KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับธรรมมะกับมนุษย์ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน ธรรมมะจากพระสงฆ์ สุปฏิปันโน เป็นข้อคิด และแนวทาง เพื่อเป็นแรงใจในการปฏิบัติภาวนาธรรมะที่ถ่ายทอดโดย หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสระแก และ ธรรมะลึกซึ้งเข้าใจง่าย
หน้า: [1] 2
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะที่ถ่ายทอดโดย หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสระแก และ ธรรมะลึกซึ้งเข้าใจง่าย  (อ่าน 37300 ครั้ง)
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2011, 11:20:38 AM »



เรื่องเล่า หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสระแก และ ธรรมะลึกซึ้งเข้าใจง่าย

๑. ให้รู้จักบุญ

การทำบุญทำกุศลนั้น โปรดอย่านึกว่าจะต้องหอบข้าวหอบของไปใส่บาตรที่วัดทุกวัน
 หรือบุญจะเกิดได้ก็ต้องทอดกฐินสร้างโบสถ์ สร้างศาลา และอื่นๆ

อย่าง ที่เขาโฆษณาขายบุญกันทั้งทางวิทยุ หนังสือพิมพ์ และใบเรี่ยไรกันเกลื่อนกลาด
 จนรู้สึกว่าจะต้องเป็นภาระที่จะต้องบริจาคเมื่อไปวัดหรือสำนักนั้นๆ เป็นประจำ

บทสวดมนต์ชื่อ พระพุทธชัยมงคลคาถา ที่ขึ้นต้นด้วยพาหุงมีอยู่ท่อนหนึ่ง
ซึ่งกล่าวถึงพระพุทธเจ้าทรงชนะมารคือกิเลสว่า "ทานาทิธัมมวิธินา ชิตวา มุนินโท" แปลว่า

พระ พุทธเจ้าผู้ทรงเป็นจอมปราชญ์ ทรงชนะมารคือกิเลสด้วยวิธีบำเพ็ญบารมีธรรมคือความดี
มีการบริจาคทานเป็นต้น พระพุทธเจ้าทรงสอนการทำบุญทำกุศล

ด้วย การให้ทาน รักษาศีล และสวดมนต์เจริญสมาธิภาวนา ให้ทานทุกครั้ง
ให้ทำลายความโลภ คือกิเลสทุกครั้ง รักษาศีล เจริญภาวนาเพื่อทำลายความโกรธ

ความเห็นแก่ตัว ให้ใจสะอาด ใจไม่เศร้าหมอง มองเห็นบาปคุณโทษได้ทุกครั้ง ทำได้ดังนี้จึงชื่อว่า ทำตามพระพุทธเจ้า

๒. จบของทำบุญ-อธิษฐานรับพร

ก่อน ที่ท่านผู้มีศรัทธาทั้งหลายจะถวายของแก่พระภิกษุสงฆ์ มักจะมีการอธิษฐานหรือที่เรียกว่า
จบของ บางคนจบนาน บางคนจบช้า หลวงปู่ท่านให้ข้อคิดว่า

"ก่อน ที่เราจะถวายให้จบมาเสียก่อนจากบ้าน เนื่องจากพอมาถึงวัดมักจะจบไม่ได้เรื่อง
คนมากมายเดินไปเดินมา จะหาสมาธิมาจากไหน เราจะทำอะไรก็ตามอธิษฐานไว้เลย

เวลาถวายจะได้ไม่ช้าเสียเวลาคนอื่นเขาอีกด้วย บางคนก็ขอไม่รู้จบ ให้ตัวเองไม่พอ
ให้ลูกให้หลาน จิตเลยส่ายหาบุญไม่ได้" การที่หลวงปู่ให้จบก่อนนั้น

มีความประสงค์ให้ตั้งเจตนาให้ดี บุญที่ได้รับจะมีผลมาก ญาติโยมจึงกราบเรียนหลวงปู่ว่า

"ควรอธิษฐานอย่างไร" หลวงปู่ตอบว่า

"อธิษฐานให้พ้นทุกข์หรือขอให้พบแต่ความดีตลอดไปจนพ้นทุกข์ ถ้าเป็นบาลีก็ว่า

สุทินนังวะตะเม ทานัง อาสวะขะยาวะหัง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
คนเราจะพ้นทุกข์ได้ต้องพบกับความดีมีความสุขใช่ไหม ไม่ต้องอธิษฐานให้ยืดยาวหรอก"

เมื่อทำบุญแล้วมักจะมีการรับพรจากพระ มีการกรวดน้ำ บางทีไม่ได้เตรียมไว้ต้องวิ่งหากันให้วุ่นวาย หลวงปู่บอกว่า

"ใช้ น้ำจิตน้ำใจของเรากรวดก็ได้ เขาเรียกกรวดแห้ง ไม่ต้องกรวดเปียก
เรื่องการกรวดเปียกเขาเริ่มมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าพิมพิสาร เมื่อถวายของพระพุทธเจ้าแล้ว

ท่านกรวด น้ำให้เปรตญาติพี่น้องที่มาร้องขอบุญจากท่าน ตอนแรกท่านไม่รู้เลยทูลถามพระพุทธเจ้า
ที่เขาเรียกว่า ทุ สะ นะ โส คือหัวใจเปรตนั่นแหละ"

หลวง ปู่ท่านตอบเพื่อให้คลายกังวลสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลากรวดน้ำเช่น
คนที่รีบใส่บาตรก่อนจะไปทำงาน เป็นต้น ส่วนการอธิษฐานรับพรนั้นท่านแนะนำว่า

"ข้าพเจ้า ขอรับพรที่ได้นี้ ขอให้ติดตัวข้าพเจ้าตลอดไปในชาตินี้และชาติหน้า
แล้วก็อธิษฐานเรียกพระเข้าตัวเวลามีพิธีอะไร อย่างเช่น เวลาเขาปลุกเสกพระ

เราก็สามารถรับพรจากพระองค์ไหนๆ ก็ได้ทั้งนั้น"การสำรวมกาย วาจา ใจ
จึงเป็นสิ่งสำคัญเมื่อมีพิธีกรรมทางสงฆ์ เพราะบ่อยครั้งที่ขณะพระให้ศีลหรือให้พร

ญาติ โยมบางคนก็เริ่มคุยแข่งกับพระ เสียงโยมเมื่อรวมกันดังกว่าเสียงพระเสียอีก
ตนเองไม่ได้บุญยังไม่พอ แต่กลับไปสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น เรียกว่าการขัดบุญที่ผู้อื่นพึงได้รับ

หลวงปู่เคยพูดว่า "ระวังให้ดี เดี๋ยวจะเกิดเป็นตะเข้ขวางคลอง"


๓. อยู่ที่ใจ

การ จุดธูปเทียนเพื่อบูชาพระในพิธีกรรมต่างๆ มักจะไม่เหมือนกัน
บางท่านต้องการไหว้พระแต่ยังตกลงใจไม่ได้ว่าจะใช้ธูปกี่ดอกถึงจะเหมาะสม หลวงปู่เคยตอบคำถามเรื่องนี้กับผู้ที่สงสัยว่า

หลวงปู่ "จุดกี่ดอกก็ได้ ส่วนใหญ่มักใช้ ๓ ดอก บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กี่ดอกก็มีความหมายทั้งนั้น"

ผู้ถาม "อย่างนั้นถ้าจุดดอกเดียว ไม่ถือว่าไหว้ผีหรือไหว้ศพหรือครับ"
หลวงปู่ "จุด ๑ ดอก หมายถึง จิตหนึ่ง
จุด ๒ ดอก หมายถึง กายกับจิต หรือ โลกกับธรรม

จุด ๓ ดอก หมายถึง พระรัตนตรัย หรือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
จุด ๔ ดอก หมายถึง อริยสัจ ๔
จุด ๕ ดอก หมายถึง พระเจ้าห้าพระองค์ นะโมพุทธายะ

จุด ๖ ดอก หมายถึง สิริ ๖ ประการ ที่แกกราบพระ ๖ ครั้ง
จุด ๗ ดอก หมายถึง โพชฌงค์ ๗
จุด ๘ ดอก หมายถึง มรรคแปด

จุด ๙ ดอก หมายถึง นวโลกุตรธรรม
จุด ๑๐ ดอก หมายถึง บารมี ๑๐ ประการ
อยู่ที่เราจะคิดให้ดี เอาอะไรก็ได้"

ผู้ถาม "ถ้า ๑๑ ดอก หมายถึง......."
หลวงปู่ "ก็บารมี ๑๐ ประการกับจิตหนึ่ง ว่าไปได้เรื่อยๆ แหมแกถามซะข้าเกือบไม่จน"

ผู้ถาม "ถ้าไม่มีธูปเทียน"
หลวงปู่ "ก็ใช้ชีวิตจิตใจบูชา ไม่เห็นต้องมีอะไร
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ชีวิตัง ปูเชมิ"

หลวงปู่หัวเราะมองหน้าผู้ถามที่รู้สึกทึ่งในปฏิภาณของหลวงปู่
ผมชอบเรื่องนี้มั่กๆ ปฏิภาณของหลวงปู่เกินบรรยายจริงๆ

๔. อยากได้บุญมาก

พระ สงฆ์ถือว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลก ผู้ที่ถวายทานท่าน จึงได้ชื่อว่าปลูกบุญนิธิไว้ในศาสนา
แต่จะได้ผลมากน้อยนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างได้แก่

พระ - ซึ่งเป็นตัวเนื้อนาบุญ หากเป็นพระดีก็เปรียบดังที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุ

วัตถุ - หรือวัตถุทานนี้ หากได้มาโดยความบริสุทธิ์ไม่ได้ไปลักชิงของใครเขามาก็
ย่อมเป็นวัตถุทานที่บริสุทธิ์เหมาะแก่การบริโภคใช้สอย

เจตนา - ความตั้งใจและความศรัทธามากน้อยเพียงใด บุญก็ย่อมมากน้อยไปตามเพียงนั้น

องค์ ประกอบทั้ง ๓ นี้ เป็นสื่อผูกพันเพื่อให้เกิดบุญสมความปรารถนา
มีศรัทธาญาติโยมบางท่านเกิดความไม่แน่ใจในตัวพระสงฆ์ จึงได้มาเรียนถามหลวงปู่เพื่อให้หายข้องใจ
ซึ่งหลวงปู่ก็ได้เมตตาตอบดังนี้

"อธิษฐาน ก่อนถวายทาน ทำจิตใจของเราให้ไปถวายกับพระพุทธเจ้าเลย
 จะได้บุญสูงพระที่รับเป็นเพียงผู้อุปโลกน์ ถ้าท่านไม่ดีจริง ท่านก็ไปนรก"

พระ พุทธเจ้าเป็นผู้ตั้งศาสนา มีพระหฤทัยที่บริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยธรรมปัญญา
พระสงฆ์เปรียบเสมือนเสนาบดีของพระพุทธองค์ การถวายทานจึงได้ชื่อว่า
ได้ดำเนินรอยตามพระยุคลบาทของพระศาสดาผู้เป็นใหญ่ แห่งสามโลกพระองค์นั้น

๕. ผีลองดี

ครั้ง หนึ่งหลวงปู่ดู่เดินทางไปเรียนวิชาทำธง ที่วัดตะเขง จังหวัดสระบุรี
เพราะหลวงปู่แด่เป็นผู้สั่งให้ไปเรียน เมื่อไปถึงหลวงปู่ที่วัดท่านบอกว่า

หลวงปู่ "ผมแก่แล้วตาไม่ค่อยดี นิมนต์กลับไปเรียนกับอาจารย์แด่ท่านเถิด
 เออ คุณผ่านมาตรงช่องเขามีใครเขาหยอกคุณหรือเปล่า"

หลวงปู่ดู่ "มีครับแต่ไม่เป็นไร"
หลวงปู่ "ขากลับไปเถอะ ไม่มีอะไร"

หลวงปู่ดู่เล่าให้ฟังว่า

"เดิน ไประหว่างช่องเขา มีคนปาก้อนหินลงมาก้อนเบ้อเร่อ ถูกข้าคงตาย
แต่ข้าไม่กลัว มีคนเขาเดินผ่านมาทางนี้ ผีพวกนี้มักปาแกล้งลงมา
 ขากลับก็ไม่มีอะไรจริงๆ ตกลงไม่ได้เรียน ต้องกลับมาหาอาจารย์แด่"

๖. โมทนาบุญ

ผู้ ที่มาทำบุญที่วัดบางครั้งมาคนเดียว มาหลายคน หรือมากับครอบครัว
บางท่านมีศรัทธามากทำบุญอย่างสม่ำเสมอ แต่เกิดอุปสรรคจากสามีหรือภรรยา หรือพ่อแม่ไม่เห็นดีด้วย

บาง คนถึงกับออกปากว่า "พระมีเฉพาะที่วัดสะแกหรือไง เจ้าอาวาสยังหนุ่มใช่ไหม"
ร้อยสรรพันเรื่องที่หยิบยกขึ้นมา ผู้ที่ต้องการบุญจึงเกิดความไม่สบายใจ

เพราะต้องการให้เขาเหล่านั้นได้รับกุศลไปด้วย จึงมาเรียนถามความเห็นของหลวงปู่ ซึ่งท่านตอบว่า

"คน ที่เข้าใจก็เห็นด้วย คนที่ไม่เข้าใจก็ไม่เห็นด้วย เอาอย่างนี้ พอทำบุญหลายๆ
ครั้งรวมเป็นครั้งเดียวไปบอกให้เขาโมทนาซะ ว่าฉันไปทำบุญมา ขอให้โมทนาด้วย"

ผู้ถามถามต่ออีกว่า ถ้าต้องการให้ผู้ที่ไม่สนใจมาทางเดียวกัน ควรจะทำอย่างไร หลวงปู่ตอบว่า

"พอ เวลาทำบุญก็ให้บุญกับเขา เรียกกายทิพย์เขามารับบุญ เขาเรียกว่าให้บุญใน
หรือให้ทางใน นานไปเขาก็เปลี่ยนไปเอง หรือเราจะให้กับคนที่เขาโกรธเรา อาฆาตพยาบาทตัวเราก็ได้"

หลวงปู่ยังได้โยงไปถึงการให้บุญกับผู้อื่นอีก

"บุญ เป็นของดี เราให้ใครก็ได้ ไม่ว่าเจ้านาย ลูกน้อง หรือคนที่เราจะไปติดต่อขอความช่วยเหลือ
ได้ทั้งนั้น บุญคือความสบายใจ การสร้างบุญโดยการให้ด้วยจิตใจที่เมตตา

คือเป็นคนกล่อมเกลาจิตใจไปในตัว และเป็นการปฏิบัติธรรมอีกอย่างหนึ่งด้วย"



ขอบพระคุณข้อมูลจาก : http://www.watpanonvivek.com และ http://www.kammatan.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 17, 2013, 04:18:25 PM โดย golfreeze » บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2011, 11:34:19 AM »



น้ำใจหลวงปู่ต่อ องค์ในหลวง

มี อยู่ปีหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยทุกหย่อมหญ้า มีความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยในพระอาการประชวร
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เพราะจากข่าวคราวที่ออกมานั้น
พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นน่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง ประชาชนชาวไทยทั้งหลายไม่ว่า บรรพชิต
ข้าราชการ ประชาชน ต่างบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายพระราชกุศลให้พระองค์หายจากพระอาการประชวรในครั้ง
นั้น ตั้งแต่การบำเพ็ญภาวนา สร้างพระ ทำบุญตักบาตร ผู้เขียนคิดว่าเราก็ภาวนาแล้ว น่าจะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง
เพื่อให้หลวงปู่ช่วยพระเจ้าแผ่นดิน ทั้งๆ ที่รู้ว่า นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๕ เป็นต้นมา
ไม่มีวันใดเลยที่หลวงปู่จะว่างเว้นจากการถวายพระราชกุศลให้กับในหลวง...

ผู้ เขียนฝันไปว่า หลวงปู่ทวดท่านบอกว่า "ให้ เขียนชื่อพระเจ้าอยู่หัว วันเดือนปีเกิดของพระองค์ด้านหนึ่ง
 ส่วนอีกด้านหนึ่งเขียนตีตารางเป็นร้อยแปดตา เอาไปให้อาจารย์ของเธอทำ ท่านรู้เองแหละว่าจะทำอย่างไร"
 เมื่อผู้เขียนทำเสร็จแล้วฝากคนไปถวายหลวงปู่ ตารางทั้งร้อยแปดนั้น ท่าน เขียนอักขระเกี่ยวกับพุทธคุณร้อยแปดลงทุกช่อง
 เมื่อเขียนเสร็จแล้วท่านอธิษฐานจิต เพื่อให้นำไปบรรจุในองค์พระที่ท่านสร้างขึ้น แต่ที่สำคัญคือ
 แทนที่จะให้คนอื่นไปทำ หลวงปู่กลับเป็นผู้ทำและเทเอง บรรจุเองทั้งหมด ด้วยดวงจิตที่มุ่งมั่น
ถวายความจงรักภักดีแด่พระเจ้าแผ่นดิน เมื่อเทเสร็จเป็นองค์พระแล้ว ท่านก็นำมาอธิษฐานให้กับพระเจ้าอยู่หัว
ท่านกล่าวว่า "องค์อื่นๆ ตั้งแต่ที่มีมารัชกาลที่ ๑ ถึง ๘ ขอให้ขึ้นไปสถิตที่วิมานของแต่ละท่าน

ส่วนรัชกาลที่ ๙ นี่ขอให้อยู่ก่อน เพื่อช่วยเหลือประเทศชาติ ให้รอกพ้นภยันตรายเสียก่อน"
แล้วท่านก็พูดว่า "ไม่เป็นไรหรอก" สิ่งที่น่าปิติยินดีของปวงชนชาวไทยก็คือ
พระอาการของพระเจ้าอยู่หัวซึ่งอยู่ในขั้นที่วิกฤต แม้แต่พระองค์เองยังกล่าวว่า ได้ไปอยู่ในแดนสนธยา ก็กลับคืนดีเหมือนเก่า

ทั้ง นี้ไม่ได้หมายความว่า เกิดจากหลวงปู่องค์เดียว แต่ผู้เขียนต้องการเน้นถึงจุดที่ท่านรับเอาเป็นธุระ
ในการทำพระครั้งนี้ต่างหาก ที่ทำให้รู้ซึ้งในน้ำใจของหลวงปู่ที่มีต้อพระเจ้าอยู่หัว เพราะท่านจะสั่งเสมอว่า
เมื่อทำบุญหรือทำสมาธิครั้งใด อย่า ลืมอุทิศกุศลให้กับ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
อันเป็นการแสดงความกตัญญูต่อแผ่นดินที่อาศัย ต่อพระพุทธศาสนา และต่อองค์พระเจ้าอยู่หัวของเรา



http://www.prommapanyo.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 17, 2013, 04:26:01 PM โดย golfreeze » บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2011, 11:42:37 AM »


"แนะวิธีปฏิบัติ"

เคยมีสุภาพสตรีท่านหนึ่งมีปัญหาถามว่า
นั่งปฏิบัติภาวนาแล้วจิตไม่รวม ไม่สงบ
ควรจะทำอย่างไร ท่านแก้ให้ว่า

"การปฏิบัติ ถ้าอยากเป็นเร็วๆ มันก็ไม่เป็น
หรือไม่อยากให้เป็น มันก็ประมาทเสีย ไม่เป็นอีกเหมือนกัน

อยากเป็นก็ไม่ว่า ไม่อยากเป็นก็ไม่ว่า
ทำใจให้เป็นกลางๆ ตั้งใจให้แน่วแน่ใน
กัมมัฏฐานที่เรายึดมั่นอยู่นั้น
แล้วภาวนาเรื่อยไป

เหมือนกับเรากินข้าวไม่ต้องอยากให้มันอิ่ม
ค่อยๆกินไปมันก็อิ่มเอง

ภาวนาก็เช่นกัน ไม่ต้องไปคาดหวังให้มันสงบ

หน้าที่ของเราคือภาวนาไปก็จะถึงของดี ของวิเศษในตัวเรา
แล้วจะรู้ชัดขึ้นมาว่าอะไรเป็นอะไร ให้หมั่นทำเรื่อยไป "

*************************
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2011, 11:43:35 AM »

"ของจริง ของปลอม"

เมื่อหลายปีก่อน ได้เกิดไฟไหม้ที่วัดสะแก
บริเวณกุฏิตรงข้ามกุฏหลวงพ่อ แต่ไฟไม่ไหม้กุฏิหลวงพ่อ
เป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ศิษย์และผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง

ถึงขนาดมีฆราวาสท่านหนึ่งคิดว่าหลวงพ่อ
ท่านมีพระดี มีของดี ไฟจึงไม่ไหม้กุฏิท่าน

ผู้ใหญ่ท่านนั้นได้มาที่วัดและกราบเรียนหลวงพ่อว่า
"หลวงพ่อครับ ผมขอพระดีที่กันไหได้หน่อยครับ"

หลวงพ่อยิ้ม ก่อนตอบว่า
"พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ไตรสรณคมน์นี่แหละพระดี"

ผู้ใหญ่ท่านนั้นก็รีบบอกว่า
"ไม่ใช่ครับ ผมขอพระเป็นองค์ๆ อย่างพระสมเด็จน่ะครับ"

หลวงพ่อท่านก็ยืนยันหนักแน่นอีกว่า
"ก็พุทธัง ธัมมัง สังฆัง นี่แหละมีแค่นี้ล่ะ ภาวนาให้ดี"

แล้วหลวงพ่อก็มิได้ให้อะไรจนผู้ใหญ่ท่านนั้นกลับไป
หลวงพ่อจึงได้ปรารภธรรมอบรมศิษย์ที่ยังอยู่ว่า

"คนเรานี่แปลก ข้าให้ของจริงกลับไม่เอา จะเอาของปลอม"

*************************
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2011, 11:46:38 AM »

" คำสารภาพของศิษย์ "

เราเป็นศิษย์รุ่นปลายอ้อปลายแขม
และมีความขี้เกียจเป็นปกติ
เราไม่เคยสนใจทำอะไรจริงจังยาวนาน
คือเราสนใจทำจริงจังแต่ก็ประเดี๋ยวเดียว

เมื่อเราได้ไปวัด ด้วยความอยากเห็นอยากรู้
เหมือนเพื่อนบางคนที่เขารู้ เขาเห็น
เราจึงพยายามทำ แต่มันไม่ได้
ความพยายามของเราก็เลยลดน้อยถอยลง
ตามวันเวลาที่ผ่านไป

แต่ความอยากของเรามันไม่ได้หมดไปด้วย
พอขี้เกียจหนักเข้า เราจึงถามหลวงพ่อว่า

"หนูขี้เกียจเหลือเกินค่ะ จะทำยังไงดี"

เราจำได้ว่าท่านนั่งเอนอยู่
พอเรากราบเรียนถามท่าน
ก็ลุกขึ้นมานั่งฉับไว มองหน้าเรา แล้วบอกว่า

"ถ้าข้าบอกแกไม่ให้กลัวตาย แกจะเชื่อข้าไหมล่ะ"

เราเงียบเพราะไม่เข้าใจที่ท่านพูดตอนนั้นเลย
อีกครั้งหนึ่งปลอดคน เรากราบเรียนถามท่านว่า

"คนที่ขี้เกียจอย่างหนูนี้ มีสิทธิถึงนิพพานได้หรือไม่"

หลวงพ่อท่านนั่งสูบบุหรี่ยิ้มอยู่และบอกเราว่า
"ถ้าข้าให้แกเดินจากนี่ไปกรุงเทพฯแกเดินได้ไหม"

เราเงียบแล้วยิ้มแห้งๆท่านจึงพูดต่อว่า
"ถ้าแกกินข้าวสามมื้อ มันก็มีกำลังวังชา เดินไปถึงได้
ถ้าแกกินข้าวมื้อเดียว มันก็พอไปถึงได้แต่ช้าหน่อย
แต่ถ้าแกไม่กินข้าวเลย มันก็คงไปไม่ถึง ใช่ไหมล่ะ"

เรารู้สึกเข้าใจข้อความนี้ซึมซาบเลยทีเดียว
แล้วหลวงพ่อท่านก็พูดต่อว่า

"เรื่องทำม้งธรรมะอะไรข้าพูดไม่เป็นหรอก
ข้าก็เป็นแต่พูดของข้าอย่างนี้แหล่ะ"

***********************
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 04:16:00 PM »



วันนี้วันที่ ๑๗ มกราคมเป็นวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
พระโพธิสัตว์ผู้ทรงอภิญญา ครบปีที่ ๒๓ แม้ในวันสุดท้ายแห่งมรณกาล
องค์ท่านก็ยังคงเมตตา สั่งสอนศิษย์เป็นปัจฉิมโอวาทย้ำให้ทุกคนตั้งอยู่ในความไม่ประมาท
"ถึงอย่างไร ก็ขอให้อย่าได้ละทิ้งการปฏิบัติ ได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิบัติ ก็เหมือนนักมวย
ขึ้นเวทีแล้วต้องชก อย่ามัวแต่ตั้งท่าเงอะๆ งะๆ" หลังจากคืนนั้นหลวงพ่อก็กลับเข้ากุฏิ
และละสังขารไปด้วยอาการสงบด้วยโรคหัวใจ ในกุฏิท่านเมื่อเวลาประมาณ ๕ นาฬิกา
ของวันพุธที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๓ รวมสิริอายุได้ ๘๕ ปี ๘ เดือน ๖๕ พรรษา...

ลูกหลานขอกราบน้อมรำลึกบูชาคุณหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2014, 09:32:26 AM »

การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ศีลคือ ดิน สมาธิคือ ลำต้น
ปัญญาคือ ดอก ผล ... เราต้องการให้ต้นไม้เจริญงอกงาม ก็ต้องหมั่น
รดน้ำ พรวนดิน และต้องคอยระมัด ระวังมิให้ตัวหนอนคือ โลภ โกรธ หลง มากัดกิน..
ความสำเร็จนั้น มิใช่อยู่ที่การสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้า
หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาประทานให้ หากแต่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง
ถ้าตั้งใจทำตามแบบแล้วทุกอย่างรับรองว่าต้องสำเร็จ ไม่ใช่จะสำเร็จ ..
พระพุทธเจ้าท่านวางแบบเอาไว้แล้ว ครูบาอาจารย์ทุกองค์มีพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด
 ก็ได้ทำตามแบบเป็นตัวอย่างไว้ให้เราดู อัฐิของท่านก็กลายเป็นพระธาตุกันหมด
"ของดีอยู่ที่ตัวเรา ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต" ..
การปฏิบัติ ถ้าหยิบตำราโน้น นี่มาสงสัยถามมักจะโต้แย้งกันเปล่า
โดยมากชอบเอาจากอาจารย์โน้น นี่ ว่าอย่างนั้นมา อย่างนี้มา ...
การจะปฏิบัติให้รู้ธรรมเห็นธรรม ต้องทำจริง จะได้อยู่ที่ทำจริง เอาให้จริง
ถ้าไปเรียนกับครูอาจารย์อื่นโดยไม่ทำให้จริงให้รู้ ก็เหมือนดูถูก ดูหมิ่นครูบาอาจารย์..

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2014, 09:33:25 AM »

การบวชจิต บวชใน

จะเป็นชายหรือหญิงก็ดี ถ้าตั้งใจประพฤติปฎิบัติ มีศีล รักในการปฎิบัติ
จิตมุ่งหวังเอาการพ้นทุกข์เป็นที่สุด ย่อมมีโอกาสเป็นพระกันได้ทุกๆ คน
มีโอกาสทีจะบรรลุมรรคผล นิพพาน ได้เท่าเทียมกันทุกคน ไม่เลือกเพศ
เลือกวัย หรือ ฐานะแต่อย่างใด ไม่มีอะไรจะมาเป็นอุปสรรคในความสำเร็จได้ นอกจากใจของผู้ปฎิบัติเอง
ในขณะที่เรานั้งสมาธิเจริญภาวนานั้น คำกล่าวว่า

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ให้นึกถีงเรามีพระพุทธเจ้าเป็นพระอุปัฌาญ์ของเรา
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ให้นึกว่าเรามีพระธรรมเป็นพระกรรมวาจาจารย์
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ให้นึกว่าเรามีพระอริยสงฆ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์


แล้วอย่าสนใจขันธ์ 5 หรือร่างกายเรานี้
ให้สำรวมจิตให้ดี มีความยินดีในการบวช
ชายก็เป็นพระภิกษุ หญิงก็เป็นพระภิกษุณี
อย่างนี้จะมีอานิสงส์สูงมาก จัดเป็นเนกขัมบารมีขั้นอุกฎ์ทีเดียว

หลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2014, 09:34:44 AM »

ศีลเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด ของการปฏิบัติธรรมทุกอย่าง..
ให้หมั่นสมาทานรักษาศีลให้ได้ แม้จะเป็นโลกียศีล รักษาได้บ้าง
ไม่ได้บ้าง บริสุทธิ์บ้าง ไม่บริสุทธิ์บ้าง ก็ให้เพียงระวัง รักษาไป
 สำคัญที่เจตนาที่จะรักษาศีลไว้ และปัญญาที่คอยตรวจตราแก้ไขตน

"เจตนาหัง ภิกขเว สีลัง วทามิ" ท่านว่าเจตนาเป็นตัวศีล
"เจตนาหัง ภิกขเว ปุญญัง วทามิ" เจตนาเป็นตัวบุญ
จึงขอให้พยายามสั่งสมบุญนี้ไว้ โดยอบรมศีลให้เกิดขึ้นที่จิตเรียกว่า เรารักษาศีล..

ส่วนจิตที่อบรมศีลดีแล้ว จนเป็นโลกุตรศีล เป็นศีลที่ก่อให้เกิดปัญญาในอริยมรรค
อริยผลนี้จะคอยรักษาผู้ประพฤติปฏิบัติมิให้เสื่อมเสียหรือตกต่ำ ไปในทางที่ไม่ดีไม่งามนี้แลเรียกว่า ศีลรักษาเรา..

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2014, 09:35:38 AM »

ต้องปฏิบัติธรรมให้มาก ถ้ารู้ว่าใจเรา ยังแข็งแกร่งไม่พอ
ถูกโลกเล่นงานง่ายๆ แกต้องทำให้ใจแกแข็งแกร่งให้ได้ แกถึงจะสู้กับมันได้

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2015, 10:01:29 PM »

“..ที่ว่านิมิต แสงสว่างเป็นกิเลสก็ถูก
แต่เบื้องแรกต้องอาศัยกิเลสไปละกิเลส
อาศัยกิเลสละเอียดไปละกิเลสอย่างหยาบ
แต่ไม่ได้ให้ติดแสงสว่างหรือหลงแสงสว่าง
ท่านให้ใช้แสงสว่างให้ถูก ให้เกิดประโยชน์
เหมือนอย่างกับเราเดินทางผ่านไปในที่มืด
ก็ต้องอาศัยแสงไฟช่วยนำทาง
หรืออย่างว่าเราจะข้ามแม่น้ำ ก็ต้องอาศัยเรือ อาศัยแพ
เมื่อถึงฝั่งแล้ว เราจะแบกเรือแบกแพขึ้นฝั่งไปด้วยทำไม ”
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ.
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2015, 10:04:31 PM »

การบวชจิต-บวชใน

หลวงปู่ปรารภว่า...
จะเป็นชายหรือหญิงก็ดี ถ้าตั้งใจประพฤติปฏิบัติมีศีล รักกในการปฏิบัติจิตมุ่งหวังเอาการพ้นทุกข์เป็นที่สุด
ย่อมมีโอกาสเป็นพระกันได้ทุกๆ คนมีโอกาสที่จะบรรลุมรรค ผล นิพพาน ได้เท่าเทียมกันทุกคนไม่เลือกเพศ เลือกวัย หรือฐานะ แต่อย่างใด
ไม่มีอะไรจะมาเป็นอุปสรรคในความสำเร็จได้ นอกจากใจของผู้ปฏิบัติเอง ท่านได้แนะเคล็ดในการบวชจิตว่า.....

" ในขณะที่เรานั่งสมาธิเจริญภาวนานั้น คำกล่าวว่า

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ให้นึกถึงว่าเรามีพระพุทธเจ้าเป็นพระอุปัฌาย์ของเรา

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ...
ให้นึกว่าเรามีพระธรรมเป็นพระกรรมวาจาจารย์

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ...
ให้นึกว่าเรามีพระอริยสงฆ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

แล้วอย่าสนใจขันธ์ 5 หรือร่างกายเรานี้ ให้สำรวมจิตให้ดี
มีความยินดีในการบวช
ชายก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุ
หญิงก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุณี
อย่างนี้จะมีอานิสงส์สูงมาก
จัดเป็นเนกขัมบารมีขั้นอุกฤษฎ์ทีเดียว "
แกนึกถึงข้า ข้าก็นึกถึงเอง ...
กายทิพย์ของเรานั้นหากก่อนภาวนาเราได้ตั้งจิตบวชพระแล้ว
ระหว่างที่ภาวนาอยู่กายทิพย์เราก็เป็นพระมีรัศมีกายทิพย์สว่างมาก
อย่างนี้จะมีอานิสงส์พลังบุญสูงมาก
ภาวนาได้ง่าย เนื่องจากตั้งจิตไว้ในศีลและฐานะอันสูง

อย่างนี้เรียกว่าบวชจิต ซึ่งการบวชจิตด้วยใจกุศลศรัทธานั้น
มีอานิสงค์ดีกว่าผู้ที่บวชรูปลักษ์ภายนอกแล้วไม่บวชจิตเสียอีก
แต่หากบวชได้ทั้งนอกและในอานิสงค์ก็ทวีคูณแต่สำหรับ
ฆราวาสผู้ครองเรือนนั้นเวลาสวดมนต์หรือภาวนาทำสมาธิ
ตั้งจิตบวชเป็นพระแล้วอานิสงค์มากภาวนาได้ง่าย

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2015, 10:08:21 PM »

"ปฏิบัติแล้ว โลภ โกรธ หลง แกลดน้อยลงหรือเปล่าล่ะ
ถ้าลดลงข้าว่าแกใช้ได้ ขยันก็ให้ทำ ขี้เกียจก็ให้ทำ
ถ้าวันไหนยังกินข้าวอยู่ก็ต้องทำ
วันไหนเลิกกินข้าวแล้ว นั่นแหละ จึงค่อยเลิกทำ
เชื่อไหมหละ ถ้าเราเชื่อจริง ทำจริง
มันก็เป็นของจริง ของจริงมีอยู่
แต่เรามันไม่เชื่อจริง จึงไม่เห็นของจริง
นั่งไปเถอะ สว่างก็ได้บุญ มืดก็ได้บุญ
คนเราทุกวันนี้ โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม
เรามัวพากันยุ่งอยู่กับโลกจนเหมือนลิงติดตัง
เรื่องของโลก เรื่องเละ ๆ เรื่องไม่มีที่สิ้นสุด
เราไปแก้ไขเขาไม่ได้จะต้องแก้ไขที่ตัวเราเอง
ตนของตนเตือนด้วยตนเอง"

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ..
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2015, 08:24:20 PM »

เราไม่สามารถให้ผู้อื่นเป็นดั่งใจเราได้ แต่เราสามารถปรับใจของเรา
ให้ยอมรับในตัวตนที่เขาเป็นได้ อย่าไปติใคร ให้ติที่ตัวเราเอง..

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3604


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2015, 08:27:04 PM »

จะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม ถ้าตั้งใจประพฤติปฏิบัติ มีศีล รักในการปฏิบัติ
 จิตมุ่งหวังเอาการพ้นทุกข์เป็นที่สุด ย่อมมีโอกาส เป็นพระกันได้ทุกๆคน มีโอกาสที่จะบรรลุมรรคผล
นิพพาน ได้เท่าเทียมกันทุกคน ไม่เลือกเพศ เลือกวัย หรือฐานะ แต่อย่างใด
ไม่มีอะไรจะมาเป็นอุปสรรค ในความสำเร็จได้ นอกจากใจ ของผู้ปฏิบัติเอง..

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ทัวร์พม่า | JR Pass
หน้า: [1] 2
พิมพ์
กระโดดไป: