KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับธรรมมะกับมนุษย์ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน ประวัติของพระอริยสงฆ์ สาวกที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ รวมทั้งปฏิปทาในการปฏิบัติคนเเก้ว ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: คนเเก้ว ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร  (อ่าน 17661 ครั้ง)
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2009, 02:14:49 PM »

 

คนเเก้ว ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร

                 เมื่อ พูดถึงสถาบันการปกครองของชาติบ้านเมืองเราอาจจะนึกถึงนายกรัฐมนตรีเเละบรรดา พรรคพวกตระกูล ส. อันได้เเก่ส.จ. ส.ข. ส.ก. ไปจนถึงส.ส. (เสือ สิงห์ ...  ... ) ที่ทำหน้าที่ในการร่วมบริหารประเทศชาติเเต่ถ้า พูดถึงสถาบันศาสนาเราก็ต้องนึกถึงพระสงฆ์ซึ่งมีวัตรปฏิบัติในการสืบทอดดู เเลพระพุทธศาสนารวมถึงเผยเเผ่พระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ ผ่านมาตั้งเเต่ต้นปีเราคงได้ยินข่าวที่เกี่ยวกับพระสงฆ์ในมุมลบในเเง่ที่ขัด ความรู้สึกกับชาวบ้านอย่างเราๆกันบ้าง ทั้งข่าวพระตุ๊ด พระเเต๋วสุดเเล้วเเต่จะเรียกขานเเต่ที่เเน่ๆย่อมมีผลกระทบต่อจิตใจชาวพุทธ อยู่บ้างพอสมควร อีกมุมหนึ่งมันอาจเป็นการทดสอบความเเน่วเเน่ในจิตของชาวพุทธว่าได้หลงไปกับ เปลือกของความศรัทธาที่มีต่อศาสนามากน้อยเเค่ไหน

               คำ สอนในพระธรรมยังคงศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมือนเมื่อสองพันกว่าปีก่อนส่วนผู้ที่ เผยเเพร่อาจมีเเตกเเถวไปบ้างตามยุคสังคมโลกาภิวัฒน์   พระ สงฆ์ที่ดีๆมีความสมบูรณ์ทั้งกาย วาจา ใจ ยังมีอีกมากครับเเต่อาจจะอยู่ได้เเค่ในกรอบข่าวเล็กๆของสื่อเพราะสังคมยุค นี้มักนิยมบริโภคเเต่ข่าวที่ตื่นเต้นเเละชอบฟังข่าวที่มีที่มาที่ไปซับซ้อน เช่นใครอยู่เบื้องหลังใคร เรื่องที่มัน ลับๆ ลวงๆ พรางๆนี่ชอบเหมือนตนเองได้สวมวิญาณเชอร์ล็อคโฮมที่คอยหาความจริงเบื้องหน้า เบื้องหลังอยู่ตลอดเวลาเเต่ข่าวที่เรียบง่าย

               คน ทำความดีเเบบซื่อๆ พระสงฆ์ที่จิตบริสุทธิ์ คนที่โปร่งใสอ่านเเล้วไม่สนุกมันไม่ซาดิสส์ในอารมณ์เวลาเสพ ก็สุดเเต่การบริโภคสื่อของเเต่ละคนล่ะครับไม่ว่ากันเพราะสุดท้ายเรื่องเงิน ทองผลประโยชน์ก็ต้องมาเป็นอันดับต้นๆของการสร้างผลงานอะไรเเต่ละอย่างออกมา ในยุคสมัยนี้ เมื่อพูดถึงพระสงฆ์ที่น่าเลื่อมใสศรัทธาในระยะเวลาอันไม่ใกล้ไม่ไกลเมื่อสมัยปลายพ.ศ.๒๔๐๐ ถึงต้นพ.ศ. ๒๕๐๐ ทำให้นึกถึงภิกษุรูปหนึ่งที่หลายท่านรู้จักหรืออาจเคยได้ยินมาบ้าง ที่เเน่ๆเเฟนๆนิตยสาร Vote เล่มนี้ด้วยเเล้วอายุอานามผู้อ่านเเต่ละท่านเชื่อว่าต้องรู้จักพระรูปนี้ซึ่งฉายาในบวรพุทธศาสนาคือ ท่านธมฺมวิตกฺโก เเละก่อนที่ท่านจะมาอุปสมบทท่านมียศถึงขั้นพระยานามว่า พระยานรรัตน์ราชมานิต หรือชาวบ้านรู้จักกันดีในนาม ท่านเจ้าคุณนรฯนั่นเอง

               ขอเอ่ยประวัติพอสังเขปให้ฟังเพื่อความระลึกถึง เดิมท่านมีชื่อว่า ตรึก จินตยานนท์ มาสู่มนุษย์โลกนี้เมื่อวันเสาร์ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓ ปีระกาตรงกับวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๐ เวลา ๗.๔๐ น.อันเป็นวันมาฆบูชาพอดิบพอดี ที่หลังวัดโสมนัสวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานครนี่เอง บิดาท่านคือพระนรราชภักดี (ตรอง จินตยานนท์) มารดาชื่อนางนรราชภักดี (พุก จินตยานนท์) มีพี่น้องรวมห้าคนท่านเป็นบุตรคนเเรก เริ่มเรียนหนังสือที่วัดโสมนัสวิหาร ต่อมัธยมที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตรจากนั้นศึกษาปริญญาตรีที่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย คณะรัฐศาสตร์ซึ่งเป็นบัณฑิตของคณะรุ่นเเรกในปีพ.ศ. ๒๔๕๘ โดยสอบได้ที่ ๑ ในรุ่นอีกด้วย

   ในปีพ. ศ. ๒๔๕๗ ได้เข้ารับราชการซ้อมรบเสือป่าที่จังหวัดราชบุรีจนได้รับเลือกเป็นมหาดเล็ก รับใช้จนเมื่ออายุได้ ๑๘ ปีก็ได้รับการเข้าเฝ้ารับราชการสนองพระเดชพระคุณในล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๖ เเละด้วยความวิริยะอุตสาหะซื่อสัตย์เเละมีปฏิภาณไหวพริบสนองงานราชการอย่าง มิเคยย่อท้อตลอดมาจึงได้เลื่อนชั้นบรรดาศักดิ์เป็น พระยานรรัตน์ราชมานิต ตำเเหน่งเจ้ากรมห้องพระบรรทมในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จนกระทั่งอายุได้ ๒๕ ปีก็มียศตำเเหน่งเป็นถึงองคมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในเวลานั้น ครั้นในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพของล้นเกล้าฯรัชการที่ ๖ ก็ได้กราบถวายบังคมลาเพื่อบรรพชาอุปสมบท น้อมเกล้า ฯ อุทิศพระราชกุศลถวายสนองพระเดชพระคุณในล้นเกล้า ฯ



               ด้วย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ พระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ปีพ.ศ. ๒๔๖๘ เวลาบ่ายโมงเศษ ๆจนได้รับฉายาว่า ธมฺมวิตกฺโก เเปลว่า ผู้ตรึกในธรรม  เมื่อ อยู่ในบวรพุทธศาสนาระยะเเรกท่านเเทบไม่พบใครเเละไม่ค่อยให้ใครเข้าพบเพราะ ต้องการศึกษาด้านสมาธิจิตให้ลึกซึ้งรวมถึงศึกษาทางธรรมในเชิงลึกทุกมุมทุก ด้านจนเเตกฉานสำเร็จทั้งด้านความเพียรบารมี ปัญญาบารมีเเละความเมตตาบารมี อีกทั้งทุกๆวันท่านก็จะลงโบสถ์ทำวัตรเช้า เย็นโดยตลอดเเทบมิได้ขาดเลยเเม้เเต่วันเดียวตลอดระยะเวลา ๔๖ พรรษาตั้งเเต่เริ่มอุปสมบทมา

                        

                  ยิ่ง ในความรู้สึกของสามเณรในวัดนี้หรือวัดอื่นๆรวมถึงบุคคลโดยทั่วไปที่มีความ สนใจในตัวท่านต่างก็มั่นใจเเละเลื่อมใสในคุณธรรมเเละความเป็นอยู่ของท่านที่ สมถะอยู่อย่างเรียบง่ายในกุฏิไม่ต้องมีไฟฟ้าใช้เพราะท่านบอกเอาไว้ว่า ธรรมชาติได้สร้างกลางวันให้มีเเสงเอาไว้ให้ปฏิบัติภาระกิจของโลกกันอยู่ เเล้วตอนกลางคืนก็เป็นเวลาของการสร้างประโยชน์ให้กับจิตตนเองโดยการทำสมาธิ ฝึกอบรมร่างกายเเละจิตใจตนเองให้สามารถยังประโยชน์เเก่ตนเองเเละเเก่สังคมใน วันต่อไปจึงจะมีประโยชน์มากที่สุด ส่วน ที่เรียกท่านว่าเจ้าคุณนรรัตน์นั้นอันที่จริงเเล้วบางคนยังเข้าใจผิดคิดว่า ท่านได้รับการเเต่งตั้งให้เป็นเจ้าคุณทางสงฆ์ ความจริงท่านไม่รับตำเเหน่งใดๆจากทางคณะสงฆ์เลยเเละถึงจะได้ท่านก็ไม่รับ  ท่านว่า พอเเล้ว



                  ท่าน ได้ยศตำเเหน่งทางโลกมาเพียงพอเเล้ว คิดดูขนาดยศตำเเหน่งในขณะที่ยังไม่เข้า ๒๕ ดีก็เป็นถึงพระยาได้เข้าเฝ้าใกล้ชิดองค์เหนือหัว เเต่ที่หลายคนเรียกท่านว่าเจ้าคุณนรรัตน์นั้นก็คือเอายศชั้นพระยาของท่าน ซึ่งได้รับพระราชทานเอาไว้ตั้งเเต่ก่อนบวชมาใช้เรียกนำหน้าว่าท่านเจ้าคุณ นรรัตน์ นั่นเอง ส่วนประวัติด้านอื่นๆที่เป็นเรื่องราวด้านปาฏิหารย์ความอัศจรรย์คงจะไม่ขอ กล่าวเพราะเนื้อหาความสมบูรณ์เชิงชีวประวัติสามารถหาได้จากร้านหนังสือใหญ่ๆ ยังพอที่จะหามาอ่านได้อยู่ ผมตั้งใจอยากให้ท่านผู้อ่านลองศึกษาเเนวคิดเเละให้สังเกตุในวัตรปฏิบัติของ ท่านมากกว่าอีกทั้งคำสอนของท่านเจ้าคุณนรฯยังสามารถปรับประยุกต์ให้เข้ากับ สถานะการณ์ของสังคมโลกเราในปัจจุบันได้ดีเป็นอย่างยิ่ง

                  ยกตัวอย่างเช่นท่านพูดถึงดอกมะลิ ท่านว่าดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่ถูกรับรองเเล้วว่าเป็นดอกไม้ที่หอมเย็นที่สุดเเละขาวบริสุทธิ์ที่สุดในบรรดาดอกไม้ทั้งหลาย  ชีวิต มนุษย์ที่เป็นอยู่ก็เช่นเดียวกับการเล่นละคร ขอให้เป็นตัวเอกที่มีชื่อเสียงที่สุดเช่นเดียวหรือลักษณะเดียวกับดอกมะลิ อย่าเป็นตัวผู้ร้ายที่เลวที่สุดเเละให้เห็นว่าดอกมะลินี้จะบานเต็มที่เพียง สองถึงสามวันเท่านั้นก็จะเหี่ยวเฉาไป  ฉะนั้น ขอให้ทำตัวให้ดีที่สุด เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ให้หอมที่สุดเหมือนดอกมะลิที่เริ่มเเย้มบานฉะนั้น โอ วาสธรรมของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ทำให้ผมนึกบ้านเราเมืองเราตลอดไปจนถึงท่านผู้ นำเก่า ท่านผู้นำใหม่เรื่อยไปจนถึงท่านๆๆว่าชีวิตเรานี้ไม่ยาวเลย สั้นมากเผลอหน่อยฟันฟาง เนื้อหนัง สีผม ข้อต่อกระดูกตามจุดต่างๆอาการปวดตึง ความคมชัดของสายตา ความหนาเเละน้ำหนักของร่างกาย

                  

                  จาก วันที่เริ่มเข้าวงการของเเต่ละท่านมาจนถึงวันที่ได้อ่านบทความนี้ มันได้เปลี่ยนไปมากน้อยขนาดไหนเเล้ว ณ วันนี้ท่านเลือกที่จะเป็นตัวเอกหรือตัวร้ายให้กับสังคมเเละประเทศชาติ   คง ไม่ได้เขียนเพื่อกระทบใครคนใดคนหนึ่งเพียงเเค่อยากนำคำสอนของพระสงฆ์ที่ขึ้น ชื่อว่าเป็นอริยะบุคคลอย่างเเท้จริงมาให้ข้อคิดเพื่อเป็นเเนวทางการดำรง ชีวิตนับเเต่นี้เเละสุดท้ายก็ขอฝากโอวาสธรรมอันขึ้นชื่อว่าทันสมัยเหมาะสม กับทุกสังคมทุกชนชั้นเป็นคำสอนที่ไม่มีตกยุคเรียกว่าเป็นโอวาสธรรมขั้นคลา สสิคไปตลอดกาลเเล้วเเต่ว่าจะโดนใจใครบ้างหรือใครเล็งเห็นประโยคธรรมก็จะ สามารถสร้างประโยชน์ให้กับตนเองเเละกับส่วนรวมก็ต้องขอนำคำสอนของท่านเจ้าคุณนรฯมาเตือนสติให้กับชาวพุทธทุกท่าน

               เสมือน ดั่งพระเดชพระคุณท่านได้ข้ามเวลาเพื่อมาโปรดสัตว์โลกในสังคมยุคปัจจุบัน เปรียบเทียบเป็นได้ทั้งฝ่ายรัฐบาลที่สามารถนำไปใช้เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ กับตนเองหรืออีกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นสีใดก็สามารถใช้เตือนสติตัวเองในทุกๆสิ่ง ที่กำลังจะดำเนินการณ์นับเเต่นี้ได้อีกเช่นกันอยู่ ที่ว่าใครนำไปใช้เเล้วสามารถก่อร่างสร้างประโยชน์ให้กับสังคมเเละประเทศชาติ มากที่สุดคนผู้นั้นย่อมจะเป็นคนที่หมู่อริยะชนเเซ่ซ้องสรรเสริญเทพเทวาก็จะ อำนวยอวยชัยให้การณ์ใดนับเเต่นี้ประสบเเต่ความสำเร็จเปรียบดั่งนามของท่าน เจ้าคุณคือ นรรัตน์ ซึ่งเเปลว่า คนเเก้ว หมายถึงคนที่บริสุทธิ์ สามารถตรวจสอบได้ในทุกเหลี่ยมทุกมุมด้วยความโปร่งใสไม่มีสิ่งใดเคลือบเเฝงในทุกๆมิติของตนนั่นเอง  

 โอวาสธรรมโดย ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร        





ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก บทความโดย อาจารย์ณัฐ  นรรัตน์. (๑๗ มีนาคม ๒๕๕๒)
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 17, 2009, 12:04:41 PM »

วาทะของเจ้าคุณนรรัตน์

"ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ยังไม่ใช่ของจริง"
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: