KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับธรรมมะกับมนุษย์ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน ธรรมมะจากพระสงฆ์ สุปฏิปันโน เป็นข้อคิด และแนวทาง เพื่อเป็นแรงใจในการปฏิบัติภาวนาไม่มาเกิดไม่มาตายเรียกว่าชาติสุดท้าย "หลวงปู่แหวน สุจิณโณ" ของเก่าปกปิดความจริง
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่มาเกิดไม่มาตายเรียกว่าชาติสุดท้าย "หลวงปู่แหวน สุจิณโณ" ของเก่าปกปิดความจริง  (อ่าน 10253 ครั้ง)
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2011, 11:08:36 AM »

ไม่มาเกิดไม่มาตายเรียกว่าชาติสุดท้าย "หลวงปู่แหวน สุจิณโณ" ของเก่าปกปิดความจริง

หมายเหตุ - ในโอกาสวันถวายเพลิงสรีระสังขาร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะศิษย์วัดภูสังโฆ ได้จัดทำหนังสือ ไม่มาเกิดมาตายเรียกว่า “ชาติสุดท้าย” แจกเป็นที่ระลึก ก่อนหน้านี้คณะผู้จัดทำได้เคยจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้แล้วนำถวายหลวงตามหาบัว ครั้งยังดำรงขันธ์อยู่มาก่อนแล้ว เนื่องจากการพิมพ์ครั้งล่าสุดนี้หนังสือมีจำนวนจำกัด

ทางกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์จึงได้ขออนุญาต พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต เจ้าอาวาสวัดภูสังโฆ นำรายละเอียดของหนังสือมาเผยแผ่ซึ่งท่านได้แจ้งว่า ให้พิจารณาว่าจะเป็นประโยชน์หรือไม่ ทางกองบรรณาธิการจึงจะนำเสนอต้นฉบับตามเดิม โดยเพิ่มเนื้อหาที่เป็นเทศนาของพ่อแม่ครูอาจารย์แต่ละรูปเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง แล้วนำเสนอต่อเนื่องไปคราวละสัปดาห์จนกว่าจะสิ้นความหลักในหนังสือ มีรายละเอียดดังนี้



การพิจารณาก็ต้องน้อมเข้ามาสู่ภายใน พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริง เมื่อรู้แจ้งเห็นจริงแล้วมันก็วางเอง

คูบาญาปู่มั่นท่านว่า “เหตุของเก่านี้แหละแต่ไม่รู้ของเก่า” ของเก่านี้แหละมันบังของจริงอยู่นี่ มันจึงไม่รู้ ถ้ารู้ของเก่ามันก็ไม่ต้องไปคุบ มีแต่ของเก่า ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็ของเก่านี้แหละ

ขา แขน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็ของเก่านี่

เวลามาปฏิบัติภาวนาก็พิจารณาอันนี้แหละ ให้มันรู้แจ้งเห็นจริง

ให้มันรู้แจ้งออกมาจากภายใน มันจึงไปนิพพานได้

นิพพานมันหมักอยู่ในของสกปรกนี่ มันจึงไม่เห็น พลิกของสกปรกออกดูให้เห็นแจ้ง

นักปราชญ์ท่านไม่ละความเพียรเอาอยู่อย่างนั้นแหละ เอาคนรู้แจ้งเห็นจริง ทีนี้มันไม่มาเล่นกับก้อนสกปรกนี้อีก พิจารณาไปพิจารณาเอาให้นิพพานใสอยู่ในภายในนี่ ให้มันอ้อนี้เอง ถ้ามันไม่แจ้งมันไม่อ้อหนา เอาให้มันถึงอ้อจึงใช้ได้

ครั้นถึงอ้อแล้วสติก็ดี ถ้ามันยังไม่ถึงแล้ว เต็มทีสังขารตัวนี้ พิจารณาให้มันรู้แจ้งเห็นจริง ในของสกปรกเหล่านี้แหละ

ครั้นรู้แจ้งเข้า รู้แจ้งเข้ามันก็เป็นผู้รู้พระนิพพานเท่านั้น ที่มันหมักอยู่กับของสกปรกนี่หนา...จะไปเอาที่ไหนก็เอามันมีอยู่นี่แหละ ตา 1 หู 1 ตาดูรูป เป็นหญิงก็ดีชายก็ดีหรือเป็นรูปต่างๆ ก็ดี พอมันเกิดขึ้นเกิดมาแต่ที่ไหน คนนั้นว่าอย่างนั้นคนนี้ว่าอย่างนี้ ว่าอย่างไรก็ตามมันก็อันเดียวกันนี่แหละ

จำไว้ดีๆ ถ้าไม่จำไว้ดีๆ มันก็คุบของเก่า

อดีตอนาคตนี่แหละมันสำคัญ อตีตา ธัมมา อนาคตา ธัมมา อดีตอนาคตเป็นตัวเหตุ เอาเข้ามา มันก็หอบเอาๆ แหละ ไม่รู้เท่ามัน

หลวงปู่มั่น ท่านว่า เอาที่นี่หนา จะไปเอาที่ไหนมากมาย เก็บเอาหอบเอาไม่ได้หนา ประเดี๋ยวไฟนรกไหม้

คุบไปคุบมามันก็ของเก่านั่นแหละ เอาแต่มันให้รู้แจ้งเห็นจริงในพระธรรมอันเป็นพระนิพพาน มันจึงเป็น มันจึงถึงพระนิพพาน จึงเป็นผู้เบื่อหน่ายต่อโลกทั้งหลาย คือ กิเลสนั่นแหละ

ผู้ที่คุบของเก่าก็คุบอยู่นั่นแหละ มันก็เป็นของเก่าอยู่นั่นแหละ ตั้งจิตให้ถึงพระนิพพาน มันก็ของเก่านั่นแหละ... พิจารณาให้แน่หนานักปฏิบัติแท้ๆ ก็ยังไปคุบเอาของเก่าหนาว่าอย่างไร มันก็ไม่ยอมละ มันเคยยึดมานานแล้ว

แยกแยะออกไปให้มันเห็นเป็นของสกปรก อย่างนั้นหรือ?

ไม่ต้องไปแยกมันหรอก มันก็สกปรกอยู่นั่นแหละ อย่างเราถ่ายออกมามันก็เหม็นอยู่นั่น มันรู้แจ้งแล้วมันก็วางหมด ให้มันรู้แจ้งเห็นจริง รู้จริงเห็นจริง มันก็มีเท่านี้แหละ

หลวงปู่มั่นท่านว่า มันจะไปหาเอาที่ไหน จะไปหาบไปหามเอาที่ไหน ตา 1 หู 1 จมูก 1 ลิ้น กาย นี้ ใจ นี่ จำเอาของเก่านี่ หลงของเก่านี่ หลวงปู่มั่นท่านดุเอาเอ็ดเลย จำหลักให้มันแน่วแน่ว่าอย่างไรมันก็ของเก่า มันไม่รู้ของเก่ามาแต่นานแว อดีตอนาคต ไม่ต้องว่ามาก เอามันอยู่ปัจจุบันนี้แหละจะไปที่ไหน จะไปหอบไปหาบเอาที่ไหน มันมีเท่านี้หนา ตานี้ ตาก็รักษาให้ดี ตาเห็นรูปเกิดความพอใจไม่พอใจ มันก็เกิดอยู่นี้แหละ ความพอใจไม่พอใจก็ดี

เอาตรงนี้จะไปเอาที่ไหนล่ะ

ผม ขน เล็บ เล็บมือ เล็บเท้า เป็นมรรคย่นเข้าๆ มันเป็นไฟลุกไหม้อยู่นี่ ผู้ปฏิบัติต้องเอาหลักอันนี้ อันนี้ก็รูป อันนั้นก็รูป มันมาจากไหน เต็มแผ่นดินมันมากับพวกนี้แหละ เราสมมติมันต่างหาก

จำหลักอันนี้ให้แม่นๆ เพียรก็พิจารณาอยู่ในหลักอันนี้แหละ จะไปคุบเอาอย่างอื่นมาไม่ได้แหละ

นักปฏิบัติต้องย่นเข้ามาหาหลักมัน มันไม่ได้มาแต่ที่ไหน มันก็มาจากอดีตของเรานั่นแหละ

...จำหลักให้มันแม่นๆ...มันไม่ไปที่ไหนล่ะ พระนิพพานครั้นเห็นนิพพานได้แล้วมันจึงเบื่อโลก เวลาทำก็เอาอยู่นี่แหละ ใครจะว่าไปที่ไหนก็ตามเขา ละอันนี้แหละ ทำความเบื่อหน่ายกับอันนี้แหละ ทั้ง ก้อนนี้หละ นักปฏิบัติต้องพิจารณาอยู่นี้แหละชี้เข้าไปที่ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ ให้พิจารณากายพิจารณาใจ ให้เห็นให้เกิดความเบื่อหน่าย...

ญาปู่ครูอาจารย์มั่น ย้ำจริงๆ ผู้เฒ่า จะไปเอาที่ไหนจะออกจากกายจากใจไปที่ไหน เอาขนาดนั้นมันก็ยังไม่ค่อยจะเอาหนาจิตนี่...ความหลงไม่ใช่น้อยหนา จำจริงๆ เอาอยู่อย่างนั้น เอาเข้าๆ มันมีหลายตัวหนา กิเลส กิเลสความพอใจความไม่พอใจ ทุกสิ่งทุกอย่างนั่นแหละ ทั้ง 2 หู 2 ตา 2 แขน 2 ขา ลิ้น กาย

ของดีมันอยู่นี่แหละ

ผู้ปฏิบัติต้องน้อมเข้าหาสมมติให้เกิดเป็นวิมุตติ พิจารณาให้รู้แจ้งสมมติ ให้เกิดวิมุตติของนั่นแหละ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม เทศนาโปรดพุทธเวไนยสัตว์ พระองค์ก็ตรัสรู้อันนี้แหละ พระองค์จะตรัสรู้พระสัพพัญญูเป็นพระพุทธเจ้า เพื่อโปรดพุทธเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ก็มีเพียงเท่านี้แหละ...

การสวดมนต์ว่าไปก็ทำให้ใจสบาย ตาเห็นผ่านมาแล้วของเก่านั่นแหละ มันเก็บมาๆ จำให้แน่ๆ เอาอันมีอยู่นี้แหละมีอยู่เท่านี้ ที่อื่นมันก็มี แต่มันมีเรื่อง จำได้อยู่ก้า อดีตาธรรมเมา อนาคตาธรรมเมา อันนี้แหละมันเมาอยู่นี่ ของเก่านั่นแหละ เอามันอยู่นี่แหละ จะไปหอบเอาอะไรที่ไหน เอาให้มันแน่ๆ เวลาฟังมันก็แน่อยู่ จี้มันอยู่

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมทั้งหลายมันเกิดขึ้นจากนี้แหละ มันดับไปจากนี้แหละ

นักปฏิบัติของเราต้องเอาให้หนักกว่าธรรมดา ทำใจของตนให้แน่วแน่ มันจะไปสงสัยที่ไหน สงสัยมันก็สงสัยอันนี้แหละ ของเก่านี้แหละ เอาเข้าๆ กิเลสมันปรุงขึ้น โอ... ความพอใจไม่พอใจมันก็อยู่นี่แหละ มันเกิดขึ้นนี่แหละ มันเกิดมันดับอยู่นี่แหละไม่รู้เท่ามัน ถ้ารู้เท่ามันก็ดับไป เกิดขึ้นมาแล้วเกิดดีเกิดชั่ว เกิดผิดเกิดถูกก็ดับไป

ถ้ารู้เท่าทันมัน ตา หู จมูก ลิ้น กาย แขน ขา มันก็อยู่นี่แหละ มันจะไปที่ไหน ปัจจุบัน จะมีอยู่กี่ตนนักปฏิบัติ

ความหลง ความโลภ มันก็เกิดอยู่นี้แหละ

ราคะ โมหะ มันก็เกิดอยู่นี่แหละ

ความโกรธ ความหลง ความโลภ มันก็เกิดอยู่นี่

ถ้าจี้มันอยู่อย่างนี้ มันก็ค่อยได้กำลัง ของเก่านั่นแหละ

คิดถึงคูบาญาปู่มั่น ท่านว่า มันอยู่นี่ จะไปหาที่ไหน จะไปหอบไปหาบเอาที่ไหน มันอยู่นี่อยู่ในตัวเรานี้ ร้องใส่อย่างนี้แล้ว ก็หัวหนาผู้เฒ่า แต่ก่อนผู้เฒ่าปรารถนาพุทธภูมิ ผู้เฒ่าตัดออกหมด ได้บรรลุ มรรคผล นิพพาน ในภายใน รู้ภายนอกภายในหมดแล้วมันก็หยุดมันก็สบาย

คิดถึงคูบาเฒ่าปู่มั่น ผู้เฒ่าร้องใส่ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ราคะ โทสะ โมหะ มันก็เกิดขึ้นนี่

ผู้เฒ่าร้องตะโกนใส่อย่างนี้แล้วหัวเราะหนาผู้เฒ่า



ขอบพระคุณข้อมูลจาก : http://www.posttoday.com ครับผม
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2011, 06:12:52 PM »

อ่านมาเรื่อยๆครับ ถึงรากแก้วพระศาสนา เจ้าคุณอุบาลี ยังไม่ถึงหลวงปู่แหวนครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: