KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4ภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 คืออะไร สำคัญอย่างไรอิทธิบาท 4 ที่ทำให้สามารถต่ออายุได้นานถึงวันสิ้นโลก คืออิทธิบาท 4 ของพระพุทธเจ้า
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อิทธิบาท 4 ที่ทำให้สามารถต่ออายุได้นานถึงวันสิ้นโลก คืออิทธิบาท 4 ของพระพุทธเจ้า  (อ่าน 13037 ครั้ง)
phonsakw
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 1
**

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 2
กระทู้: 94


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: กันยายน 08, 2012, 06:45:54 PM »

อิทธิบาท 4 ที่ทำให้สามารถต่ออายุได้นานถึงวันสิ้นโลก คืออิทธิบาท 4 ของพระพุทธเจ้า


ตามหลักของวิทยาศาสตร์ มนุษย์เราตายตามธรรมชาติเพราะมีเชื้อแบตทีเรีย และเชื้อโรคต่างๆ เข้ามาทำลายเนื้อเยื่อ และเซลอวัยวะภายใน หรือทำให้กายของเราสกปรก และเสื่อมสภาพไป  ถ้ามันไม่ทำลายเนื้อเยื่อ ไม่ทำลายเซลอวัยวะภายในของเรา  เราย่อมเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย

   มนุษย์ทั่วโลกและมนุษย์ในทุกยุคทุกสมัย  ต่างก็มีความพยายามหาตัวยา  ที่สามารถคงสภาพเนื้อเยื่อ และเซลอวัยวะภายในของเราเอาไว้   เราจะได้ไม่ตาย  แต่จนถึงวันนี้  ยังไม่มีใครพบตัวยาอายุวัฒนะแบบนั้น

   ไม่มีใครเฉลียวใจคิดเลยว่า  เชื้อโรค = พลังร้ายที่เจ้ากรรมนายเวรของเราปล่อยออกมาทำร้ายเรา  เป็นผลมาจากบาปกรรมที่เราเคยก่อไว้กับเขา

ในทางพุทธศาสนา  การต่ออายุให้ยืนยาวทำได้โดยการทำบุญเอาไว้มากๆ  และทำบุญทำทานหรือทำสมาธิแล้วแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร  เมื่อเจ้ากรรมนายเวรให้อภัย อโหสิกรรมให้เราแล้ว  เราก็มีชีวิตยืนนาน ไม่ตายเร็ว

    
   แต่ทว่าเจ้ากรรมนายเวรมันมีจำนวนมหาศาลเหลือเกิน  เพราะเราทุกคนเวียนว่ายตายเกิด  มาแสดงละครบนโลกใบนี้ และโลกในมิติอื่น นับจำนวนชาติไม่ได้  พระพุทธเจ้าตรัสว่า    คนเราแต่ละคน เกิด-ดับ เกิด-ดับ เกิด-ดับ หากนำกระดูกมากองรวมกันจะกองได้เท่าภูเขาลูกใหญ่ที่สุดเลย

    
   ด้วยเหตุนี้  พระอรหันต์ทั่วไป  ท่านจึงต้องยอมตาย  ไม่ยอมต่อชีวิตให้ยืนยาวเกินกว่าที่ควรอยู่ได้ตามปกติของมนุษย์    แต่มีพระอรหันต์อีกประเภทหนึ่ง  คือ  พระครูเทพโลกอุดร  และ พระอริยะวังโส  พวกท่านตั้งจิตอธิษฐานกับพระพุทธเจ้า  ขออยู่ดูแลพระพุทธศาสนาให้ถึง 5000 ปี ตามอายุของพุทธศาสนา  และพวกท่านทั้ง 2 ก็ไปพากเพียรบริกรรมตามวิธีที่ท่านถนัด  ที่สำคัญ คือ  ทุกครั้งท่านต้องแผ่เมตตาให้กับบรรดาเจ้ากรรมนายเวรของท่านซึ่งมีเป็นอนันต์เสมอ

   ตามหลักแล้ว ถ้ากายเนื้อหรือขันธ์ 5 ของใครสะอาดบริสุทธิ์  ไม่ใช่เฉพาะจิตเท่านั้นที่บริสุทธิ์  ย่อมหมายความว่าเจ้ากรรมนายเวรที่มีเป็นอนันต์ของเขาหมดไปแล้ว     เชื้อโรค ที่เป็นพลังที่เจ้ากรรมนายเวรส่งมา ก็จะไม่สามารถเข้าไปทำลายกายเนื้อหรือขันธ์ 5 ที่สะอาดบริสุทธิ์ของท่านได้
    
   กายเนื้อหรือขันธ์ 5 ของผู้ที่สะอาดบริสุทธิ์ ไม่ใช่เฉพาะจิตเท่านั้นที่บริสุทธิ์  คือ  กายเนื้อของพระพุทธเจ้าของเราและพระพุทธเจ้าทุกพระองค์  พระพุทธเจ้าของเราตรัสว่า:
    
   “อย่าเลยอานนท์ บารมีเราได้สร้างมาดีแล้ว  ไม่มีใครสามารถปลงชีวิตของตถาคตได้  

   ไม่ว่าสัตว์ดิรัจฉานหรือมนุษย์หรือเทวดามารพรหมใด ๆ”


    
 *** นี่แหละคือ อิทธิบาท 4 ขั้นที่ทำให้สามารถต่ออายุได้นานถึงวันสิ้นโลก ***

ฟังจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าเอาเองนะครับ

   "อานนท์ อิทธิบาท 4 นี้  เราตถาคตเจริญ ทำให้มากแล้ว....ถ้าเราตถาคตปรารถนา จะพึงอยู่ได้ตลอดกัปหนึ่ง หรือเกินกว่ากัปหนึ่ง”
  
   =  พระพุทธเจ้าของเราและพระพุทธเจ้าทุกพระองค์  ต้องฆ่าตัวตายเอาเองทั้งนั้น  ไม่งั้นไม่มีทางตาย
    
  สรุป   การจะมีชีวิตอยู่ได้เป็นกัป ถึงวันสิ้นโลกได้   เป็นเรื่องที่เรียกว่า “เหนือธรรมชาติ” ทำได้เฉพาะพระอรหันต์ที่ละลายบาปกรรมที่มีผลต่อการตายหมดแล้วเท่านั้น จึงจะทำได้
    
   และพระอรหันต์ท่านนั้น ไม่มีทางทำเช่นนั้นได้ในชาติเดียวอย่างแน่นอน   เพราะต้องแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรที่มีผลต่อการตายทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนเป็นอนันต์  คนที่ทำได้ต้องเพียรพยายามข้ามภพข้ามชาติมาอย่างนับชาติไม่ถ้วนทีเดียว  อย่างพระพุทธเจ้าของเราต้องสร้างบารมีมาถึง ๒๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัป   มีเหลือกรรมสุดท้ายในชาติที่เป็นพระพุทธเจ้าไม่มากแล้ว  ท่านจึงสามารถทำอิทธิบาท 4 ได้ถึงขั้นต่ออายุตัวเองได้ถึงวันสิ้นโลก  ถ้าท่านจะทำ

       พึงรู้ว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องฆ่าตัวตายเองทั้งนั้น   ไม่มีใครสามารถฆ่าพวกท่านได้  เพราะพระพุทธเจ้าทุกพระองค์  ได้ทำอิทธิบาท 4 ข้ามภพข้ามชาติ  ได้ถึงระดับโลกุตตระขั้นเหนือธรรมชาติแล้วทั้งนั้น  พวกท่านสามารถต่ออายุได้นานเป็นกัป  จึงถึงวันโลกแตกได้สบาย  เรื่องนี้เป็นเรื่องเด็กๆ  ไม่มีปัญหาสำหรับพวกท่านหรอก
    
  “ดูก่อนอานนท์……ใครก็ตามถ้าเจริญอิทธิบาท 4 ประการ  ทำให้มาก  ทำให้คล่องตัวดุจยาน  ทำให้เป็นดุจพื้นที่มั่นคง  อบรมฝึกปรือ  เริ่มอย่างดีอย่างถูกต้อง เขาผู้นั้นถ้าปรารถนา จะพึงอยู่ได้ตลอดกัปหนึ่ง หรือเกินกว่ากัปหนึ่ง"
บันทึกการเข้า
phonsakw
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 1
**

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 2
กระทู้: 94


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 09, 2012, 12:30:27 PM »

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ pummuq
คุณเข้าใจผิดน่ะ คำว่ากัปนั้นคือกัปป์อายุของมนุษย์ในตอนนั้น ตอนนั้นอายุหนึ่งกัปก็คือ 100 ปีไม่ใช่เป็นกัปป์แบบที่คุณเข้าใจ เป็นกัปป์อายุมนุษย์
ผมไม่แน่ใจคำสะกดที่ถูกต้อง


ไปฟังข้อมูลเพิ่มเติมจากปราชญ์สมัยเรายังไม่เกิดกันได้ครับที่


อิทธิบาท 4 ทำให้มีชีวิตอยู่ชั่วกัปป์ ชั่วกัลป์ - YouTube


ตอบ

1 กัป = 100 ปี หรือ 120 ปี เป็นคำสอนของพญามาร ที่เข้ามาสิงใจสมมุติสงฆ์ที่ไม่ปฏิบัติ หรือปฏิบัติได้ไม่ถึงขั้น ไปคิดว่าปัญญาคือการใช้สมองคิดอย่างเดียว

ปัญญาที่แท้จริง ที่จะเข้าถึงแก่นธรรม เป็นปัญญาจากการปฏิบัิติเท่านั้น ปัญญาจากสมองคิด อยู่ภายใต้การบงการของพญามาร

กัป เป็นคำที่ใช้มาตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ในศาสนาฮินดู ลงมาถึงศาสนาพุทธ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่งมาถูกเปลี่ยนแปลงและตีความใหม่โดยแก๊งค์หัวล้าน ที่เอามาเหลืองมาห่ม ไม่ปฏิบัติให้เข้าถึงแก่น
บันทึกการเข้า
phonsakw
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 1
**

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 2
กระทู้: 94


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 09, 2012, 12:40:28 PM »

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ถิ่นธรรม
เรื่องของอายุกัปป์ไม่มีในพระพุทธศาสนา แต่งเิติมเอาภายหลังให้เข้ากับลัทธิความเชื่อของตน


ตอบ

ใช่แล้วครับ ก็อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ

กัป เป็นคำที่ใช้มาตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ในศาสนาฮินดู ลงมาถึงศาสนาพุทธ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่งมาถูกเปลี่ยนแปลงและตีความใหม่โดยแก๊งค์หัวล้าน ที่เอามาเหลืองมาห่ม ไม่ปฏิบัติให้เข้าถึงแก่น
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: