KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับกระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10
 11 
 เมื่อ: กันยายน 23, 2020, 11:13:34 AM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR
ดีแล้ว ดีแล้ว
อนุโมทนาสาธุครับน้องกอล์ฟ

เดี๋ยวนี้สถานที่เหมาะแก่การภาวนาก็น้อยลง ด้วย ความเจริญทางวัตถุแพร่หลายเข้ามามาก
ที่วิเวกสัปปายะ เงียบสงบไม่วุ่นวายจึงมีน้อยลงไปทุกที ตามสังคมโลกที่เปลี่ยนไป
เราก็ต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงไป แต่คงให้อยู่ในครรลองครองธรรมไว้

พี่มีโอกาสได้ไปทำบุญกราบไหว้พระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก และ หลวงพ่อเพชร จ.พิจิตร

ขอให้ได้กุศลผลบุญแก่ทุกท่านด้วยเช่นกันครับ

 12 
 เมื่อ: กันยายน 17, 2020, 05:20:27 PM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
ผมไปทำบุญที่บึงกาฬ มาครับพี่ต่าย เอาบุญมาแบ่งนะครับ แล้วได้ไปขึ้นภูทอก ด้วย
เป็นสถานที่เหมาะกับการภาวนามากๆ ครับผม

 13 
 เมื่อ: กันยายน 17, 2020, 05:19:13 PM 
เริ่มโดย phraedhammajak - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
อนุโมทนาสาธุด้วยครับผม : )

 14 
 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2020, 04:56:09 PM 
เริ่มโดย phraedhammajak - กระทู้ล่าสุด โดย phraedhammajak





เจริญพร สาธุ ขอให้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ

 15 
 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2020, 11:54:39 AM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR
อนุโมทนาสาธุครับน้องกอล์ฟ

 16 
 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2020, 10:14:36 PM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
#โอวาทธรรมยามอาพาธ
    ...หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เมื่อครั้งองค์ท่านอาพาธครั้งสุดท้าย ท่านก็ได้กล่าวธรรมกับลูกศิษย์ที่ดูแลท่านในหลายโอกาสก่อนที่องค์ท่านจะละสังขารดังนี้..
     ๙ กันยายน ๒๕๕๓..
     " จิตเฮาบ่มีเงื่อนต่อ ดูปัจจุบันก็บ่มีเงื่อนต่อ คือไฟดับธาตุไฟยังอยู่ แต่มีสิ่งหนึ่งบ่ดับ แต่พูดบ่ได้ "
     ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓..
     " เราเหนื่อย..เหนื่อยก็ช่างเถอะ มีทีแวะแล้วคนว่างงาน จิตว่างงาน "
     ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๓..
     " ผมอ่อนลงเรื่อยๆ จะหนักไปข้างหน้า แต่มีสติไม่เผลอ "
     " ผมปล่อยวางทั้งหมด ใครจะสรรเสริญนินทา ผมไม่สนใจ ถึงเวลาก็ดีดผึงเลย "
     " แต่ก่อนหมู่เพื่อนไม่ได้มายุ่งกับผมที่กุฏิ แต่คราวนี้ผมช่วยตัวเองไม่ได้ จะจับจะยกอะไรให้ค่อยๆ คนแก่ก็เหมือนเด็ก "
     ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๓..
    " เราปล่อยวางหมดแล้ว ไม่มีสมมุติใดๆเหลืออยู่ในจิตใจ ชาตินี้เราพอ เราทำสุดกำลังของเรา "
     ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๓..
     " ให้ภาวนา ตั้งสติอยู่ตลอดเวลา ผมเห็นคุณค่าของสติมาก "
     " ผมลงใจในปฏิปทาพ่อแม่ครูจารย์มั่นมากที่สุด พูดอะไรตรงเป๋งเลย "
     " เราไอมาก จะเป็นปอดนะ เราอ่อนลงไปเรื่อยๆ ผมเกิดมาเป็นชาติสุดท้าย ไม่มาเกิดอีก "
     " ผู้มาศึกษากับผม มีหลักเกณฑ์หลายองค์นะ"
     " ผมเคยพูดให้ฟังไหม เรื่องตอนที่อยู่ห้วยทราย ระยะท้าย ผมจะกว้างขวางมาก "
     " ผมมาเกิดเป็นชาติสุดท้าย ไม่มาเกิดอีก สมมุติในใจไม่เหลือ "
     ๑ มกราคม ๒๕๕๔..
     " มือของครูอาจารย์ กับมือของลูกศิษย์ลูกหา ญาติมิตร เพื่อนฝูง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ใช้แทนกันได้ ไว้ใจกันได้ เชื่อใจกันได้ ตายใจกันได้ "
     ๑๑ มกราคม ๒๕๕๔..
     " พระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน พระธรรมวินัยก็อันเดียวกัน ให้เอาจริงเอาจังนะ"
      หลังจากนั้นท่านก็ไม่ได้พูดอะไรอีก วันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๔ ท่านก็ละสังขาร เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน สิริรวมอายุ ๙๗ปี ๕เดือน ๑๘วัน ๗๗พรรษาและมีพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร วันที่ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔..

 17 
 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2020, 09:36:17 PM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
อนุโมทนาสาธุครับพี่ต่าย

วันนี้ผมไปทำบุญที่มูลนิธิหลวงปู่มั่นมาเช่นกันครับ เอาบุญมาแบ่งนะครับผม : )

 18 
 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2020, 09:35:23 PM 
เริ่มโดย golfreeze - กระทู้ล่าสุด โดย golfreeze
" จิต
ส่งออกนอก   เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากที่จิตส่งออก   เป็นทุกข์
จิต  เห็นจิต   อย่างแจ่มแจ้ง  เป็นมรรค
ผลอันเกิดจาก...
จิต  เห็นจิต   อย่างแจ่มแจ้ง  เป็นนิโรธ
อนึ่ง
ตามสภาพที่แท้จริง ของจิต   ย่อม ส่งออกนอก
เพื่อรับอารมณ์ นั้น ๆ  โดยธรรมชาติของมันเอง
ก็แต่ว่า...
ถ้าจิตส่งออกนอก  ได้รับอารมณ์แล้ว
จิต  เกิดหวั่นไหว  หรือกระเพื่อมตามอารมณ์นั้น
เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจาก...
จิตหวั่นไหว  หรือกระเพื่อม ไปตามอารมณ์ นั้น ๆ
เป็นทุกข์
ถ้าจิตที่ส่งออกนอก
ได้รับอารมณ์แล้ว  แต่ไม่หวั่นไหว หรือกระเพื่อม
ไปตามอารมณ์ นั้น ๆ
มีสติ...อยู่อย่างสมบูรณ์
เป็นมรรค
ผลอันเกิดจาก...
จิตไม่หวั่นไหว  หรือไม่กระเพื่อม
เพราะมีสติ...อย่างสมบูรณ์
เป็นนิโรธ
พระอริยเจ้าทั้งหลาย
มีจิต  ไม่ส่งออกนอก   
จิต     ไม่หวั่นไหว
จิต     ไม่กระเพื่อม
เป็น   วิหารธรรม  จบอริยสัจ ๔."
__________________________________________
(หลวงปู่ดูลย์    อตุโล)

 19 
 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2020, 09:22:45 AM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR
๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๓ วันคล้ายวันประสูติในสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ
เนื่องในมงคลสมัยพระชนมายุ ๙๓ พรรษา
ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายพระพร ให้พระองค์มีพระพลานามัยแข็งแรง มีพระชนม์ยืนนาน
ปราศจากโรคาพยาธิ ปราศจากอุปัทวันตรายทั้งปวง
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ทีฆายุโก โหตุ สงฺฆราชา

 20 
 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2020, 11:03:01 AM 
เริ่มโดย AVATAR - กระทู้ล่าสุด โดย AVATAR
สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันวิสาขบูชา 6 พ.ค. 2563

ขอทุกคนหันกลับมาพิจารณาชีวิตของตนให้อยู่ในความไม่ประมาท
เร่งสั่งสมเพิ่มพูนกุศลธรรมให้เกิดสติและปัญญา ช่วยให้พ้นจากภัยได้

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปีพุทธศักราช 2563
ซึ่งปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 6 พ.ค. ความว่า

ดิถีวิสาขบูชา อันเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นวันสำคัญสากลของโลก
มีกาลกำหนดขึ้นไว้เป็นนักขัตฤกษ์พิเศษ เพื่อให้พุทธบริษัทได้กระทำสักการบูชาแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ด้วยดวงจิตตั้งมั่นในความเชื่อและความเลื่อมใสต่อพระพุทธคุณ ซึ่งเป็นโอสถวิเศษ และเป็นเครื่องป้องกันสรรพพิบัติภัยทั้งปวง

ภัยใหญ่หลวงสำหรับทุกชีวิต ตามหลักพระพุทธศาสนามี 3 ประการ กล่าวคือ ความแก่ 1 ความเจ็บ 1 และความตาย 1
ไม่มีภัยอื่นใดที่ผู้คนหวาดหวั่นครั่มคร้ามไปมากกว่าภัยทั้งสามประการนี้อีกแล้ว

พระพุทธองค์ผู้ทรงพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ
ได้โปรดประทานหนทางดับภัยไว้แล้วแก่โลก กล่าวคือ “อริยมรรค”
ซึ่งเป็นไปเพื่อละ เพื่อล่วงพ้นภัย ย่อมดับเหตุแห่งการเกิด ที่นำไปสู่ความแก่ ความเจ็บ และความตาย ได้อย่างสิ้นเชิง
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระปัจฉิมวาจาก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานว่า
“วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ”
แปลความว่า “สังขารมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด”


จึงขอทุกท่านหันกลับมาพิจารณาชีวิตของตน ผู้ล้วนกำลังเผชิญภยันตรายกันอยู่ทั่วหน้า
โดยไม่อาจทราบได้ว่าความเจ็บและความตายจะมาถึงเมื่อไร ขอจงเร่งสั่งสมอบรม “ความไม่ประมาท” ให้ถึงพร้อม
ขอจงเร่งขวนขวายสั่งสมเพิ่มพูนกุศลธรรมให้เจริญงอกงามขึ้นในตน เพื่อผลคือ “สติ” และ “ปัญญา”
อันสามารถช่วยให้ล่วงพ้นจากภัยได้ ในที่ทุกสถานและในกาลทุกเมื่อ

ขอสาธุชนอย่าละเลยการบำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา อันนับเป็น “ปฏิบัติบูชา” ที่พึงกระทำต่อพระรัตนตรัย
เพื่อความดำรงคงมั่นแห่งพระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประทีปส่องใจเวไนยนิกรทั้งปวงสืบไปตลอดกาลนาน เทอญ.

 

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10