เสื่อมสะลายไป หรือปัญญาเรื่องอะไรก็ได้สติต้องขนมาให้ทัน วงจรปฏิจจสมุปบาทก็จะหยุดลงทันที  และเอาไปใช้ได้กับทุกเรื่อง อย่างที่เคยบอก ทำครั้งแรกๆ อาจจะยังตามไม่ทัน แต่ฝึกทำบ่อยๆ เดี๋ยวจะจับได้เอง ส่วนพระอรหันต์ มีสติสัมปชัญญะ บริบูรณ์ โดยไม่ต้องพยายาม และสามารถหยุดวงจรปฏิจจสมุปบาทได้เด็ดขาดครับ
    
    ปล.เรื่องปฏิจจสมุปบาท ที่พระพุทธเจ้านำมาสอนนั้น จะต้องมีประโยชน์กับมนุษย์ เพราะเป็นหัวใจของพุทธศาสนา แต่ถ้าเราไปเรียนรู้อย่างเดียว โดยไม่สามารถไปจัดการอะไรมันได้ และเราจะเรียนไปเพื่ออะไร พระพุทธเจ้าจะสอนไปเพื่ออะไร
   ทุกสิ่งต้องมีเหตุ และผลครับ
26  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: พระโสดาบัน เคยทำบาป จะตกนรก หรือไม่ เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2012, 03:20:06 PM
ผมว่าสิ่งที่ yusamui กำลังสงสัยอยู่นั้น ลองดูให้ดีนะครับว่ามันเป็นสังขารที่ปรุงแต่ง ไป หรือเปล่าครับผม
เพราะถ้าเราได้หลักการภาวนาที่ตรงกับจริตแล้ว มั่นทำความเพียรภาวนาตามหลัก เจริญทั้ง ศีล สมาธิ และ ภาวนา

ถ้าถึงจุดที่ละความสงสัย ได้แล้ว ก็จะกระจ่างแจ่มแจ้งเอง ในสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านสอน และจะไม่คลอนแคลนในพระพุทธศาสนา
เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็น ปัจจัตตัง ทั้งนั้น ผู้ปฏิบัติพึงรู้ได้ด้วยตัวท่านเอง
สาธุ ครับผม



    สวัสดีครับ คุณgolfreeze คือผมไม่ได้สงสัยอะไร ในธรรมะพระพุทธเจ้าทรงสอนหรอกครับ เพียงแต่ผมอยากแลกเปลี่ยน สนทนาธรรม ตามที่รู้ที่ศึกษามาแค่นั้น เพราะบางทีการตีความหมายในหนังสือ อาจจะเข้าใจความหมายคนละอย่างก็เป็นได้ หวังว่าในโอกาศต่อไปผมคงได้สนทนาธรรมะกันคุณบางนะครับ
27  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: พระโสดาบัน เคยทำบาป จะตกนรก หรือไม่ เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2012, 10:28:33 AM
ขอต่อเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท
  
 ผมได้อ่าน เรื่อง ปฏิจจสมุปบาท ที่คุณเข้าใจแล้ว และสรุปได้ว่า ***จิตเกิดดับเร็วเท่าไหร่ วงจรปฏิจจสมุปบาทก็หมุนเร็วเท่านั้น***แบบนี้ใช่ไหมที่คุณเข้าใจ ๆว่าทุกขณะจิต หรือแม้นแต่ อมทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเป็นปฏิจจสมุปบาทไปหมด
    ถ้าเช่นนั้น พระอรหันต์ก็ยังตัดวงจรปฏิจจสมุปบาทไม่ได้นะสิ เพราะจิตของพระอรหันต์ ยังเกิด ดับ อยู่ตลอดเวลา หรือ เวลาที่จิตมันอยู่ว่างๆ ก็เป็นวงจรปฏิจจสมุปบาท  มีเรื่องหนึ่งเรื่องใดเกิดขึ้น โดยจิตไม่ยินดียินเรื่องก็เป็นวงจรปฏิจจสมุปบาท นั้งสมาธิแล้วจิตสงบขึ้นมาก็เป็นวงจรปฏิจจสมุปบาท  ผมว่าคุณไปเอาเรื่องวิถีจิต มาปนกับเรื่องวงจรปฏิจจสมุปบาท แล้วมังครับ คุณต้องไม่ลืมนะครับว่าใน 1 รอบของวงจรปฏิจจสมุปบาท  จะต้องมี 11 อาการ
1 อวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
2 สังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
3 วิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
4 นามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
5 สฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
6 ผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
7 เวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
8 ตัณหาเป็นปัจจัย อุปาทานจึงมี
9 อุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี
10 ภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
11 ชาติเป็นปัจจัย ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงมี ความเกิดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้อย่างนี้

                ผมจะขอยกตัวอย่างสัก 2 เรื่องให้คุณได้อ่านและพิจรณาดู
  1.  มีคนๆหนึ่ง รู้สึกหิวขึ้นมา ก็เดินเข้าไปในครัว เปิดตู้กับข้าว เห็นกับข้าว 2-3 อย่าง ได้ยกออกมาบนโต๊ะอาหาร แล้วเดินไปตักข้าวมากิน พอรู้สึกอิ่ม ก็ยกกับข้าวไปเก็บ เอาจานไปล้าง ++อาการแบบนี้ จิต ก็เกิด-ดับ แต่ ไม่ใช่วงจรปฏิจจสมุปบาท  +++เพราะไม่มีตัณหา อุปาทาน
 2.มีคนๆหนึ่ง รู้สึกว่าตัวเราหิวขึ้นมา ก็เดินเข้าไปในครัวเปิดตู้กับข้าวเห็นกับข้าว 2-3 อย่าง ไม่ค่อยพอใจ ดูไม่หน้ากิน  ได้ยกออกมาบนโต๊ะอาหารแล้วเดินไปตักข้าวมากินรู้สึกไม่ถูกปาก อยากกินที่มันอร่อยกว่านี้  ++อาการแบบนี้ แหละ คือวงจรปฏิจจสมุปบาท  +++เพราะมีตัณหา อุปาทาน
1.มีคนๆ หนึ่งนั้งดูหนัง ดูละคร ในฉากมีการ ด่าทอ ตบตี ทำร้ายกัน ดูไปก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ไปมีอารมณ์ร่วมกับนักแสดง แต่กลับรู้สึก ปลงสังเวช ในอาการเหล่านั้น ++อาการแบบนี้ จิต ก็เกิด-ดับ แต่ ไม่ใช่วงจรปฏิจจสมุปบาท  +++
2.มีคนๆ หนึ่งนั้งดูหนัง ดูละคร ในฉากมีการ ด่าทอ ตบตี ทำร้ายกัน รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที่ ว่ามาตบนางเอกของฉันทำไม  อยากตบคืน บางคนถึงกับทุบทีวีแตกก็มี ในอาการเหล่านั้น ++อาการแบบนี้ เป็นวงจรปฏิจจสมุปบาท  +++
 
    จะเห็นได้ว่า ในเรื่องเดียวกัน จะเป็น วงจรปฏิจจสมุปบาท  หรือไม่ก็ได้ ไม่ใช่ว่าจิตเกิดขึ้นจะเป็นวงจรปฏิจจสมุปบาท ไปหมด ต้องวางหลักไว้ว่า เมื่อเลยไปถึงตัณหาแล้วเท่านั้นถึงเป็นปฏิจจสมุปบาท  ถ้ายังหยุดอยู่แค่เวทนา ก็ยังไม่ใช่ วงจรปฏิจจสมุปบาท  และการที่จะตัดวงจร จะต้องตัดที่ผัสสะ หรือ เวทนาเท่านั้น
      
     (ที่คุณเข้าใจ)  สุดท้าย เราตัดโซ่คล่อมกลางตรงไหนก็ได้ วงนี้จะขาดลงทันที
การที่จิตไปเห็นความจริง บ่อยๆ ของการเกิดดับ นำไปสู่ ความเบื่อหน่าย นำไปสู่ความคลายกำหนัด จิตใจที่ได้รับรู้ ปัญญามาดีพอ ก็จะวางลง เมื่อวางก็เป็นกลาง เป็นกลางในปัจจุบัน เพราะไม่มี ความปรารถนา ไม่มีความยึดถือ สิ้นความปรารถนา สิ้นความยึดถือ เมื่อนั้นจิต จะวางลง ขณะนั้นจิตก็จะเห็น ปฏิจจสมุปบาท ก็จะประจักษ์ สมุทัย จากนั้น ก็จะเห็นการดับไป ของ ความปรารถนา และความยึดถือ คือ นิโรธ จิตก็จะแจ้งมรรค คือ เห็นทาง ทางที่ว่า คืออย่างที่ผมได้บอกไป เมื่อโซ่คล่อมกลางนั้นขาดลง ตรงไหนก็ได้ ทั้งวงก็จะขาด สะบั้นทันที เกิดไวมาก อืม อัศจรรย์โดยแท้
   

  คุณจะไปตัด อวิชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ  ได้หรือ ในเมื่อกิเกสยังไม่หมด
     และคุณจะไปตัดตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณ ตอนไหนใ นเมื่อพอเกิด ตัณหา มันก็ ไปถึงอุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณ ทันที และคุณยังเอาเรื่อง+อุเบกขา+อมทุกขมสุขเวทนา+มันเป็นเรื่องเดียวกับวงจรปฏิจจสมุปบาทอีก จนผมเริ่มมึนแล้ว

(ข้อความของคุณ)ยังมีอีกหลายเรื่องในวงจรปฏิจจสมุปบาทที่คุณอธิบายผิดแผงและยังเข้าใจไม่ถูกต้องนัก คุณรู้จักอมทุกขมสุขเวทนามั๊ยครับ ภูมิจิตภูมิธรรมคุณยังไม่รู้คุณก็นึกว่านั่นคือ จิตว่างจากกิเลส

    ที่คุณว่า ภูมิจิตภูมิธรรม ผมยังไม่รู้ แล้วที่คุณรู้มันเป็นแบบไหนครับเล่าครับ ช่วยอธิบายหน่อยว่า ภูมิจิตภูมิธรรม ของคุณเป็นอย่างไร เผื่อผมจะได้รู้ตามบ้าง



ปล.ส่วนที่คุณเข้าใจว่ามันหมุนเร็ว นั้นคือจิตครับ ไม่ใช่วงจรปฏิจจสมุปบาท

28  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: พระโสดาบัน เคยทำบาป จะตกนรก หรือไม่ เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2012, 08:09:24 AM
ว่าจะจบเรื่องพระโสดาบันที่ต้องเกิด 1-7 ชาติ แต่เมื่อยังเห็นความคลาดเคลื่อน ที่ คุณ AVATAR เข้าใจ เลยต้องย้อนมาขยายความอีกนิด


      ที่ผมบอกว่า พระโสดาบัน เกิดในวงจรแบบวงจรปฏิจจสมุปบาท 1-7 ชาตินั้น  ผมกล่าวไว้ว่า เมื่อบุคคลได้โสดาบันแล้ว จิตของผู้นั้นจะมุ่งหน้าไปนิพานเท่านั้น กล่าวคือ ไม่อยากเกิดอีกนั้นเอง เพราะเห็นความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง แต่จะมีบางครั้งบางโอกาส ที่จิตตกต่ำลง ยังอยากจะเกิด เป็น มนุษย์ และเทวดา เช่นอยากมีความสุขตามแบบของมนุษย์ ปุถุชน แบบของเทวดา จิตก็จะเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดาทันที(ถ้าคุณเข้าใจ ภพ-ชาติ ตามที่ได้อธิบายไป)แต่ไม่ได้เกิดบ่อยแบบนับรอบไม่ได้ ฉะนั้นระยะเวลาจึง บอกไม่ได้ว่ากี่วัน กี่เดือน กี่ปี กี่ชาติ อันนี้อยู่ที่อินทรีย์ของพระโสดาบันแต่ละองค์ แต่ในเมื่อความเข้าใจในเรื่องวงจรปฏิจจสมุปบาท ยังต่างกัน ก็คงจะยากที่คุณ AVATAR จะเข้าใจในเรื่องที่อธิบายไปนี้

คุณอยู่สมุยคิดว่า ประเทศไทยตอนนี้มี พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ มั๊ยครับ?

   มีแน่นนอน แต่เท่าที่ได้พบเจอมา ท่านเหล่าก็เพิ่งจะบรรลุธรรมในชาตินี้ทั้งนั้น ภายหลังจากได้ปฏิบัติกันอย่างหนักและทุ่มเทอย่างจริงจัง ยังไม่เคยเจอเลย ที่เกิดมาเป็นพระอริยะเจ้าทันที(มาจากชาติก่อน) สักองค์เดียว
29  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: พระโสดาบัน เคยทำบาป จะตกนรก หรือไม่ เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2012, 11:54:00 AM
ข้อความของคุณ  AVATAR
      ถ้าคุณมีความเห็นอย่างนี้ พระโสดาบัน พระสกทาคามี ตามความหมายของคุณก็ต้องเกิดอีกนับภพชาติไม่ถ้วน อย่างนั้นหรือครับ แล้วกลับกันถ้านับภพชาติได้อีก 7 ชาติตามวงจรปฏิจจสมุปบาท ใครได้เป็นพระโสดาบันก็เป็นพระอรหันต์เลย เพราะวงจรปฏิจจสมุปบาทนั้นมันหมุนเร็วมาก แค่ผัสสะอย่างเดียววินาทีเดียวก็เกิดยิบแล้ว


ขอถามครับ  ไหนคุณช่วยอธิบาย วงจรปฏิจจสมุปบาท ตามแบบที่คุณเข้าใจให้ฟังหน่อยครับ ไอ้ที่ว่า”วงจรปฏิจจสมุปบาทนั้นมันหมุนเร็วมาก แค่ผัสสะอย่างเดียววินาทีเดียวก็เกิดยิบแล้ว” มันเป็นยังไง มันเร็วขนาดไหน จิตของมนุษย์ตามไม่ทัน หรือว่ามันเร็วมากจนอธิบายไม่ได้ อยากรู้จริงๆ
30  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: พระโสดาบัน เคยทำบาป จะตกนรก หรือไม่ เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2012, 10:56:27 AM
เอาละ คุณ AVATAR ถึงคุณจะมีความเชื่อว่าพระโสดาบันต้องกลับเกิดเป็นมนุษย์อีก 1-7 ชาติก็ไม่เป็นอะไร เพราะว่าคุณจะเชื่ออย่างไหน มันก็ไม่ส่วนในการดับทุกข์ทั้งนั้น แต่มีอีกข้อเดียวที่ผมจะขอความคิดเห็นจากความเชื่อของคุณสักหน่อย
ว่า  ทำไมเมื่อตอนที่พระพุทธเจ้ายังอยู่(ยังไม่ดับขันธ์)ทำไมพระองค์ไม่กล่าวถึงพระโสดาบันที่ได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์เลยสักคนเดียว เช่นกล่าวว่า “นาย....ผู้นี้เมื่อชาติปางก่อนเป็นพระโสดาบัน บัดนี้ได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว”เพราะที่ผมอ่านเจอก็มีแต่ เมื่อมีบุคคลใดคนหนึ่งพอได้ฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าแล้วจึงมีดวงตาเห็นธรรม สำเร็จเป็นพระโสดาบัน จะเป็นไปได้หรือที่พระโสดาบันในยุคของพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนนี้ ไม่มี หรือมี แต่ไม่กลับมาเกิดในตอนที่พระพุทธเจ้ายังอยู่ และจะไปเกิดตอนไหน  หรือต้องรอให้พระพุทธเจ้าปรินิพานก่อนถึงจะกลับมาเกิดได้ ผมขอความกระจ่างตรงจุดนี้ แค่นี้ละครับ    หลังจากได้ฟังคำตอบของคุณเกี่ยวกับพระโสดาบันแล้ว  เป็นอันว่าขอยุติเรื่องนี้แต่เพียงเท่านี้
   ส่วนเรื่องต่อไป คือเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท เรื่องอมทุกขมสุขเวทนา เรื่อง ภูมิจิตภูมิธรรม ที่คุณได้เรียนรู้มา จะได้มาแลกเปลี่ยนความรู้กันต่อไป
หน้า: 1 [2] 3 4