KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับ

การปฏิบัติของผู้ที่ได้ ฌาณ => ประสบการณ์ของผู้ที่ได้ไปนรกภูมิ => ข้อความที่เริ่มโดย: saferles ที่ มีนาคม 01, 2010, 12:00:59 AM



หัวข้อ: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: saferles ที่ มีนาคม 01, 2010, 12:00:59 AM
ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย สิ่งที่อ่านเห็นเป็นไฉน?

ตัวผมมีน้องอยู่สองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง รวมตัวผมทั้งหมด3คน เกิดในครอบครัวคนจีน เชื่อเรื่องบาป เชื่อเรื่องบุญ ถูกพลั่มสอนโดยคุณแม่บังเกิดเกล้า
ให้เชื่อในสิ่งนี้แต่เด็ก ท่านสอนไม่ให้ลักขโมยของใคร สิ่งใดไม่ใช่ของเราไม่ควรเอา ถ้าลักมาเป็นเจ้าของจักต้องโดนตีด้วยกิ่งไม้ (กิ่งเฟื่องฟ้าไร้หนาม ก้านใหญ่ๆ)
เรื่องมันมีอยู่ว่า แม่ของผมเล่าให้พวกเราฟังว่า สมัยก่อนตอนเด็กๆ แม่ผมอยู่อย่างปากกัดตีนถีบ เพราะยายของผมเป็นคนจีนที่มาตั้งรกรากที่ประเทศไทย และยายแกไม่เคยรู้ธรรมะเรื่องของนรกกับสวรรค์จากพุทธศาสนา
ส่วนแม่ของผมท่านมีโอกาสได้เรียนรู้พระธรรมกับพระตอนเด็กๆมาบ้าง ท่านถึงได้สอนพวกผมมาจนถึงทุกวันนี้ตั้งแต่เด็กจนโต


แม่ผมเล่าว่าตอนเด็กทุกปีๆ วันตรุษจีน ยายของผมแกจะไปซื้อไก่มาเพื่อไหว้เทพเจ้าและไหว้คุณตาที่เสียไป มีอยู่ปีหนึ่งคุณยายผมแกไม่มีเงินไปซื้อไก่ ด้วยความไม่รู้ บาปบุญ หรือ "อวิชชา" ในเรื่องของพุทธศาสนา
แกไปจับเอาไก่ที่คุณตาผมเคยซื้อให้แม่ผมเลี้ยงมัน ตั้งแต่มันยังเป็นลูกเจี๊ยบจนมันโตใหญ่มาก ยายผมท่านเดินไปจับไก่ที่อยู่ในร้าวแล้วเอาตัวมันมาขึ้นเขียง แม่ผมท่านกลับมาจากโรงเรียนพอดี ท่านเดินไปหลังบ้าน
เหลือบไปเห็นยายกำลังจะเชือดไก่พอดี

แม่เลยถามว่า "แม่ไปซื้อไก่มาเหรอ?"
ยายแกตอบว่า "ก็ไก่ที่เลี้ยงนั่นแหละ เงินไม่พอแล้ว ไม่งั้นจะไหว้อะไร?"
ด้วยความที่แม่ของผมท่านรู้พุทธศาสนา ท่านเลยพยายามห้ามปรามอยู่นานสองนาน อีกอย่างท่านรักไก่ตัวนี้มากด้วย
แม่ผมท่านพูดว่า "แม่ไก่ตัวนี้เราช่วยกันเลี้ยงมันมานะ อีกอย่าง ถ้าพ่อยังอยู่ท่านคงไม่เห็นด้วยแน่ๆ หนูขอเลี้ยงมันต่อไม่ได้เหรอ"
ยายผมพูดว่า "ไม่งั้นจะให้ไหว้อะไรเล่า"
ทันใดนั้นยายแกก็เชือดปั๊บเลย แม่ผมไม่ทันบอกลาเลยซักคำ
แม่ผมท่านโกรธมากเลย ตรุษจีนวันนั้นท่านไม่ทานไก่ตัวนั้นเลย  วันรุ่งขึ้นยายผมก็เริ่มป่วยแบบไม่มีสาเหตุ
แม่ผมท่านเล่าว่า ตั้งแต่วันนี้นมาทุกๆปีวันตรุษจีน ยายผมจะป่วยแบบว่านอนลุกไม่ขึ้น แกบ่นว่าปวดไปทั้งตัวจนลุกไม่ขึ้น


คุณยายผมท่านมีลูกด้วยกัน 8คน เป็นชาย6คน หญิง 2คน ลูกชายท่านตายไปก่อนหน้าแล้ว 3คน ปัจจุบันเหลือชาย3คนซึ่งผมต้องเรียกว่า "อากู๋"
อากู๋ ผมแต่ละคนไม่ค่อยมีใครสนใจจะยอมเอายายผมไปอยู่ด้วยเลย  เนื่องด้วยเหตุว่าบรรดาภรรยาของอากู๋ อยากให้อากู๋เอาพ่อแม่ของภรรยาไปอยู่ด้วย

เมื่อประมาณปี50 ยายผมเริ่มชราภาพตามวัยแต่ท่านแข็งแรงมากจริงๆ(อายุ 82)ไม่ยอมอยู่นิ่งว่างเป็นทำงาน ขยันมาก ไม้เท้าไม่ใช้ด้วย ทีนี้แกเริ่มมาเป็นโรคไต ต้องฟอกไตทุกเดือน
เวลาผ่านไปนานเข้าจากเดือนเป็นฟองอาทิตย์ละครั้ง   ช่วงนั้นพ่อของผมเป็นคนต้นคิดว่าเป็นลูกสมควรกตัญญู พ่อผมท่านเป็นคนนอก เพราะแม่แต่งออก(ธรรมเนียมจีนแท้) พ่อท่านแนะว่า
ให้เรียกญาติพี่น้องมาประชุมกันลงขันธ์(เงิน)เพื่อใช้ในการฟอกไตให้คุณยาย  เพราะลำพังเงินที่แม่ผมกับพ่อผมช่วยกันหาคงไม่พอช่วยแน่

วันหนึ่งยายผมท่านเหงาอยากไปเยี่ยมค้างบ้าน เหล่าบรรดาอากู๋ ค้างได้ 2-3วัน มันก็มีเหตุทำให้ท่านเสียใจกลับมา เนื่องด้วยว่าแกไปได้ยินสะไภ้ต่อว่าอากู๋ต่างๆนาๆ  ทำนองไม่อยากให้คุณยายมาอยู่
ยายแกเลยเสียใจ เพราะถูกสะไภ้ไล่อ้อมๆ เลยมาที่บ้านผม
แม่ผมเลยพูดกับยายผมว่า "ถ้าว่างก็แวะมาค้างอยู่ที่นี่ซักอาทิตย์ก็ได้แม่ หรือจะมาค้างอาทิตย์ละ3-4วันก็ดี ถ้าฝั่งโน้นมันอยู่แล้วไม่สบายใจละก็" ยายท่านดีใจมาก เลยมาอยู่ค้าง

เรื่องมันเริ่มจากตรงนี้แหละ คุณยายผมท่านช่วงที่มาค้างบ้านผมแกชอบฝันอะไรแปลกๆ  
 คืนหนึ่งท่านร้องโอดครวนที่ห้องน้องสาวของผม  ท่านบ่นว่าอย่าโอ้ยเจ็บๆ  น้องสาวของผมก็สะดุ้งตื่นขึ้น พยายามปลุกยายของผมให้ตื่น ท่านไม่ยอมตื่นด้วยแปลกไหมละ ปลุกอยู่นาน 2-3นาที
ท่านจึงค่อยตื่นขึ้น
น้องสาวผมถามว่า "อาม่าเป็นอะไรค่ะ?"
ยายผมตอบว่า "หมามันกัดอะสิ มันกัดเจ็บมากเลย เจ็บจนปวดกระดูกเลย"
น้องสาวผมพูดว่า "อาม่าฝันไปค่ะอาม่า ไม่มีหมาหลอก ที่เท้าก็ไม่มีอะไรนี่ "
น้องสาวผมถามต่อว่า "หมาที่กัดหน้าตาไงเหรอค่ะอาม่า?"
ยายผมตอบว่า "ตัวใหญ่สีดำๆ กัดเจ็บมากเลย ไล่ก็ไม่ไป"
น้องสาวผมพูดว่า "อาม่านอนเถอะไม่มีอะไรหรอก อาม่าคิดมากไปเอง คงเพราะเหนื่อยนะ นอนเถอะ"

พอรุ่งขึ้นตอนเช้า ตื่นมาก็ไม่มีอะไรทุกคนใช้ชีวิตตามปกติ พ่อแม่ผมไปธุระข้างนอก ปล่อยให้ยายผมอยู่กับผมสามพี่น้อง
จนประมาณบ่ายโมง ยายผมท่านไม่มีอะไรทำก็เลยลงไปนอนกับพื้นดูทีวี สักพักท่านก็หลับไป ช่วงนั้นผมเดินไปเข้าห้องน้ำพอดี  ประจวบเหมาะกับน้องสาวผมเก็บผ้าเสร็จลงมาจากดาดฟ้าพอดี
ยายท่านก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา ท่านเห็นผมกำลังเดินไปห้องน้ำ พร้อมกับตำแหน่งที่ผมยืนตอนนั้นเป็นกำแพง ท่านชี้ไปที่บันได พร้อมกับถามผมว่า
คุณยายท่านถามว่า "นี่จะไปห้องน้ำเหรอ เออไปตักน้ำมาด้วยเร็วๆนะ เร็วๆเลยด้วย"
ผมถามว่า "ตักมาทำไมเหรอครับอาม่า"
คุณยายท่านพูดว่า "อ้าว ก็ตักมาดับไฟไงเร็วๆ สิ นี่ดูสิมันเริ่มลุกไหม้ใหญ่แล้ว ไหม้เต็มไปหมดเลย ไหม้ใหญ่แล้ว ไปเอามาถังนึงเลยดีกว่า เร็วๆเลยด้วย"
เท่านั้นละผมค้างไปเลยครับ หายปวดเข้าห้องน้ำละ กลัวสั่นแทนเลย  น้องสาวผมก็อึ้งไปเหมือนกัน
น้องสาวผมพูดปลอบใจท่านว่า "ไม่มีนี่อาม่า ตรงไหนไม่มีซักหน่อย  ตาฟาดมั้ง คงเป็นแสงแดดแหละ มันกระทบแล้วสะท้อนมาไงอาม่า"
คุณยายท่านก็ยังพูดต่อว่า "เออ.." แล้วท่านก็นอนลงต่อ

ตัวผมกับน้องผมรู้อยู่ในใจว่าสิ่งที่ยายผมพูดคืออะไร  แต่ทำได้แค่ปลอบใจ ท่านเท่านั้น  อายุท่านมากแล้วถ้าพูดไปกลัวจะช๊อค เลยไม่พูด
เรื่องนี้มีผมกับน้องสาวผมรู้กันอยู่แค่สองคน
ต่อมาประมาณกลางปี50 เพื่อนของคุณยายผม มาชวนคุณยายผมไปทำบุญสร้างกุศลด้วยการเทกระจาด ยายผมก็ไปทำด้วยกันกับป้าของผม ท่านไปทำโดยไม่คิดอะไร
และท้ายที่สุดมาในปี 51 คุณยายผมท่านก็เสียและจากไปในที่สุดด้วยอายุ(83) ช่วงนั้นผมก็เสียใจมากด้วย
ตอนท่านเสียแม่ผมบอกว่า คุณยายท่านเสียแบบเดียวกับที่ไก่ตัวนั้นโดน คือ เส้นเลือดในสมองแตก เลือดไหลออกทางจมูก
ช่วงปี52 เป็นช่วงที่ผมกับน้องสาวผมช่วยกันหาคำตอบในสิ่งที่คุณยายผมฝันเห็นและเห็นกลางวันแสกๆ ว่ามันคืออะไร  ศึกษาหนังสือพุทธศาสนาสมัยมัธยมปลายก็ไม่เจอ
จนกระทั่ง
ช่วงปี53ประมาณช่วงต้นเดือน  น้องสาวผมรักการอ่านหนังสือนิยายต่างๆมาก กำลังใช้อินเตอร์เน็ต search อยู่ดันไปเจอหนังสือเล่มหนึ่ง
ชื่อของหนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า"ไตรภูมิพระร่วง โดยพระยาฤทัย" และก็ซื้อมานั่งอ่าน ผมก็เห็นน้องของผมนั่งอ่านอยู่เลยสงสัยเข้าไปถาม
ตัวผมถามว่า"อ่านอะไรอะ นิยายอีกแล้วเหรอ?"
น้องสาวผมพูดว่า "ไม่ใช่ ไตรภูมิพระร่วงต่างหาก" เท่านั้นแหละ
ผมพูดกับน้องผมต่อว่า "นี่หยุดอ่านเมื่อไหร่นะ ขออ่านมั่ง อยากรู้ว่ามันคืออะไร"
พอผมได้อ่านก็ถึงบาง อ้อ...เลยว่า  "นรก" นี่เองที่ยายผมเห็นไฟไหม้นั่นคือ นรก เท่านั้นแหละสั่นเลยครับ

ผมพยายามอ่านต่อเพื่อหาว่า นรกขุมไหนหนอ?มีหมาดำตัวใหญ่ เท่านั้นแหละ
นรกนั้นมีชื่อว่า  
"อุตสุทนรก"(นรกบ่าว) อยู่ขุมที่3 ชื่อสุนัขนรก
บุปพกรรม :ผู้ใดด่าทอผู้เฒ่าผู้แก่ผู้ทรงศีลสมณะชีพราหม มันผู้นั้นต้องตกนรกโดนหมานรกตัวใหญ่เท่าช้างสาร
อันว่าหมานรกนั้นมี 5สี มีหมาดำ หมาเหลือง หมาแดง หมาขาว หมาด่าง
กัดกินจนถึงกระดูก เจ็บแสนสาหัสทุกทรมานตายแล้วเกิดอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะหมดกรรม
(ลืมบอกไปครับ เหอะๆ ยายผมท่านเวลาโกรธใครนะด่าแหลกเป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว เลยละ ตามภาษาคนเยาวราช)


วันรุ่งขึ้นผมโทรไปถามป้าของเพื่อถามไถ่สาระทุกข์สุขดิบ
ผมเลยไปถามป้าผมว่า "ตอนยายอยู่กับป้าที่บ้านของป้าท่านมีไปด่าใครไว้หรือเปล่าครับ"
ป้าผมตอบว่า "ไม่มีนี่..ทำไมเหรอ?"
ผมพูดต่อว่า "เป็นไปไม่ได้ ต้องมีสิยายต้องมีไปด่าใครไว้แน่ๆ ลองคิดดีๆหน่อยคุณป้า เพราะตอนยายอยู่กับผมแกชอบเห็นโน่นเห็นนี่ประจำเลย"
ป้าผมนิ่งไปพักใหญ่ๆ
ป้าผมพูดต่อว่า"จะเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาพูดทำไม อาม่าก็เสียไป2ปีละ ฟื้นไปก็ไม่ได้อะไร" แล้วท่านป้าผมก็เปลี่ยนเรื่องพูด
ผมเลยสงสัยมาทุกวันนี้ว่าป้าผมต้องไปยุให้คุณยายผมด่าใครแน่ เพราะป้าผมท่านเป็นคนปากจัดมากๆ ด่าใครนี่หลุดออกมาแต่ละอย่างน่าเกลียดมาก

เรื่องทั้งหมดนี้ ผมเฝ้าศึกษาตลอดจนไปเจอคำๆหนึ่งของพระพุทธเจ้าว่า
" ไม่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นมาโดยความบังเอิญ ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นด้วยเหตุและผลในตัว มันเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป "
ไม่อยากให้เชื่อหรอกครับ แต่ผมขอเชื่อก่อนคนแรกเพราะเจอกับตัวเองเลยสยอง


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ กันยายน 26, 2010, 10:58:28 PM
โมทนาบุญ ที่พยายามละความชั่ว

ตามด้วย ไม่ทำอีก

ทำดี

และทำความดีให้ยิ่งๆขึ้นไป

ด้วยนะคร๊าบ ;D


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: arm1118 ที่ ตุลาคม 18, 2010, 02:59:41 AM
เชื่อครับ


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ ตุลาคม 21, 2010, 11:21:14 AM
ขอบคุณท่าน saferles ด้วยน่ะครับ ที่นำเรื่อง กรรม มาแ่บ่งปันเพื่อนๆ นะครับผม

สุดท้ายแล้วถ้า กิเลส ยังเล็กอยู่แล้วเรารู้เท่าทัน จนเห็นเป็นตามสภาวะของไตรลักษณ์แล้ว

เขาก็จะไม่กลายเป็นกิเลสตัวใหญ่ สร้างภพ ก่อชาติ อ่าเน๊อะครับ สาธุๆ

 


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ตุลาคม 24, 2010, 09:32:08 PM
เชื่อ อย่างสูง ;D


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: comitsks ที่ พฤศจิกายน 12, 2010, 09:12:03 PM
ที่ คุณยายเห็น นั้น  เรียก ว่า   นิมิตรบอกลางร้าย 


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: kijah ที่ มกราคม 05, 2011, 11:49:51 PM
ขอบคุณมากนะคะที่นำเรื่องดีๆมาแบ่งปันกัน
ขออนุญาติให้คนอื่นๆได้อ่านต่อๆไปนะคะ


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ มกราคม 05, 2011, 11:54:11 PM
ไหว้พระ สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ แผ่เมตตา

ให้ทุกสรรพสัตว์ ทั้ง 31 ภพ  จ้า ;D


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: dotseo ที่ เมษายน 01, 2011, 11:32:08 PM
สุดยอดครับ แต่ก็ยังม่มีอะไรพิสูจได้ชัดเจนว่า นรกมีหรือไม่ แต่มีอย่างคือ เกิดมาต้องใช้กรรม


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ เมษายน 02, 2011, 12:28:46 AM
ลอง กลั้ น หายใจ นาน ๆ  นั่นแหละ นรก   ;D


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: magicmo ที่ ธันวาคม 09, 2011, 05:44:22 PM
ขอบคุณมากๆๆครับ


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: nidsuite ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 03:23:19 PM
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ครับ


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: phonsakw ที่ มีนาคม 09, 2012, 02:43:57 PM
คุณsaferlesครับ 


ยายของคุณตกนรกอยู่ครับ  มีคุณคนเดียวที่จะช่วยยายของคุณได้  คนอื่นในครอบครัวช่วยไม่ได้หรอกครับ  มีแต่พูด พูด พูดทั้งนั้น 

คุณต้องบวชอย่างน้อย 6 เดือน  แล้วอธิษฐานจิต ขอให้ผ้าเหลืองของคุณไปช่วยลดกรรมให้คุณยาย   แล้วคุณก็ควรปฏิบัติสมถะ
และวิปัสสนา  แล้วแผ่เมตตาทุกครั้งเมื่อเสร็จ หรือใกล้เสร็จ   สิ่งนี้จะช่วยยายของคุณได้มาก  ถ้าปฏิบัติจิตได้สงบเท่าไร  คุณยาย
ของคุณก็จะพ้นทุกข์จากการแผ่เมตตาของคุณไวขึ้นมาก

หรือเอาง่ายกว่านี้ก็ได้ครับ  คือ อุทิศกุศลจากธรรมทาน ที่คุณเอาเรื่องนี้มาเปิดเผยให้คนอื่นรู้  ให้คุณยายของคุณ 

  "สพพทานํ ธ มมทานํ ชินาติ ธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง"

ธรรมทานจึงเป็นบุญที่สูงกว่า  การให้ทานทั้งปวง  คุณเข้าไปเว็บไหน  ก็เอาเรื่องนี้ลงในเว็บหล่านั้น  แล้วอธิฐานจิตอุทิศกุศลให้คุณยาย


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: anonzero ที่ ตุลาคม 08, 2012, 03:19:00 PM
ผมเชื่อเรื่องนี้นะ


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: sroader17 ที่ พฤษภาคม 01, 2013, 09:02:48 PM
เช่นกันครับ เชื่ออยุ่


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: inthachak ที่ ตุลาคม 22, 2015, 12:40:27 PM
นรกมีจริง ไม่ต้องรอตายแล้วก็ได้ค่ะ ชาตินี้ก็สามารถรับรู้ได้เลยค่ะ เช่น คนที่เกิดในประเทศที่อดอยาก ไม่มีอาหารจะกิน ต้องอยู่อย่างลำบาก เด็กที่เกิดมาในครอบครัวกรรมกร ต้องนอน เล่น กิน อย่างลำบาก อดอยาก สุดท้ายก็ต้องเป็นกรรมกรเหมือนผู้ให้กำเนิด แต่บางท่านอาจค้านในใจว่ามีเด็กได้ดีก็เยอะแยะ ถ้าเช่นนั้นท่านไปมองดูเฉพาะคนที่ประสบความสำเร็จท่านลองมองว่าส่วนใหญ่เป็นอย่างไรจึงจะสามารถหยั่งรู้ได้ว่า นั่นเป็นกรรมที่ทำมาในหลายชาติจึงมาเกิดในท้องแม่ที่มีฐานะยากจน


หัวข้อ: Re: นรกมีจริง! ไม่ต้องสงสัย
เริ่มหัวข้อโดย: AVATAR ที่ มกราคม 07, 2016, 12:55:20 PM
ถูกแล้วครับ เป็นมาจากผลของอกุศลกรรมในชาติก่อนๆและชาตินี้ ที่ได้สั่งสมมาครับ